โคลงนฤทุมนาการ โคลงสุภาษิตสอนใจรู้ไว้ไม่เป็นทุกข์

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

หลังจากได้ศึกษาเรื่องโคลงโสฬสไตรยางค์ไปแล้ว น้อง ๆ ทราบไหมคะว่าในโครงสุภาษิตยังมีเรื่องอื่นอีกด้วย และในบทเรียนที่น้อง ๆ จะได้เรียนต่อไปนี้ก็คือเรื่อง โคลงนฤทุมนาการ เป็นโคลงสุภาษิต ที่ใช้โคลงสี่สุภาพในการประพันธ์เหมือนโคลงโสฬสไตรยางค์ แต่จะมีความหมาย และเนื้อหาอย่างไรบ้าง ไปเรียนรู้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ

 

โคลงนฤทุมนาการ คืออะไร

 

โคลงนฤทุมนาการ

 

ก่อนที่จะไปเรียนรู้ว่าในโคลงนฤทุมนาการมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูกันที่ความหมายก่อนเลยค่ะ คำว่า นฤทุมนาการ มาจากคำศัพท์ต่าง ๆ ดังนี้

นฤ หมายถึง ปราศจาก

ทุ หมายถึง ไม่ดี

มน หมายถึง ใจ

อาการ หมายถึง สภาพกิริยา

เมื่อนำ นฤ + ทุ + มน + อาการ มารวมกันจะได้ นฤทุมนาการ ที่แปลว่า ไม่มีอาการเสียใจ

 

ที่มาและความสำคัญของโคลงนฤทุมนาการ

 

โคลงนฤทุมนาการ

 

โคลงนฤทุมนาการ เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แปลมาจากสุภาษิตอังกฤษในปี พ.ศ. 2423 แต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ มีบทนำเรื่อง 1 บท เนื้อเรื่องอีก 10 และสรุป 1 บท ซึ่งแนวทางที่ควรปฏิบัติทั้ง 10 นั้น เรียกว่า ทศนฤทุมนาการ เป็นโคลงสุภาษิตที่มีความสำคัญ เพราะมีเนื้อหาที่สั่งสอน และเตือนใจคน สอนให้คิดรอบคอบก่อนที่จะพูดหรือทำสิ่งใดลงไป

 

จุดประสงค์ในการแต่ง

จากชื่อ นฤทุมนาการ ที่มีความหมายว่าไม่มีอาการเสียใจนั้น จุดมุ่งหมายของแต่งโคลงสุภาษิตนี้จึงมีขึ้นมาเพื่อเป็นข้อเตือนใจแก่ผู้ที่ปฏิบัติตาม ให้บุคคลนั้นไม่เสียใจกับการกระทำของตัวเอง

 

ลักษณะคำประพันธ์

โคลงสี่สุภาพ

 

โคลงนฤทุมนาการสอนเรื่องอะไรบ้าง?

 

 

กล่าวถึงกิจ 10 ประการที่ผู้ประพฤติจะไม่เสียใจหากได้ทำลงไป มีดังนี้

1. ทำดีโดยทั่วไป

2. ไม่พูดร้ายต่อผู้อื่น

3. ถามและฟังความก่อนตัดสิน

4. คิดก่อนพูด

5. ไม่พูดในเวลาโกรธ

6. กรุณาต่อให้คนที่อับจน

7. ขอโทษเมื่อทำผิด

8. อดกลั้นต่อผู้อื่น

9. ไม่ฟังคำนินทา

10. ไม่หลงเชื่อข่าวร้าย

 

 

ตัวอย่างบทประพันธ์ใน โคลงนฤทุมนาการ

 

บทนำ

บัณฑิตวินิจแล้ว          แถลงสาร สอนเอย

ทศนฤทุมนาการ         ชื่อชี้

เหตุผู้ประพฤติปาน     ดังกล่าว นั้นนอ

โทมนัสเพราะกิจนี้     ห่อนได้เคยมี

ถอดคำประพันธ์ เป็นการกล่าวนำว่าโคลงนฤทุมนาการทั้ง 10 ข้อนั้นมีประโยชน์ ผู้ใดที่ประพฤติตามคำสอนนี้จะไม่มีเสียใจกับการกระทำของตัวเองแน่นอน

 

กิจที่ 2 ไม่พูดร้ายต่อผู้อื่น

เหินห่างโมหะร้อน         ริษยา

สละส่อเสียดมารษา      ใส่ร้าย

ตำหยาบจาบจ้วงอา-    ฆาตขู่ เข็ญเฮย

ไปหมิ่นนินทาบ้าย        โทษให้ผู้ใด

ถอดคำประพันธ์ หมายถึง การไม่พูดร้ายต่อผู้อื่น จะทำให้อยู่ห่างกับความโมโหและความอิจฉาริษยา ดังนั้นจึงไม่ควรพูดจาให้ร้าย หยาบคายจาบจ้วง อาฆาตหรือนินทาผู้อื่น

 

 

ข้อคิดและคุณค่าที่อยู่ในโคลงนฤทุมนาการ

 

โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ อธิบายสิ่งที่เป็นนามธรรมให้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งด้านการคิด การพูด และการกระทำ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ครอบคลุมการดำเนินชีวิตของทุกคนอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีคุณค่าด้านวรรณศิลป์ที่โดดเด่นด้านการใช้ถ้อยคำภาษาในบทประพันธ์ จะเห็นได้ว่าคำในแต่ละบทไม่ใช่คำยาก แต่เป็นคำที่สละสลวยอยู่ ทำให้ภาษาในวรรณคดีมีความงดงาม แต่ไม่ยากเกินกว่าจะทำความเข้าใจ

 

 

จบไปแล้วนะคะกับอีกหนึ่งบทเรียนจากโคลงสุภาษิต สำหรับ โคลงนฤทุมนาการ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ไม่ได้สอนเราแค่ด้านวรรณศิลป์ ภาษาที่สวยงาม แต่ยังสอนเราให้รู้จักคิดก่อนจะทำสิ่งใดลงไป ถือว่ามีประโยชน์มาก ๆ เลยนะคะ ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน คำสอนของโคลงสุภาษิตก็ยังคงนำมาประยุกต์ใช้ได้อยู่ น้อง ๆ ได้เรียนรู้เรื่องนี้กันไปแล้วก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กับตัวเองกันนะคะ สุดท้ายแล้ว อย่าลืมหมั่นทบทวนบทเรียนและขยันทำแบบฝึกหัด ระหว่างที่ทำก็เปิดคลิปการสอนของครูอุ้มฟังไปด้วยเพลิน ได้ทั้งความสนุกและความรู้ดี ๆ อีกเพียบเลยนะคะ ไปชมกันเลยค่ะ

 

อย่าพลาดการติดตามบทความวิชาภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

โวหารภาพพจน์ กลวิธีการสร้างจินตภาพที่ลึกซึ้งและสวยงาม

การสร้างจินตภาพอย่างการใช้ โวหารภาพพจน์ เป็นกลวิธีในการใช้ภาษาอีกอย่างหนึ่ง เลือกใช้ถ้อยคำเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพ หรืออาจเรียกว่าเป็นการแทนภาพนั่นเอง น้อง ๆ คงจะพบเรื่องของโวหารภาพพจน์ได้บ่อย ๆ เวลาเรียนเรื่องวรรณคดี บทเรียนในวันนี้เลยจะพาไปทำความรู้จักกับภาพพจน์ต่าง ๆ ให้มากขึ้นว่ามีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปดูพร้อมกันเลยค่ะ   ความหมายของภาพพจน์     ภาพพจน์ คือถ้อยคำที่เป็นสำนวนโวหารทำให้นึกเห็นภาพ ถ้อยคำที่เรียบเรียงอย่างมีชั้นเชิงเป็นโวหาร มีเจตนาให้มีประสิทธิผลต่อความคิด เป็นกลวิธีทางภาษาที่มุ่งให้เกิดความรู้ความเข้าใจจินตนาการ เน้นให้เกิดอรรถรสและสุนทรีย์ในการสื่อสารที่ลึกซึ้งกว่าการบอกเล่าแบบตรงไปตรงมา  

ฉันท์

ฉันท์ เรียนรู้การแต่งคำประพันธ์โบราณที่ได้รับอิทธิพลจากอินเดีย

จากที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับวรรณคดีกันมามากมายหลายเรื่อง น้อง ๆ หลายคนคงจะพอจะคุ้นหูและผ่านตากันมาบ้างแล้วกับคำประพันธ์ประเภท ฉันท์ แต่เมื่อเห็นครั้งแรก ด้วยความที่ไม่คุ้นเคยก็อาจจะทำให้น้อง ๆ คิดว่าคำประพันธ์ประเภทนี้แต่งยาก เพราะรู้สึกไม่คุ้นเคยเหมือนอย่างพวกกาพย์หรือกลอน แต่รู้หรือไม่คะ ว่าจริง ๆ แล้วการแต่งฉันท์ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดเลยค่ะ บทเรียนในวันนี้นอกจากจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้ความเป็นมาของฉันท์ รวมไปถึงลักษณะบังคับต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อฝึกแต่งกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้เรื่องนี้กันเลยดีกว่า   ความเป็นมาของ ฉันท์  

วิชชุมมาลาฉันท์

เรียนรู้การแต่ง วิชชุมมาลาฉันท์ 8 ฉันท์ที่เปล่งสำเนียงยาวดุจสายฟ้า

ฉันท์ คือ ลักษณะถ้อยคำที่กวีได้ประพันธ์ขึ้นเพื่อให้เกิดความไพเราะ โดยกำหนดครุ ลหุ และสัมผัสไว้เป็นมาตรฐาน มีด้วยกันมากมายหลายชนิด จากที่บทเรียนครั้งก่อนเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับที่มาและพื้นฐานการแต่งฉันท์ไปแล้ว บทเรียนในวันนี้เราจะมาเจาะลึกให้ลึกขึ้นไปอีกด้วยการฝึกแต่ง วิชชุมมาลาฉันท์ 8 กันค่ะ ฉันท์ประเภทนี้จะเป็นอย่างไร ทำไมถึงเป็น 8  ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ   คำประพันธ์ประเภท ฉันท์   ฉันท์ในภาษาไทยได้แบบแผนมาจากอินเดีย ในสมัยพระเวท แต่ลักษณะฉันท์ในสมัยพระเวทไม่เคร่งครัดเรื่องครุ ลหุ นอกจากจะบังคับเรื่องจำนวนคำในแต่ละบท

การใช้ Possessive Pronoun

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ Possessive Pronoun ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจ้า บทนำ Possessive pronoun (เช่น mine, yours, hers) ถือเป็นหัวข้อหนึ่งในภาษาอังกฤษที่หลายคนมักจะสับสน นั่นก็เพราะมันมีความคล้ายคลึงกับ Possessive adjective (เช่น my, your, her) ลองเปรียบเทียบประโยคเหล่านี้ดูนะคะ   A

ฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่ง

ฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่ง ฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่ง เป็นการส่งสมาชิกจากของเซตหนึ่งเรียกเซตนั้นว่าโดเมน ส่งไปให้สมาชิกอีกเซตหนึ่งเซตนั้นเรียกว่าเรนจ์ จากบทความก่อนหน้าเราได้พูดถึงฟังก์ชันและการส่งสมาชิกในเซตไปแล้วบางส่วน ในบทความนี้เราจะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่งมากขึ้น จากที่เรารู้ว่าเซตของคู่อันดับเซตหนึ่งจะเป็นฟังก์ชันได้นั้น สมาชิกตัวหน้าต้องไปเหมือนกัน แต่ฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่งเป็นการกำหนดขอบเขตให้ฟังก์ชันนั้นแคปลงกว่าเดิม เช่น {(1, a), (2, b), (3, a), (4, c)}  จากเซตของคู่อันดับเราสมารถตอบได้เลยว่าเป็นฟังก์ชัน เพราะสมาชิกตัวหน้าไม่เหมือนกัน แต่ฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่ง คือการที่เรามีเซต 2 เซต แล้วเราส่งสมาชิกในเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่ง

ประโยคปฏิเสธรูปแบบอดีต

สวัสดีค่ะนักเรียน ม.2 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปทบทวนเรื่อง ประโยคปฏิเสธรูปแบบอดีต ซึ่งเมื่อเล่าถึงเวลาในอดีตส่วนใหญ่แล้วเรามักเจอคำว่า yesterday (เมื่อวานนี้), 1998 (ปี ค.ศ. ที่ผ่านมานานแล้ว), last month (เดือนที่แล้ว)  และกลุ่มคำอื่นๆ ที่กำกับเวลาในอดีต ซึ่งเราจะเจอ Past Time Expressions ในกลุ่ม Past Tenses หรือ อดีตกาล

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1