แพทยศาสตร์สงเคราะห์ ศึกษาที่มาของมรดกทางวรรณคดีของชาติ

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

ในยุคสมัยที่การแพทย์ยังไม่เจริญก้าวหน้า ภาวะการเจ็บป่วยของประชาชนมีมากขึ้น แพทยศาสตร์สงเคราะห์ ถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้แพทย์และประชาชนสามารถศึกษาเรื่องของโรคภัยได้ด้วยตนเอง เป็นภูมิปัญญาทางการแพทย์และมรดกทางวรรณคดีของชาติที่สำคัญมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่ง บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปทำความรู้จักกับวรรณคีเรื่องสำคัญที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ สืบทอดว่ามีที่มาและเนื้อหาอย่างใน คัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทยศาสตร์สงเคราะห์

 

ความเป็นมา แพทยศาสตร์สงเคราะห์

 

ตำราแพทยศาสตร์สงเคราะห์ เป็นตำราแพทย์แผนโบราณฉบับหลวง มีที่มาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงเห็นว่า บรรดาคัมภีร์แพทย์แผนโบราณและตำรายาพื้นบ้านของไทยนั้นมีความสำคัญ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การรักษาไว้ จึงมีพระราชปรารภให้จัดทำตำราแพทย์ขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายให้ใช้เป็นตำราเรียนในราชแพทยาลัยและใช้เป็นตำราแพทย์สามัญประจำบ้านสำหรับประชาชนทั่วไป ชื่อ ตำราแพทยศาสตร์สงเคราะห์

 

 

ตำราแพทยศาสตร์สงเคราะห์แบ่งพิมพ์เป็นเล่มเล็ก ๆ แต่พิมพ์ได้เพียงแค่ 3 เล่มก็ต้องเลิกเพราะขาดทุนในการจัดพิมพ์ ต่อมาผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนราชแพทยาลัยได้ร่วมกันจัดตั้งโรงเรียนเวชสโมสรขึ้น และได้จัดพิมพ์ตำราแพทยศาสตร์ขึ้นอีกครั้ง เป็นวารสารรายเดือน โดยใช้ชื่อเดียวกันว่า แพทยศาสตร์สงเคราะห์ แต่พิมพ์ได้เพียง 4 ฉบับก็ยกเลิกเพราะขาดแคลนทุนทรัพย์เช่นเดียวกันกับครั้งแรก

 

แพทยศาสตร์สงเคราะห์

 

ต่อมา เนื่องจากตำราหลวงที่ใช้อ้างอิงนั้นใช้เฉพาะแพทย์หลวง พระยาพิศณุประสาทเวช (คง ถาวรเวช) หรือหมอคง อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญของราชแพทยาลัยริเริ่มจัดพิมพ์ตำราแพทยศาสตร์สงเคราะห์ฉบับสมบูรณ์ขึ้นเพื่อให้ประชาชนที่ป่วยสามารถเข้าถึงตำราได้ และเพื่อให้อนุรักษ์ตำราแพทย์แผนไทยไว้ให้คนรุ่นหลัง โดยการจัดพิมพ์ครั้งนี้ได้รับพระอนุญาตและความอนุเคราะห์ของสมเด็จพระเจ้าบรมววงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ นายกสภาหอพระสมุดวชิรญาณ ทำให้ในที่สุดก็ได้รวบรวมและจัดพิมพ์เป็น 2 เล่มจบ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2450

 

แพทยศาสตร์สงเคราะห์

 

ตำรา แพทยศาสตร์สงเคราะห์ 14 คัมภีร์

 

1. คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ว่าด้วยจรรยาของแพทย์ทับ 8 ประการ

2. คัมภีร์ปฐมจินดาร์ ว่าด้วย ครรภรักษา การคลอด

3. คัมภีร์ธาตุวิภังค์ ว่าด้วยลักษณะธาตุพิการ (ธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และสมุนไพร ที่ใช้รักษา)

4. คัมภีร์สรรพคุณ ว่าด้วยสรรพคุณของสมุนไพรชนิดต่าง ๆ

5. คัมภีร์สมุฏฐานวินิจฉัย ว่าด้วยความรู้ในการวินิจฉัยโรคและการรักษาสุขภาพ

6. คัมภีร์วรโยคสาร ว่าด้วยคุณลักษณะของแพทย์ ลักษณะของผู้ป่วย การรักษาโรค คุณค่าของยาและอาหาร

7. คัมภีร์มหาโชตรัต ว่าด้วยโรคของสตรี และสมุนไพรที่ใช้รักษา

8. คัมภีร์ชวดาร ว่าด้วยโรคลมและโรคเลือด และสมุนไพรที่ใช้รักษา

9. คัมภีร์โรคนิทาน ว่าด้วยสาเหตุของโรค และสมุนไพรที่ใช้รักษา

10. คัมภีร์ธาตุวิวรณ์ ว่าด้วยลักษณะธาตุพิการ และสมุนไพรที่ใช้รักษา

11. คัมภีร์ธาตุบรรจบ ว่าด้วยเรื่องอุจจาระที่เป็นสาเหตุของโรค และสมุนไพรที่ใช้รักษา

12. คัมภีร์มุจฉาปักขันธิกา ว่าด้วยโรคของบุรุษและโรคของสตรี และสมุนไพรที่ใช้รักษา

13. คัมภีร์ตักกะศิลา ว่าด้วยอาการโรคระบาดชนิดต่าง ๆ

14. คัมภีร์ไกษย ว่าด้วยโรคกษัยชนิดต่าง ๆ และสมุนไพรที่ใช้รักษา

 

ลักษณะคำประพันธ์

 

เนื้อหาตอนเปิดเรื่องใช้คำประพันธ์ประเภท กาพย์ยานี 11 แต่ในตอนลักษณะทับ 8 ประการ จะใช้ฉันทลักษณะเป็นร่าย

 

คัมภีร์ฉันทศาสตร์

 

คัมภีร์ฉันทศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งของแพทยศาสตร์สงเคราะห์ เนื้อหาที่นำมาเป็นบทเรียนเริ่มจากบทไหว้ครู ไหว้พระรัตนตรัย ไหว้เทพ เจ้าของพราหมณ์ ไหว้หมอชีวกโกมารภัจจ์ (แพทย์หลวงของพระเจ้าพิมพิสาร) และกล่าวถึงจรรยาบรรณแพทย์ เพื่อไม่ให้เป็นแพทย์ที่ไม่ดี

 

ลักษณะแพทย์ที่ไม่ดี

1. มุสา

2. ยกตน

3. มารยา (เขาเจ็บน้อยว่าเจ็บมาก)

4. หวังลาภ

5. ไปเยี่ยมไข้โดยไม่มีคนเชิญ

6. กาเม (รักษาโรคด้วยโลภะ)

7. ถือตน (ไม่ยอมรักษาคนไข้อนาถา)

8. ถือว่าเป็นหมอเก่าชำนาญกว่าผู้อื่น

9. แก่กายไม่แก่รู้

10. ประมาทผู้มีความรู้

11. ดูหมิ่นผู้มีความรู้แม้เป็นเด็ก

12. ไม่เรียนรู้คัมภีร์แพทย์ต่างๆ ให้เจนจัด

13. ไม่ประพฤติตนอยู่ในศีลแปดและศีลห้า

14. ไม่ตัดบาป ๑๔ ประการ

 

แพทยศาสตร์สงเคราะห์

 

ลักษณะของแพทย์ที่ไม่ดีนี้ทำให้เห็นว่าควรประพฤติอย่างไรเพื่อให้เป็นแพทย์ที่ดี ต่อมามีการเปรียบข้าศึกเป็นโรคภัย หัวใจเป็นกษัตริย์ และร่างกายเปรียบเหมือนนคร ดังนั้นแพทย์ที่เปรียบเหมือนทหารควรจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญที่จะช่วยต่อสู้กับข้าศึกหรือก็คือโรคภัย นอกจากทหารแล้วเรามีวังหน้า คือน้ำดีคอยป้องกันข้าศึกมิให้เข้ามาตีบ้านเมืองได้ มีอาหารเป็นเสมือนหนึ่งกองเสบียงเลี้ยงไพร่พล แพทย์จึงมีหน้าที่รักษาหัวใจ น้ำดี และอาหารไว้มิให้โรคร้ายต่าง ๆ มาจู่โจมร่างกายได้

 

ตำราแพทยศาสตร์สงเคราะห์นั้นคือเป็นหนึ่งในตำราที่มีความสำคัญต่อทั้งประชาชนและประเทศ เพราะความรู้มากมายที่ถูกรวบรวมไว้นั้นสามารถช่วยชีวิตคนได้มาอย่างยาวนานนับร้อยปี ถึงแม้ว่าในปัจจุบันการแพทย์จะก้าวหน้าขึ้นมาก แต่ตำราแพทยศาสตร์สงเคราะห์ก็สะท้อนให้เห็นถึงความรู้ความสามารถของแพทย์ในอดีตรวมไปถึงภาพวิถีชีวิตของคนในยุคสมัยก่อนที่อยู่ในช่วงการพัฒนาประเทศอีกด้วยค่ะ ก่อนจะไปเรียนรู้ในส่วนของตัวบทเด่น ๆ เพื่อเป็นการทบทวนบทเรียน น้อง ๆ อย่าลืมไปชมคลิปการสอนของครูอุ้มย้อนหลังนะคะ ในคลิปครูอุ้มได้อธิบายเรื่องกายนครและลักษณะของแพทย์ที่ดีเอาไว้อย่างละเอียดและสนุกมาก ๆ ไปชมกันเลยค่ะ

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

สมมูลและนิเสธ

สมมูลและนิเสธของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ

“สมมูลและนิเสธ” ของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ สมมูลและนิเสธ เราเคยเรียนกันไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่เป็นของประพจน์ p, q, r แต่ในบทความนี้จะเป็นสมมูลและนิเสธของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ ซึ่งก็จะเอาเนื้อหาก่อนหน้ามาปรับใช้กับประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ สิ่งที่เราจะต้องรู้และจำให้ได้ก็คือ การสมมูลกันของประพจน์ เพราะจะได้ใช้ในบทนี้แน่นอนน ใครที่ยังไม่แม่นสามารถไปอ่านได้ที่ บทความรูปแบบของประพจน์ที่สมมูลกัน  นิเสธของตัวบ่งปริมาณ เมื่อเราเติมนิเสธลงไปในประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ ข้อความต่อไปนี้จะสมมูลกัน กรณี 1 ตัวแปร ∼∀x[P(x)] ≡ ∃x[∼P(x)] ∼∃x[P(x)]

การตรวจสอบความสมเหตุสมผล

การตรวจสอบความสมเหตุสมผล

จากบทความที่ผ่านมาเราเรียนเรื่องการให้เหตุผลแบบนิรนัย บทความนี้เป็นเนื้อหาเรื่องการตรวจสอบความสมเหตุสมผลซึ่งมักจะออกสอบทั้งในโรงเรียนและ O-Net หลังจากน้องๆได้อ่านบทความนี้แล้วน้องๆจะทำข้อสอบได้แน่นอนค่ะ

การใช้ Tenses : Present Simple Tense/ Present Continuous Tense

สวัสดีนักเรียนชั้นม.2 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดู “การใช้ Tenses : Present simple/ Present Continuous” พร้อมทั้งตัวอย่างสถานการณ์ใกล้ตัว หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย ทบทวน Present Simple Tense       ความหมาย: Present แปลว่า ปัจจุบัน ดังนั้น Present

สัญลักษณ์แทนการบวก

สัญลักษณ์แทนการบวก

สัญลักษณ์แทนการบวก สัญลักษณ์แทนการบวก หรือ   เรียกว่า ซิกมา ( Sigma ) เราใช้เพื่อลดรูปการบวกกันของตัวเลข เนื่องจากว่าบางทีเป็นการบวกของจำนวนตัวเลข 100 พจน์ ถ้ามานั่งเขียนทีละตัวก็คงจะเยอะไป เราจึงจะใช้เครื่องหมายซิกมามาใช้เพื่อประหยัดเวลาในการเขียนนั่นเอง เช่น 1 + 2 + 3 + 4 +5  สามารถเขียนแทนด้วย

ทฤษฎีบทพีทาโกรัส

ทฤษฎีบทพีทาโกรัส

บทความนี้น้องๆจะได้เรียนรู้กี่ยวกับการพิสูจน์ที่ทฤษฎีบทพีทาโกรัส ระหว่างด้านทั้งสามของสามเหลี่ยมมุมฉาก กำลังสองของด้านตรงข้ามมุมฉากเท่ากับผลรวมของกำลังสองของอีกสองด้านที่เหลือในแง่ของพื้นที่

โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

บทความนี้ได้รวบรวม โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ไว้หลากหลายตัวอย่าง ซึ่งแสดงวิธีคิดอย่างละเอียด สามารถเรียนรู้และเข้าใจได้ง่าย แต่ก่อนที่น้องๆจะได้เรียนรู้การแก้อโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว น้องๆสามารถทบทวน อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวเพิ่มเติมได้ที่  ⇒⇒ แนะนำอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ⇐⇐ ในการแก้ โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว จะต้องใช้สัญลักษณ์ของอสมการแทนคำเหล่านี้ <   แทนความสัมพันธ์น้อยกว่า หรือไม่ถึง >   แทนความสัมพันธ์มากกว่า หรือเกิน ≤   แทนความสัมพันธ์น้อยกว่าหรือเท่ากับ หรือไม่เกิน ≥  แทนความสัมพันธ์มากกว่าหรือเท่ากับ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1