ศึกษาที่มาของ ขัตติยพันธกรณี บทประพันธ์ที่มาจากเรื่องจริงในอดีต

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

ขัตติยพันธกรณี เป็นพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 5 มีที่มาจากเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์ น้อง ๆ สงสัยกันไหมคะว่าเกี่ยวกับเรื่องไหน เหตุใดพระองค์จึงต้องพระราชนิพนธ์วรรณคดีเรื่องนี้ขึ้นมา เราไปหาคำตอบถึงที่มา ความสำคัญ และเนื้อเรื่องกันเลยค่ะ รับรองว่านอกจากจะได้ความรู้เกี่ยวกับบทประพันธ์แล้ว บทเรียนในวันนี้ยังมีเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์ให้น้อง ๆ อีกด้วยค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ

 

ที่มาของ ขัตติยพันธกรณี

 

ขัตติยพันธกรณี

 

ขัตติยพันธกรณีมีความหมายถึงเหตุอันเป็นข้อผูกพันของกษัตริย์ เป็นพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและตอบกลับโดยสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ มีที่มาจากเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์ ช่วง ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) หรือที่เรียกว่าวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112

วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112

เกิดจากความขัดแย้งเรื่องดินแดนระหว่างไทยกับฝรั่งเศสที่พยายามจะยึดครองประเทศลาว ซึ่งในเวลานั้นเป็นประเทศราชของไทย สถานการณ์ได้เริ่มบานปลาย เมื่อฝรั่งเศสส่งเรือปืนแองกงสตองและเรือโกเมต ข้ามสันดอนเข้ามายังไทย โดยมีเรือชองบาตีสต์เซ เป็นเรือนำร่องเข้ามาล่วงล้ำอธิปไตยของสยาม และในขณะเดียวกันนั้น ทหารที่ประจำ ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้าและป้อมผีเสื้อสมุทรที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ได้เกิดการปะทะกัน แต่ในที่สุดเรือปืนแองกงสตองและเรือโกเมต ก็สามารถฝ่ากระสุนเข้ามาทอดสมอจอดที่หน้าสถานทูตฝรั่งเศสได้

รัฐสภาฝรั่งเศสได้ประชุมพิจารณาและลงมติมอบอำนาจให้รัฐบาลดำเนินการให้รัฐบาลสยามรับรองและเคารพสิทธิของฝรั่งเศส และรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งยื่นข้อเรียกร้องให้สยามดำเนินการดังนี้

 

ขัตติยพันธกรณี

 

จากวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ทำให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสียพระทัยเป็นอย่างยิ่งจนประชวรหนัก
ไม่ยอมเสวยใด ๆ ระหว่างนั้นจึงได้พระราชนิพนธ์บทโคลงและฉันท์เป็นจดหมายระบายความทุกข์โทมนัสจนไม่ปรารถนาจะดำรงพระชนม์ชีพอีกต่อไป จากนั้นจึงส่งไปให้พี่น้องบางพระองค์เพื่ออำลา สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพซึ่งเป็นพระเจ้าน้องยาเธอจึงทรงตอบกลับมาทำให้พระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเจ้าเกล้าอยู่หัวนั้นดีขึ้น

 

ลักษณะคำประพันธ์

 

ขัตติยพันธกรณี

 

 

เนื้อหาของ ขัตติยพันธกรณี

 

พระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ 5

โคลงสี่

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงปรารภว่าพระองค์ประชวรมานานด้วยโรคฝีสามยอดและยังมีส่าไข้เป็นผื่นไปทั้งตัว เป็นที่หนักใจแก่ผู้รักษา แต่นอกจากจะป่วยกายแล้วยังป่วยใจอีกด้วยจึงมีพระราชดำริที่จะเสด็จสวรรคตเพื่อปลดเปลื้องภาระ แต่ไม่อาจทำเช่นนั้นได้ ทรงเปรียบพันธกรณีที่มีต่อชาติบ้านเมืองในฐานะที่พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ทำให้เหมือนถูกตอกตะปูและไปไหนไม่ได้ เพราะพระองค์จะต้องปกป้องบ้านเมืองและประชาชน

อินทรวิเชียรฉันท์

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบรรยายความรู้สึกของพระองค์ที่เบื่อหน่าย หมดกำลังพระทัย และกังวลว่าจะรักษาบ้านเมืองไว้ไม่ได้เหมือนที่ในสมัยอยุธยาเคยเสียกรุงไปถึงสองครั้ง พระองค์ไม่ต้องการเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่สามที่ทำให้ประเทศสูญเสียเอกราช

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงระบายไว้ในพระราชหัตถเลขาว่า กลัวเป็นทวิราช บ่ตริป้องอยุธยา เสียเมืองจึงนินทา บ่ละเว้นฤาว่างวาย

ทวิราช หมายถึง สองพระราชา นั้นหมายถึงพระเจ้าอุทุมพรและพระเจ้าเอกทัศ กษัตริย์สององค์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยา

 

 

สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ตอบกลับ

อินทรวิเชียรฉันท์ 

โดยเนื้อหาที่ตอบกลับแสดงถึงความวิตกและความทุกข์ของประชาชนชาวไทยในพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรวมตัวพระองค์เองด้วย ทรงเปรียบประเทศชาติเป็นรัฐนาวาโดยมีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯเป็นผู้บัญชาการเรือ หากไม่ทรงปฏิบัติงาน ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาก็ย่อมทำตัวไม่ถูก และเป็นธรรมดาที่เมื่อเวลาเรือแล่นไปในมหาสมุทรจะเจอกับพายุหนักบ้าง ดังนั้นตราบใดที่เรือยังไม่จมก็ต้องหาทางออก ถ้าแก้จนสุดความสามารถแล้วแก้ไม่ได้ก็ยอมรับสภาพ และจะไม่มีใครกล่าวโทษพระองค์

นอกจากนี้สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพก็ยังเปรียบตัวเองเป็นเหมือนม้าที่เป็นพระราชพาหนะเตรียมพร้อมที่จะรับใช้จนกว่าจะสิ้นชีพ สุดท้ายคืออวยพรขอให้อำนาจแห่งคำสัตย์ของพระองค์ดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯทรวงหายอาการประชวรทั้งพระวรกายและพระราชหฤทัย ให้พระองค์ดำรงพระชนม์ชีพยืนนานเพื่อเกื้อกูลและสร้างความเจริญให้แก่ประเทศชาติต่อไป

วรรณคดีเรื่องขัตติยพันธกรณีไม่ใช่เรื่องราวที่ถูกแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง ไม่ได้มีตัวละครที่ถูกสมมติขึ้น รวมไปถึงความเจ็บปวดและความทุกข์ที่ปรากฏในเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกเสริมเติมแต่งขึ้นมา หากแต่เป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจจริงของพระมหากษัตริย์ผู้อยากปกป้องบ้านเมืองและตัวแทนของประชาชนทุกคนที่พร้อมเอาใจช่วยให้ประเทศฝ่าฟันวิกฤตไปให้ได้ หลังจากได้เรียนรู้ที่มาและความสำคัญกันไปแล้ว ในบทเรียนต่อไปน้อง ๆ ก็จะได้พบกับตัวบทเด่น ๆ ที่น่าสนใจเพื่อศึกษาบทประพันธ์และถอดความ รวมไปถึงศึกษาคุณค่าที่อยู่ในเรื่องอีกด้วย แต่ก่อนจากกันน้อง ๆ อย่าลืมหมั่นทบทวนบทเรียนโดยการชมคลิปการสอนของครูอุ้มเพื่อไม่ให้พลาดในการทำข้อสอบนะคะ

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

แยกให้ออก บอกให้ถูกสำนวน สุภาษิต คำพังเพยแตกต่างกันอย่างไร?

บทนำ สวัสดีน้อง ๆ ที่น่ารักทุกคนกลับมาเข้าสู่เนื้อหาการเรียนภาษาไทยกันอีกเช่นเคย สำหรับวันนี้จะเป็นบทเรียนที่ทั้งสนุก มีสาระ และเป็นเนื้อหาที่เราต้องได้เจอบ่อย ๆ ในการเรียนภาษาไทยอย่างเรื่องสำนวน สุภาษิต และคำพังเพย น้อง ๆ อาจจะเคยได้ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างเพราะเป็นบทเรียนที่ได้เริ่มเรียนตั้งแต่ช่วงประถมศึกษาแล้ว แต่วันนี้เราจะมาเรียนรู้ในเชิงลึกขึ้นไปอีกเกี่ยวกับวิธีการสังเกตระหว่างสำนวน สุภาษิต และคำพังเพยนั้นมีความเหมือน หรือแตกต่างกันอย่างไร มีตัวอย่างประกอบให้ทุกคนได้ดูด้วย ถ้าน้อง ๆ คนไหนพร้อมแล้วก็ไปลุยกับเนื้อหาของวันนี้ได้เลย   สำนวน สำนวน

เสียงสระในภาษาไทย

เสียงในภาษาไทยมีทั้งหมด 3  เสียงคือพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ จากที่เราได้ทำความเข้าใจในเรื่องเสียงพยัญชนะกันไปแล้ว วันนี้เราจะมาเรียนรู้อีกเสียงหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันก็คือเรื่องเสียงสระนั่นเองค่ะ เสียงสระจะมีกี่ชนิด แบ่งเป็นชนิดใดบ้าง ไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ     เสียงสระ เสียงสระเป็นเสียงที่เกิดจากลมภายในปอด เปล่งออกมาโดยใช้การเคลื่อนไหวของลิ้นและริมฝีปาก เสียงที่ได้จะแบ่งออกได้ดังนี้ค่ะ สระเดี่ยว สระเดี่ยวหรือสระแท้ มีทั้งหมด 18 เสียง เสียงสั้นและเสียงยาวจับกันได้ 9

แผนภูมิแท่ง และการเปรียบเทียบข้อมูล

บทความนี้จะพูดถึงการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของแผนภูมิแท่งไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบข้อมูล 2 จำนวน และ 3 จำนวน น้องๆจะสามารถนำข้อมูลที่สำรวจมาเขียนเป็นแผนภูมิแท่งได้และจะง่ายต่อการนำเสนอมากยิ่งขึ้น

การใช้คำคุณศัพท์และการเรียงคำคุณศัพท์

การใช้คำคุณศัพท์และการเรียงคำคุณศัพท์ คำคุณศัพท์ (Adjective) คืออะไร? ก่อนเราจะเริ่มเข้าเนื้อหา ทางผู้เขียนก็อยากจะพูดถึงความหมายและความสำคัญของคำคุณศัพท์ (Adjective) กันก่อน คำคุณศัพท์ (Adjectives) มักจะุถูกใช้ในการอธิบายลักษณะรูปร่างทางกายภาพของทั้งสิ่งของและสิ่งมีชีวิตที่รวมถึงตัวของมนุษย์เอง โดยที่เราจะมาเรียนกันวันนี้คือการที่บางครั้ง คำคุณศัพท์ (Adjective) นั้นจะมีลักษณะที่ถูกใช้อธิบายลักษณะทางกายภาพที่มากกว่าหนึ่งอย่าง ในภาษาไทยของเรา ก็มีการเรียกคำคุณศัพท์ หรือที่เรียกว่า order of adjective ด้วยเหมือนกัน จากศึกษาและพูดคุยกับนักศึกษาศาสตร์ พบว่า การใช้ภาษาไทยในปัจจุบันไม่ได้มีการกำหนดการเรียงลำดับคำคุณศัพท์แบบภาษาอังกฤษที่ชัดเจน

มารยาทในการฟังที่ดี

มารยาทในการฟังที่ดีควรมีข้อปฏิบัติอย่างไร??

บทนำ สวัสดีน้อง ๆ ทุกคน วันนี้เราจะพาไปพบกับบทเรียนง่าย ๆ ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้นั่นก็คือเรื่อง มารยาทในการฟังที่ควรปฏิบัติ ซึ่งเป็นเรื่องที่เด็ก ๆ ควรจะเรียนรู้ไว้ เนื่องจากเราต้องใช้ทักษะการฟัง ในทุก ๆ วัน แต่การจะฟังอย่างมีมารยาทนั้นเราจะต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง ถ้าน้อง ๆ คนไหนอยากรู้ เดี๋ยวเราไปดูบทเรียนเรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยดีกว่า     มารยาท

อิเหนา

อิเหนา จากนิทานปันหยีสู่วรรณคดีเลื่องชื่อของไทย

อิเหนา เป็นวรรณคดีที่ถูกเผยแพร่เข้ามาในไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา น้อง ๆ สงสัยไหมคะว่าจุดเริ่มต้นของนิทานของชาวชวานี้มีจุดเริ่มต้นในไทยอย่างไร เหตุใดถึงถูกประพันธ์ขึ้นเป็นบทละครให้ได้เล่นกันในราชสำนัก ถ้าน้อง ๆ พร้อมหาคำตอบแล้ว เราไปเรียนรู้ประวัติความเป็นมาและเรื่องย่อของอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิงกันเลยค่ะ   ความเป็นมา   อิเหนามีความเป็นมาจากนิทานปันหยี หรือที่เรียกว่า อิเหนาปันหยีรัตปาตี ซึ่งเป็นนิทานที่เล่าแพร่หลายกันมากในชวา เชื่อกันว่าเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ของชวา ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 16 ปรุงแต่งมาจากพงศาวดารชวา อิทธิพลของเรื่องอิเหนาเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกในสมัยอยุธยา จากการที่เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลและเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1