หลักการคูณทศนิยม พร้อมตัวอย่างที่เข้าใจง่าย

บทความนี้จะพาน้อง ๆมาทำความเข้าใจกับหลักการคูณทศนิยมในแต่ละรูปแบบ พร้อมทั้งอธิบายหลักการและยกตัวอย่างวิธีคิดในแต่ละรูปแบบของการคูณทศนิยม ให้น้อง ๆสามารถนำไปปรับใช้กับการหาคำตอบจากแบบฝึกหัดในห้องเรียนได้จริง

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

ทศนิยมมีค่าประจำหลักเป็นเศษส่วน ซึ่งเมื่อนำทศนิยมคูณด้วยทศนิยมผลลัพธ์ที่ได้ออกจะมีจะตำแหน่งของทศนิยมที่เปลี่ยนไป ตามหลักการคูณทศนิยมที่กล่าวไว้ดังนี้ “จำนวนตำแหน่งของทศนิยมของผลคูณต้องเท่ากับตำแหน่งของทศนิยมของตั้วตั้งและตัวคูณรวมกัน”

รูปแบบการคูณทศนิยม มีทั้งหมด 2 รูปแบบ

1.การคูณทศนิยมกับจำนวนเต็ม

หลักการคูณทศนิยมกับจำนวนเต็มนั้นสามารถทำได้ 2 วิธี

1.1 วิธีตั้งคูณ

สิ่งสำคัญของการตั้งคูณคือ ต้องว่างจุดทศนิยมที่ตำแหน่งเดิมและทำการคูณตัวเลขตามหลักการคูณของจำนวนเต็มปกติ

คูณทศนิยมกับจำนวนเต็ม

1.2 วิธีแปลงทศนิยมให้เป็นเศษส่วน

วิธีนี้ใช้หลักการคูณเศษส่วนในการคำนวณ โดยเมื่อทำทศนิยมให้เป็นเศษส่วนแล้ว ต้องทำให้จำนวนเต็มเป็นเศษส่วนด้วย ซึ่งตัวส่วนของจำนวนเต็มจะมีค่าเป็น 1 เสมอ จากนั้นก็ทำการคูณโดยนำตัวเศษคูณด้วยตัวเศษ และตัวส่วนคูณด้วยตัวส่วน เมื่อได้ผลลัพธ์แล้วต้องแปลงกลับเป็นเป็นทศนิยมอีกครั้ง

ตัวอย่างคูณทศนิยม

 

2.การคูณทศนิยมกับทศนิยม

หลักการคูณทศนิยมกับทศนิยมนั้นสามารถทำได้ 2 วิธี

2.1 วิธีตั้งคูณ

  • ตัวตั้งเป็นทศนิยม 1 ตำแหน่งและตัวคูณเป็นทศนิยม 1 ตำแหน่ง รวมเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง ดังนั้นผลคูณที่ได้จะต้องตอบเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง
  • ตัวตั้งเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่งและตัวคูณเป็นทศนิยม 1 ตำแหน่ง รวมเป็นทศนิยม 3 ตำแหน่ง ดังนั้นผลคูณที่ได้จะต้องตอบเป็นทศนิยม 3 ตำแหน่ง แต่จะมีบางกรณีที่ผลคูณมีตัวเลข 0 เป็นเลขสุดท้าย จะทำให้ตำแหน่งของทศนิยมลดลงได้
  • ตัวตั้งเป็นทศนิยม 3 ตำแหน่งและตัวคูณเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง รวมเป็นทศนิยม 5 ตำแหน่ง ดังนั้นผลคูณที่ได้จะต้องตอบเป็นทศนิยม 5 ตำแหน่ง แต่จะมีบางกรณีที่ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่ถึง 5 ตัวเลข ต้องทำการเติมเลข 0 ข้างหน้าผลลัพธ์ เพื่อทำให้ครบ 5 ตำแหน่ง

ทศนิยม

2.2 วิธีแปลงทศนิยมให้เป็นเศษส่วน

วิธีนี้ใช้หลักการคูณเศษส่วนในการคำนวณ โดยเมื่อทำทศนิยมของตัวตั้ง และตัวคูณให้เป็นเศษส่วนแล้ว จากนั้นก็ทำการคูณโดยนำตัวเศษคูณด้วยตัวเศษ และตัวส่วนคูณด้วยตัวส่วน เมื่อได้ผลลัพธ์แล้วต้องแปลงกลับเป็นเป็นทศนิยมอีกครั้ง โดยตำแหน่งของทศนิยมสามารถดูจากจำนวน 0 ที่เป็นผลลัพธ์ของการคูณตัวส่วน

คูณเศษส่วน

 

คลิปตัวอย่างการคูณทศนิยม

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

ศึกษา นิทานเวตาล เรื่องที่10 และคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในเรื่อง

​ นิทานเวตาล เป็นนิทานเรื่องเล่าที่แฝงไปด้วยคุณค่าและคติธรรมมากมาย หากแต่เต็มไปด้วยคุณค่า สำหรับฉบับแปลไทยของกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์มีด้วยกัน 10 เรื่อง เรื่องที่อยู่ในแบบเรียนภาษาไทย คือเรื่องสุดท้าย ดังนั้นบทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปทำความรู้จักกับตัวบทเด่น ๆ ที่น่าสนใจในนิทานเรื่องนี้เพื่อถอดความหมายและศึกษาคุณค่าทั้งด้านวรรณศิลป์ ด้านเนื้อหา และข้อคิดที่ได้จากเรื่อง ถ้าพร้อมแล้วไปเรียนรู้เรื่องนี้ด้วยเลยค่ะ   ตัวบทเด่นใน นิทานเวตาล เรื่องที่10   บทที่ 1  

M1 This, That, These, Those

การใช้ This, That, These, Those

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.1 ที่น่ารักทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนเรื่อง การใช้ This, That, These, Those ในภาษาอังกฤษ กันค่ะ พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจ้า   บทนำ ก่อนที่นักเรียนจะไปเรียนเรื่อง การใช้  This, That, These, Those ครูอยากจะให้ลองดูตัวอย่างของการใช้ This, That, These, Those (Determiners) และ

Profile where + preposition P6

การใช้ประโยค Where’s the + (Building) + ? It’s + (Preposition Of Place)

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับ ประโยค การถามทิศทาง แต่เอ้ะ Where is the building? แปลว่า ตึกอยู่ที่ไหน ประโยคนี้เป็นการถามทางแบบห้วนๆ ที่ใช้กับคนที่เราคุ้นชินหรือคนที่เรารู้จัก แต่หากนักเรียนต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องถามกับคนแปลกหน้าโดยเฉพาะฝรั่ง คงต้องมาฝึกถามให้สุภาพมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการเกริ่นขึ้นก่อนที่เราจะถามนั่นเองค่ะ ซึ่งนักเรียนที่รักทุกคนได้เรียนรู้ในบทเรียนนี้นะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย รูปแบบการถามทิศทาง   โครงสร้างประโยคถามแบบตรงๆ (Direct Question) “

เรียนรู้การเขียนเชิงวิชาการ อย่างง่ายเพียง 4 ขั้นตอน

การเขียนเชิงวิชาการ อาจจะดูเป็นการเขียนที่ยากในความคิดของหลาย ๆ คน เพราะดันมีคำว่า วิชาการ อยู่ด้วยนั่นเอง แต่น้อง ๆ ทราบไหมคะว่าที่จริงแล้วการเขียนเชิงวิชาการนั้นไม่ได้ยุ่งยากและซับซ้อนเลย แถมยังมีวิธีขั้นตอนการเขียนที่ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น ถ้าน้อง ๆ อยากรู้แล้วว่ามันจะง่ายขนาดนั้นจริงหรือ? เราไปหาคำตอบของเรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ   การเขียนเชิงวิชาการ คืออะไร?   คือ องค์ความรู้เชิงวิชาการที่ได้จากการตกผลึกทางความคิดของผู้เขียนที่ต้องการถ่ายทอดหรือสื่อสารให้ผู้อื่นได้รับรู้ผ่านกระบวนการเรียบเรียง โดยอาศัยการศึกษาค้นคว้า สำรวจ

ฟังก์ชันประกอบ

ฟังก์ชันประกอบ

ฟังก์ชันประกอบ ฟังก์ชันประกอบ คือฟังก์ชันที่เกิดจากการหาค่าฟังก์ชันที่ส่งจากเซต A ไปเซต C โดยที่ f คือฟังก์ชันที่ส่งจาก A ไปยัง B และ g เป็นฟังก์ชันที่ส่งจาก B ไปยัง C เราเรียกฟังก์ชันที่ส่งจาก A ไป C นี้ว่า gof  จากรูป

การทดลองสุ่มและเหตุการณ์

บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เรื่อง การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ ซึ่งได้กล่าวถึงในลักษณะของความหมายและยกตัวอย่างประกอบ และอธิบายอย่างละเอียด ซึ่งก่อนจะเรียนเรื่อง การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ น้องๆสามารถทบทวน ความน่าจะเป็น ได้ที่  ⇒⇒ ความน่าจะเป็น ⇐⇐ การทดลองสุ่ม การทดลองสุ่ม  คือ การทดลองซึ่งทราบว่าผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นอาจจะเป็นอะไรได้บ้าง  แต่ไม่สามารถบอกได้อย่างถูกต้องแน่นอนว่าในแต่ละครั้งที่ทำการทดลอง  ผลที่เกิดขึ้นจากการทดลองจะเป็นอะไรในบรรดาผลลัพธ์ที่อาจเป็นไปได้เหล่านั้น  เช่น การโยนเหรียญซึ่งมีผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นได้ 2 แบบ คือ หัวหรือก้อย เมื่อโยนเหรียญ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1