กัณฑ์มัทรี ศึกษาตัวบทและข้อคิดของกัณฑ์ที่ 9 ในมหาชาติชาดก

กัณฑ์มัทรี

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

กัณฑ์ หมายถึง คำเทศน์ หรือตอนหนึ่ง ๆ ของเทศน์เรื่องยาว นับเป็นลักษณนามของเทศน์ ในมหาชาติชาดก เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นมากันไปแล้วว่ามีทั้งหมด 13 กัณฑ์ รวมถึงเรื่องย่อของกัณฑ์มัทรี ซึ่งเป็นกัณฑ์ที่ 9 มีความเชื่อว่าถ้าใครได้ฟังเทศน์มหาชาติทั้ง 13 กัณฑ์ของมหาชาติชาดก ก็จะทำให้ขึ้นสวรรค์ นอกจากนี้หากบูชากัณฑ์ต่าง ๆ ก็จะได้ผลที่ดีแก่ตัวเอง ผู้ที่บูชากัณฑ์มัทรี จะทำให้เป็นผู้มั่งคั่ง สมบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สมบัติ เป็นผู้มีอายุยืนยาว มีรูปโฉมที่สวยงาม ไปที่ไหนก็จะพบแต่ความสุข น้อง ๆ สงสัยไหมคะว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เนื้อหาใน กัณฑ์มัทรี นั้นเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าน้อง ๆ อยากรู้แล้วล่ะก็เราไปเจาะลึกตัวบทเด่น ๆ กันค่ะว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

 

ตัวบทเด่นใน กัณฑ์มัทรี

 

ตัวบทที่ 1

กัณฑ์มัทรี

 

เป็นการบรรยายถึงเหตุการณ์ตอนที่นางมัทรีวิ่งตามหาลูกไปทั่วป่า ใช้ตามองไปทุกหนแห่ง ใช้หูฟังเสียงลูก ตะโกนเรียกลูกจนสุดเสียง และออกวิ่งสุดฝีเท้าเพื่อตามหาลูกเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้ ในบทนี้โดดเด่นในเรื่องการซ้ำคำ ซึ่งเป็นลักษณะที่สำคัญของมหาชาติสำนวนของภาคกลาง จะเห็นได้เรื่อย ๆ ในบทต่อ ๆ ไป

 

ตัวบทที่ 2

กัณฑ์มัทรี

 

เป็นตอนที่นางมัทรีกลับมาถามพระเวสสันดรว่าพระกุมารหายไปไหน แล้วพระเวสสันดรแกล้งกล่าวโทษว่าเพราะนางมัทรีหลงลืมลูกไม่สนใจผัว มัวแต่อยู่ในป่า แม้ตอนแรกจะทำเป็นไม่อยากไปก็ตาม แต่กลับมาซะเย็น พอหาลูกไม่เจอก็ตีอกชกหัวว่าลูกหายไปไหน และยังว่าอีกว่าใครจะไปรู้ความคิดผู้หญิง ถ้ารักลูกจริงเหมือนที่พูดก็ต้องรีบกลับมาก่อนตะวันจะตกดิน บทนี้สะท้อนความมีไหวพริบของผู้พูดอย่างพระเวสสันดรที่ออกอุบายให้นางมัทรีคลายความเศร้าและเปลี่ยนมาโกรธแทน

 

 

เป็นตอนที่นางมัทรีไปตามหาพระกุมารทั้ง 2 ตั้งแต่ค่ำจนรุ่งเช้า จนเกิดอาการอ่อนเพลียจึงสลบไป เมื่อพระเวสสันดรมาเห็นก็ตกใจ คิดว่านางมัทฟรีสิ้นใจแล้ว จึงยกศีรษะของนางมาวางบนตักแล้วตัดพ้อว่า ตนเองบุญน้อยแล้วนางยังจะมาจากไปอีก จะเอาป่านี่มาเป็นป่าช้าฝังศพ จะเอาศาลานี่มาเป็นเมรุเผาศพ จะเอาเสียงนกสาลิกามาเป็นเสียงกลองในงานศพ จะเสียงจักจั่นมาเป็นเสียงแตรสังข์ จะเอาเมฆหมอกในอากาศมากั้นเป็นเพดานหรือ

ซึ่งพระเวสสันดรตัดพ้อขึ้นมาเพราะกำลังเสียใจอย่างมาก คิดว่านางมัทรีสิ้นใจแล้วจึงตั้งคำถามว่านางจะมาตายในป่าแบบนี้จริงหรือ เพราะนอกจากจะโดนเนรเทศมาอยู่ในป่ากับด้วยกันกับลูกแล้ว ตอนนี้ลูกยังต้องไปอยู่กับชูชกทำให้เหลือกันอยู่แค่สองคนผัวเมีย แล้วนางก็จะยังจะจากไปอีก บทนี้ถึงนางมัทรีไม่ได้ตายจริง ๆ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ ความรักของสามีที่มีต่อภรรยา

 

คำศัพท์

 

 

ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง

ลูกเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ ใครจะรัก จะห่วง จะให้ลูกได้เท่ากับที่พ่อแม่รัก นั้นย่อมหาได้ยาก

 

จากบทเรียนที่ได้เรียนรู้กันไป ทำให้ได้รู้ว่าการเทศน์มหาชาติคือมหากุศลที่เตือนบุคคลให้ตระหนักถึงการบำเพ็ญบารมี ให้ทาน สละความเห็นแก่ตัวเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เรียกได้ว่ามีประโยชน์รอบด้าน ทั้งฟังและได้บุญ ได้ข้อคิด นำพาให้เราไปทำในสิ่งที่ดี ก็ยังได้ซึมซับความสวยงามของภาษาที่ใช้ในบทประพันธ์นี้อีกด้วย ก่อนจากกัน น้อง ๆ สามารถติดตามคลิปการสอนของครูอุ้มเพื่อฟังคำอธิบายในแต่ละตัวบทเพิ่มเติม และสามารถตามไปฟังคลิปสรุปความรู้ เพื่อให้ไม่พลาดในการทำข้อสอบ ไปดูกันเลยค่ะ

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

เลขยกกำลัง

เลขยกกำลัง ที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ

เลขยกกำลัง ที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ เลขยกกำลัง ที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะมีความเกี่ยวข้องกับกรณฑ์ในบทความ จำนวนจริงในรูปกรณฑ์ จากที่เรารู้ว่า จำนวนตรรกยะคือจำนวนที่สามารถเขียนอยู่ในรูปเศษส่วนของจำนวนเต็มได้ เช่น , , , 2 , 3 เป็นต้น ดังนั้นเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ ก็คือจำนวนจริงใดๆยกกำลังด้วยจำนวนที่สามารถเขียนในรูปเศษส่วนของจำนวนเต็ม เช่น , เป็นต้น โดยนิยามของเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ คือ เมื่อ k และ

ความเป็นมาของบทละครเรื่องรามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก

บทละครเรื่องรามเกียรติ์ เป็นวรรณคดีที่สำคัญและมีอิทธิพลต่อความคิดความเชื่อของคนไทยมาอย่างยาวนาน น้อง ๆ หลายคนก็คงจะรู้จักและเคยเห็นผ่านตากันมาบ้างตามสื่อต่าง ๆ แต่ทราบไหมคะว่าวรรณคดีเรื่องนี้มีที่มาอย่างไร และทำไมถึงมาเป็นบทละคร มีความสำคัญอย่างไรจึงมาอยู่ในบทเรียนวิชาภาษาไทย เราไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   ความเป็นมาของบทละครเรื่องรามเกียรติ์     รามเกียรติ์ เป็นวรรณคดีที่ได้รับอิทธิพลและมีเค้าโครงเรื่องมาจากมหากาพย์รามายณะที่ฤๅษีวาลมีกิ ชาวอินเดียเป็นคนแต่งขึ้นเป็นภาษาสันสกฤต แม้จะไม่ปรากฏปีที่วรรณคดีเรื่องดังกล่าวเข้ามาเผยแผ่ในไทยอย่างแน่ชัด แต่ด้วยจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ก็ทำให้นักวิชาการคาดการณ์ว่าเป็นช่วงสมัยอยุธยา และในสมัยกรุงธนบุรี พระเจ้าตากสินได้ทรงประพันธ์เพื่อให้ละครหลวงเล่น ก่อนที่ต่อมาสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่

NokAcademy_ม5 การใช้ Modal Auxiliaries

Modal Auxiliaries ที่สำคัญ

สวัสดีค่านักเรียนชั้นม.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดู ” Modal Auxiliaries หรือ Modal verbs “ ที่ใช้บ่อยพร้อมเทคนิคการใช้งานง่ายๆกันค่า Let’s go! ไปลุยกันเลยจร้า รู้จักกับ Modal Auxiliaries   Modal Auxiliaries คือ กริยาช่วยกลุ่ม  Modal verbs หรือ 

การเขียนเรียงความ

เทคนิคการเขียนเรียงความง่าย ๆ ที่จะช่วยถ่ายทอดความคิดให้เป็นขั้นตอน

การเขียนเรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่มีสำคัญมาก เพราะเป็นการถ่ายทอดความคิดให้ออกมาอยู่ในรูปของตัวอักษร จะมีวิธีเขียนอย่างไรบ้างนั้น บทเรียนในวันนี้จะทำให้น้อง ๆ มีความรู้ความเข้าใจถึงวิธีการเขียนเรียงมากขึ้น จะเป็นอย่างไรนั้น ไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ     เรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่แสดงออกถึงความรู้สึกนึกคิด ความเห็น ความเข้าใจของผู้เขียน มีรูปแบบและวิธีการเขียนที่มีแบบแผน เพื่อถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นตัวอักษรให้น่าอ่าน และยังเป็นพื้นฐานของการเขียนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความหรือนวนิยายอีกด้วย โดยประเภทของการเขียนเรียงความมีดังนี้ 1. เรื่องที่เขียนเพื่อความรู้ 2. เรื่องที่เขียนเพื่อความเข้าใจ

โจทย์ปัญหาการนำเสนอข้อมูล

โจทย์ปัญหาการนําเสนอข้อมูล

บทความนี้จะยกตัวอย่างเกี่ยวกับโจทย์ปัญหาการนำเสนอข้อมูลให้น้องๆทราบถึงวิธีคิดหรือวิธีทำเพื่อหาคำตอบที่ถูกต้อง

เทคนิคการใช้ Yes, No Questions M.1

เทคนิคการใช้ Yes, No Questions ในภาษาอังกฤษ

  สวัสดีค่ะนักเรียน ม.  1 ที่น่ารักทุกคนวันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิคและวิธีการอย่างง่ายในการใช้ประโยค Yes/No questions กันค่ะไปลุยกันเลยค่า Yes, No Questions คืออะไร คือ ประโยคคำถามที่ต้องการคำตอบรับ (Yes) หรือปฏิเสธ (No) เป็นการถามที่ผู้ถามอาจจะมีข้อมูลอยู่บ้างว่า ว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หรือผู้ถามอาจจะถามเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นจริงตามที่เข้าใจหรือเปล่า ในที่นี้ครูจึงแยกออกเป็น 3 ชนิดค่ะ คือ ประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1