การใช้โครงสร้างประโยค Question Tags (ปัจจุบัน)

01NokAcademy_Question Tag Profile

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป. 6 ที่น่ารักทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้ในหัวข้อเรื่อง
การใช้โครงสร้างประโยค Question Tags ในรูปแบบปัจจุบัน
โดยที่เราจะเจอกลุ่มประโยคในลักษณะนี้ร่วมกับรูปแบบโครงสร้างประโยคและกริยาที่เป็นปัจจุบัน
(V. 1 and Present form) พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยค่า

ความหมายของ Question Tags

 

02NokAcademy_Question Tagความหมาย

Question แปลว่า คำถาม ส่วนคำว่า Tag จะแปลว่า วลี ที่นำมาใช้ต่อท้ายประโยค เพื่อทำให้เป็นประโยคคำถาม ดังนั้น ถ้าแปลตามคำนิยามแล้ว Question Tag ก็คือ วลีคำถาม นั่นเองค่ะ แต่มักจะเรียกทับศัพท์ไปเลยว่า Question Tag (เคว็สเชิน แท็ก) เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ตามโครงสร้างประโยคด้านล่างเลยนะคะนักเรียนที่รัก

โครงสร้างประโยค Question Tag โดยหลักๆแล้วมี 3 เทคนิค ดังนี้

03NokAcademy_Question Tagโครงสร้างประโยค

  • หากว่าประโยคหลักเป็นประโยคบอกเล่า ตรงส่วนของ Question Tag จะเป็นคำถามเชิงปฏิเสธ ซึ่งจะมี Not เพิ่มเข้ามา
  • หากว่าประโยคหลักเป็นปฏิเสธ ตรงส่วนของ Question Tag จะเป็นคำถามเชิงบอกเล่า
    (ไม่มี Not)
  • หากว่าประธานของประโยคหลักเป็นคำนาม เช่น คน สัตว์ สิ่งของ ในส่วนของ
    Question Tag จะเปลี่ยนเป็นสรรพนามที่แทนประธานโดยทันที เช่น he, she, it

ตัวอย่างหลักการใช้ Question Tag กับ Verb to be

 

04NokAcademy_Question Tagตัวอย่างหลักการใช้

ข้อควรจำคือ

เมื่อเจอ กริยาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Verb to be (is, am, are, was, were), กริยาแท้ แม้แต่ กริยาช่วย ในประโยคในส่วนของ Question tag ต้องเป็น Verb to be
แต่ว่าในบทเรียนนี้ครูจะขอยกตัวอย่างการใช้ Question Tag ในรูปแบบปัจจุบันกันค่ะ

 

ตัวอย่างประโยค Question Tag ในปัจจุบัน

 

05NokAcademy_Question Tagโครงสร้างปัจจุบัน


โครงสร้าง:

Subject + are +… , aren’t you?


Student: You are from Bangkok, aren’t you?
= คุณมาจากกรุงเทพ ใช่มั้ย

Beauty: Sorry, I’m from the North of Thailand.
= ไม่ใช่ค่ะครู หนูมาจากภาคเหนือค่ะ

Teacher: You are from Chiang Mai, aren’t you?
= แล้วมาจากเชียงใหม่รึเปล่าคะ

Beauty: Nope, I’m from Chiang Rai.
= ไม่ค่ะ หนูมาจากเชียงราย

 

ตัวอย่างประโยคที่เจอบ่อยๆ

 

  • ถ้าประโยคหลักมี “กริยาช่วย” ประโยค Question Tag ต้องใช้กริยาช่วยตัวนั้น

 

Wellness can speak Chinese, can’t she?
= เวลเนสพูดจีนได้ ใช่ไหม

Jenny shouldn’t see him, should she?
= เจนนี่ไม่ควรพบเขา ใช่ไหม

You haven’t done your homework, have you?
= คุณทำการบ้านยังไม่เสร็จ ใช่ไหม *

 

I’m British, aren’t I?
แปลว่า ฉันเป็นคนบริติช ใช่มั้ยนะ

I’m not supposed to be in the UK, am I?
แปลว่า ฉันไม่ควรอยู่ที่ประเทศอังกฤษเลย  ว่ามั้ย

You’re a teacher in Germany, aren’t you?
แปลว่า คุณเป็นครูที่ประเทศเยอรมัน  ใช่มั้ยคะ/ครับ

The Japanese friends were not at school yesterday, were they?
แปลว่า เมื่อวานเพื่อนชาวญี่ปุ่นไม่ได้อยู่ที่โรงเรียน ใช่ไหม

* ในบางครั้งอาจะใช้ am I not?, aren’t I?, amn’t I?, และ ain’t I?  ขึ้นอยู่กับบริบทที่ใช้

 

Present Simple Tense ประโยค Question Tag

 

06NokAcademy_Question Tag in Present Simple Tense

 

  • ถ้าประโยคหลักเป็น Present Simple Tense ประโยค Question Tag ต้องใช้ do, don’t/ does, doesn’t

 

We have two brothers, don’t we?
= พวกเรามีพี่ชายสองคน ไม่ใช่เหรอ

You don’t like living in Thailand, do you?
= คุณไม่ชอบอาศัยอยู่ที่ประเทศไทย ใช่มั้ย

เพิ่มเติม:

ถ้า have กับ has เป็นกริยาแท้ของประโยค ที่แปลว่า มี, กิน, ดื่ม
Question tag
จะใช้ do, does

การใช้ ประโยคเชิงชักชวน ใน Question Tag

 

07NokAcademy_Question Tag “ประโยคคำสั่ง หรือ ขอร้อง”

 

หากว่าประโยคหลักมี Let’s (Let us) ในส่วนของประโยค Question Tag จะใช้ shall we

 

Let’s fly to the Philippines next week , shall we?
แปลว่า พวกเราบินไปประเทศฟิลิปปินส์สัปดาห์หน้ากันเถอะ ป้ะ

มาจาก Shall we fly to the Philippines next week?

 

Let’s watch the Singaporean TV show, shall we?
แปลว่า
 พวกเราดูทีวีโชว์ช่องสิงคโปร์กันเถอะ ดีมั้ย

มาจาก Shall we watch the Singaporean TV show?

 

  • ถ้าประโยคบอกเล่าที่ใช้กับ “There”
    08NokAcademy_Question Tagถ้าประโยคบอกเล่าที่ใช้กับ “There”

    ตามโครงสร้าง There + is, are, was, were จะมีความหมายว่า มี

    ในส่วนของประโยค Question Tag จะต้องใช้ is, are, was, were + there?

 

There is a girl in that house, isn’t there?
แปล มีเด็กผู้หญิงอยู่ในบ้านหลังนั้นไม่ใช่เหรอ

 

There aren’t many people at the school, are there?
แปล มีคนไม่มากเกินไปที่โรงเรียนใ่ช่มั้ย

แบบฝึกหัดเรื่อง Question Tag

 

10NokAcademy_Question Tagแบบฝึกหัดเรื่อง Question Tag

Choose the best answer for each of the following sentences.

1.Peachy goes to the cinema every weekend,………………?

a. does not she

b. doesn’t she
c. doesn’t she go
d. does she

 

2. Jessy walks to school every day, …..she?

a. don’t
b. doesn’t
c. did
d. never done

 

3.My brother’s car needs cleaning every morning,……………?

a. doesn’t it
b. needsn’t it
c. isn’t it
d. needs it

 

 4.I am a singer by profession,…………….?

a. aren’t I
b. amn’t I
c. am I
d. are I

 

5.Let’s sing a karaoke,…………..?

a. don’t we
b. don’t you
c. shall we
d. shalln’t we

 

6.Please go see the dentist at 7 P.M. tomorrow,………….?

a. won’t you
b. will you
c. don’t you
d. do you

 

7.We study together at school every day,……….?

a. don’t we
b. do you
c. don’t you
d. don’t you have

 

8.You’d better finish your project today,………….?

a. hadn’t you
b. don’t you
c. do you
d. better you

 

9.Natasha is the best for Lucas,…………?

a. isn’t it

b. is it

c. hardly it

d. is that Jenny

 

10.Nothing else is gone with the her ex boyfriend,……….?

a. isn’t it

b. is it

c. isn’t then

d. isnt’ it

 

 

 เฉลยแบบฝึกหัด Question Tag

 

11NokAcademy_Question Tagเฉลยแบบฝึกหัดเรื่อง Question Tag

 

  1. b
  2. c
  3. a
  4. a
  5. c
  6. b
  7. a
  8. a
  9. b
  10. b

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะนักเรียนที่น่ารักทุกคน หวังว่าทุกคนจะได้ความรู้และประโยชน์จากการอ่านบทเรียน “เรื่อง Question Tags ที่ใช้กับประโยคปัจจุบัน” นี้นะคะ อย่าลืมทบทวนบทเรียนกับวีดีโอด้านล่างด้วยนะคะ กดตรงปุ่มเพลย์แล้วไปเรียนให้สนุกและได้ความรู้แบบเต็มๆกัน
See you there!

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การใช้ Quantity words

การใช้ Quantity words

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.1 ทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้ “การใช้ Quantity words ” ในภาษาอังกฤษกันค่ะ Let’s go! ไปลุยกันโลด Quantity words คืออะไร “Quantity words” คือคำบอกปริมาณนั่นเอง เช่น much, many, few, a few, lots

จำนวนเฉพาะและตัวประกอบเฉพาะ

จำนวนเฉพาะและตัวประกอบเฉพาะ

จำนวนเฉพาะและตัวประกอบเฉพาะ บทความนี้จะทำให้น้องๆ รู้จัก จำนวนเฉพาะและตัวประกอบเฉพาะ  น้องๆหลายคนคุ้นเคยกับจำนวนเฉพาะมาบ้างแล้ว แต่น้องๆทราบหรือไม่ว่า ตัวประกอบเฉพาะคืออะไร ซึ่งน้องๆจะได้เรียนรู้จากตัวอย่างที่ได้รวบรวมไว้ในบทความนี้ โดยได้นำเสนออกมาในรูปแบที่เข้าใจง่าย ทำให้น้องๆสนุกกับการเรียนคณิตศาสตร์ ซึ่งเนื้อหาในบทความนี้เป็นเนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับความหมายของ ตัวประกอบ  ตัวประกอบของจำนวนเต็มใด ๆ  คือ จำนวนที่หารจำนวนนั้นได้ลงตัว  ถ้าจำนวนที่ 2 หารได้ลงตัว เรียกว่า จำนวนคู่  ส่วนจำนวนที่

สถิติ (เส้นโค้งความถี่)

บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เรื่อง สถิติ (เส้นโค้งความถี่)  ซึ่งก่อนที่จะเรียนเรื่องนี้ น้องๆจะต้องมีความรู้ในเรื่อง    ค่ากลางของข้อมูล และการวัดการกระจายของข้อมูล สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่  ⇒⇒ สถิติ (ค่ากลางของข้อมูล/การกระจายของข้อมูล) ⇐⇐ เส้นโค้งของความถี่ จะมีอยู่ 3 แบบ คือ เส้นโค้งปกติ เส้นโค้งเบ้ขวา และเส้นโค้งเบ้ซ้าย ซึ่งจะมีความสัมพันธ์กับค่ากลางของข้อมูล  ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (μ)   มัธยฐาน (Med) และฐานนิยม

NokAcademy_ม5 การใช้ Modal Auxiliaries

Modal Auxiliaries ที่สำคัญ

สวัสดีค่านักเรียนชั้นม.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดู ” Modal Auxiliaries หรือ Modal verbs “ ที่ใช้บ่อยพร้อมเทคนิคการใช้งานง่ายๆกันค่า Let’s go! ไปลุยกันเลยจร้า รู้จักกับ Modal Auxiliaries   Modal Auxiliaries คือ กริยาช่วยกลุ่ม  Modal verbs หรือ 

ฟังก์ชันผกผัน

ฟังก์ชันผกผัน ฟังก์ชันผกผัน หรืออินเวอร์สฟังก์ชัน เขียนแทนด้วย เมื่อ เป็นฟังก์ชัน จากที่เรารู้กันว่า ฟังก์ชันนั้นเป็นความสัมพันธ์ ดังนั้นฟังก์ชันก็สามารถหาตัวผกผันได้เช่นกัน แต่ตัวผกผันนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นฟังก์ชันเสมอไป เพราะอะไรถึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นฟังก์ชัน เราลองมาดูตัวอย่างกันค่ะ ให้ f = {(1, 2), (3, 2), (4, 5),(6, 5)}  จะเห็นว่า f เป็นฟังก์ชัน

ตัวอย่างโจทย์ปัญหาสัดส่วน

บทความนี้เราจะได้เรียนรู้วิธีการในการหาค่าตัวแปรในการใช้สัดส่วน สามารถมารถนำไปประยุกต์ใช้กับการแก้โจทย์ปัญหาในชีวิตจริงได้ พิจารณาสิ่งที่ต้องการแสดงการเปรียบเทียบโดยการเขียนเป็นอัตราส่วนสองอัตราส่วนอย่างเป็นลำดับและหาค่าของตัวแปรได้

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1