ใช้ภาษาพูดอย่างไรให้ถูกต้อง และเหมาะสม

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

บทนำ

สวัสดีน้อง ๆ ทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งในบทเรียนวิชาภาษาไทย วันนี้จะเป็นการเรียนเรื่องระดับภาษา โดยจะมีการแบ่งเนื้อหาออกเป็นภาษาพูด และภาษาเขียน ซึ่งจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับระดับของภาษาพูดที่เราควรจะเลือกใช้ให้ถูกต้องตามบุคคล โอกาส และสถานที่ด้วย เป็นอีกหนึ่งบทเรียนในระดับชั้นมัธยมต้นที่น่าสนใจ   ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มเรียนไปพร้อม ๆ กันเลย

 

ภาษาพูด

 

ภาษาพูด คืออะไร

 

ภาษา เป็นตัวกลางในการสื่อความหมาย บนโลกนี้นอกจากจะมีหลากหลายภาษาแล้ว ในหนึ่งภาษานั้นก็ยังแบ่งการพูดออกเป็นหลายระดับให้เราได้เลือกใช้แตกต่างกันไป ภาษาพูด หรือภาษาปาก เป็นหนึ่งในภาษาที่ไม่เป็นทางการ มีคำสแลง หรือภาษาวัยรุ่นสอดแทรกมาด้วยในปัจจุบัน มักใช้พูดกันในหมู่เพื่อน พี่น้อง หรือครอบครัวเพื่อแสดงถึงความเป็นกันเอง

 

ภาษาพูด

 

ลักษณะของภาษาพูด

 

เป็นภาษาที่ไม่ต้องคำนึงถึงหลักการใช้มาก

ลักษณะข้อแรกของภาษาพูด คือภาษาที่เราไม่ต้องคิดถึงเรื่องหลักการอะไรมาก เพียงแค่เราต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบุคคล หรือสถานที่ก็เท่านั้น เพราะเป็นเรื่องของระดับภาษา และภาษาพูดไม่สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ ในกรณีที่ไม่ใช่คนสนิท คุ้นเคย เราก็ไม่ควรใช้ภาษาปากในการเริ่มต้นบทสนทนากับบุคคลนั้น

 

เป็นภาษาวัยรุ่น หรือภาษาเฉพาะกลุ่ม

ในแต่ละภาษาถือว่ามีคุณสมบัติสำคัญคือความยืดหยุ่น ภาษาพูดสามารถขยายวงคำศัพท์ออกไปได้รวดเร็ว อีกทั้งยังได้รับอิทธิพลจากคำแสลงเข้ามาปะปน ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกว่าภาษาเหล่านี้ให้มีอรรถรสในการพูดคุยมากขึ้น สื่ออารมณ์ความรู้สึกถึงสิ่งที่พูดอยู่ได้ชัดเจน โดยอาจจะใช้การแบ่งเป็นภาษาเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เราจะเห็นบ่อย ๆ คือภาษาวัยรุ่นที่มีดัดแปลงคำให้มีความเข้าใจเฉพาะในแวดวงวัยรุ่นด้วยกัน มีความเท่าทันโลก หรือตามกระแสมาก ๆ ตัวอย่างเช่น

 

ภาษาพูด

 

เป็นภาษาที่มักใช้ในการโฆษณา

ด้วยความที่ภาษาพูดนั้น เป็นภาษาที่เข้าใจได้ง่าย และสามารเข้าถึงบุคคลทั่วไปได้อย่างดี ทำให้เราที่เป็นผู้เสพสื่อโฆษณาสามารถเข้าถึงตัวสินค้า และบริการได้ด้วยภาษาที่ไม่ต้องทางการมาก และช่วยให้เราจำสินค้าตัวนั้นได้จากสโลแกนสั้น ๆ ที่มาจากภาษาปากเหล่านี้ด้วย  ตัวอย่างเช่น

 

ภาษาพูด

 

มักเป็นภาษาที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย

ด้วยความที่เป็นภาษาปาก ภาษาที่เราใช้พูดกับคนรู้จัก คุ้นเคย สนิทสนม ดังนั้น การเลือกใช้คำที่สั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ก็เข้าใจกัน ทำให้เราสามารถรับรู้ความต้องการของอีกฝ่ายได้ โดยไม่จำเป็นต้องพูดให้ยืดยาว ยกตัวอย่างเช่น

 

ภาษาพูด

 

ภาษาพูดมักเปลี่ยนแปลงเสียง

เนื่องจากภาษาพูดไม่ได้มีหลักการใช้ หรือว่าหลักการสร้างคำที่เป็นขั้นเป็นตอนมากนัก เราอาจจะสังเกตภาษาปากเหล่านี้ได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงเสียงในบางคำศัพท์ที่มีความคล้ายคลึงกับคำเดิม หรือความหมายเดิม เพื่อให้คำนั้นสามารถแสดงถึงความรู้สึกที่มีต่อสิ่งนั้นได้อย่างชัดเจน หรือทำให้คำที่ดูรุนแรงฟังดูเบาลง ตัวอย่างเช่น

 

ภาษาพูด

 

เป็นภาษาที่มักจะยืมคำมาจากภาษาต่างประเทศ

ลักษณะของภาษาพูดข้อสุดท้ายที่เราจะสังเกตได้ก็คือ การที่เรามักจะนำคำจากภาษาต่างประเทศมาใช้ร่วมด้วย  ซึ่งอาจจะใช้แบบทับศัพท์ หรือตัดทอนเอาบางเสียงในคำนั้นมาใช้  ยกตัวอย่างเช่น

 

ภาษาพูด

 

บทส่งท้าย

 

ภาษาพูด ถือเป็นภาษาที่เราแทบจะใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา เพราะทำให้เราสามารถสนทนากับคนที่เรารู้จักได้อย่างเป็นกันเอง พูดคุยกันแบบสบาย ๆ ถึงบางคำศัพท์จะเป็นภาษาที่ดัดแปลงเสียง หรือรูปคำไปบ้าง แต่เมื่อพูดกับเพื่อน ๆ ด้วยภาษาปากแล้ว เราก็สามารถเข้าใจกันได้ผ่านบริบทของเรื่องที่กำลังคุยกันอยู่ในขณะนั้น หวังว่าหลังจากที่เรียนเรื่องนี้แล้ว น้อง ๆ จะได้สาระความรู้ และนำภาษาพูดไปใช้ได้ถูกกาลเทศะเหมาะกับบุคคล และสถานการณ์ด้วย

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

คำที่ยืมมาจากภาษาญี่ปุ่นและจีน

คำที่ยืมมาจากภาษาญี่ปุ่นและจีน มีอะไรบ้างในภาษาไทย

  คำที่ยืมมาจากภาษาญี่ปุ่นและจีน น้อง ๆ ทราบไหมคะว่ามีคำไหนบ้าง ทั้งสองประเทศนี้คือประเทศในแทบเอเชียเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้อยู่ใกล้เรานัก แล้วทำไมถึงมีคำจากภาษาญี่ปุ่นและจีนเข้ามาปะปนอยู่ในชีวิตประจำได้ บทเรียนภาษาไทยเรื่องลักษณะคำที่ยืมมาจากภาษาญี่ปุ่นและจีนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำศัพท์ต่าง ๆ ที่ยืมมา จะมีคำไหนบ้าง ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ   ที่มาของภาษาญี่ปุ่นและจีนในภาษาไทย     คำที่ยืมมาจากญี่ปุ่นและจีน มีด้วยกันมากมายหลายคำเลยค่ะ บางคำ อาจจะไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นกับจีน ไม่ใช่คำภาษาไทย เพราะสองประเทศในเอเชียนี้เข้ามามีอิทธิพลกับประเทศมาตั้งแต่โบราณ

เรขาคณิตสามมิติ

เรขาคณิตสามมิติ

ในบทความนี้เราจะได้เรียนรู้กับรูปเรขาคณิตสามมิติและส่วนประกอบต่างๆ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง

นิทานเวตาล เรื่องเล่าที่สอดแทรกคติธรรมไว้มากมาย

นิทานเวตาล เป็นวรรณคดีอินเดียโบราณที่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับพันปี มีเนื้อหาที่บันเทิงแต่ก็สอดแทรกปริศนาธรรมและคติธรรมคำสอนไว้เพื่อเป็นเครื่องกล่อมเกลาจิตใจมนุษย์ บทเรียนในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้ประวัติความเป็นมาและเรื่องย่อจากวรรณคดีเรื่องนี้กันค่ะว่าจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ไปเรียนรู้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   ความเป็นมาของนิทานเวตาล     นิทานเวตาล หรือ เวตาลปัญจวิงศติ เป็นวรรณกรรมอินเดียโบราณ กวีคนแรกที่เป็นคนแต่งคือ ศิวทาส เมื่อ 2.500 ปี ต่อมาโสมเทวะ กวีชาวแคว้นกัษมีระได้นํามา

ความน่าจะเป็นกับการตัดสินใจ

ความน่าจะเป็นกับการตัดสินใจ บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เรื่อง ความน่าจะเป็นกับการตัดสินใจ สำหรับบางเหตุการณ์ความรู้เรื่องความน่าจะเป็นเพียงอย่างเดียว  อาจไม่เพียงพอที่จะช่วยตัดสินใจได้  จำเป็นจะต้องหาองค์ประกอบอื่นมาช่วยในการตัดสินใจด้วย  นั่นคือผลตอบแทนของการเกิดเหตุการณ์นั้น ซึ่งก่อนที่จะเรียนเรื่องนี้ น้องๆจะต้องมีความรู้ในเรื่อง ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่  ⇒⇒ ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ ⇐⇐ ผลตอบแทนของเหตุการณ์อาจหมายถึง ผลตอบแทนที่ได้หรือผลตอบแทนที่เสีย  เช่น  ในการเล่นแทงหัวก้อย  ถ้าออกหัว พีชจะได้เงิน 2 บาท และถ้าออกก้อย พอลจะต้องเสียเงิน 3 บาท เงิน 2 บาทที่พอลจะได้รับเป็นผลตอบแทนที่ได้ 

การใช้ตัวเชื่อม (Connective words): First,… Second,… Third,… Fourth,… Finally,…

 การใช้ตัวเชื่อม (Connective words) สวัสดีค่ะนักเรียน ม.2 ทุกคน วันนี้ครูมีเทคนิคที่จะทำให้ทุกคนนำไปปรับใช้กับงานเขียนด้วย  การใช้ตัวเชื่อม (connective words) ในภาษาอังกฤษกันค่ะ โดยปรกติแล้วงานเขียนแบ่งออกออกเป็นสองรูปแบบหลักๆคือ เรียงความ (Essay Writing) กับ พารากราฟ (Paragraph Writing) ขอสรุปสั้นๆง่ายๆ ให้ทุกคนเข้าใจว่า Essay คือเรียงความเพราะฉะนั้นจะยาวกว่า Paragraph ที่เป็นเพียงย่อหน้าหนึ่งเท่านั้นนั่นเองค่ะ 

การโต้วาที

โต้วาที และยอวาที แต่งต่างกันอย่างไร?

การพูดมีมากมายหลายประเภท แล้วแต่จุดประสงค์ของผู้พูดว่าต้องการจะสื่อสารออกมาในรูปแบบใด แต่จะมีอยู่ประเภทหนึ่งที่มีหัวข้อให้พูดและต้องแบ่งออกเป็นสองฝ่าย โดยไม่ได้มีเจตนาเพื่อมาทะเลาะกัน เพราะเรากำลังหมายถึงการพูดโต้วาทีและการยอวาที ที่เป็นการพูดแสดงความคิดเห็นในลักษะที่ต่างกัน แต่จะต่างกันอย่างไรบ้างนั้น เราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ   การโต้วาที     การโต้วาที เป็นการแสดงความคิดเห็นโต้แย้งด้วยเหตุผลเพื่อให้ชนะอีกฝ่าย โดยจะแบ่งผู้พูดออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายญัตติและฝ่ายคัดค้านญัตติ และมีกรรมการคอยตัดสินว่าจะให้ฝ่ายใดชนะ โดยแต่ละฝ่ายจะต้องมีข้อมูลเพื่อมาสนับสนุนการพูดของตัวเอง หักล้างแนวคิดของอีกฝ่ายและต้องมีปฏิภาณไหวพริบ   องค์ประกอบของการโต้วาที  

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1