เสียงพยัญชนะไทย ออกเสียงอย่างไรให้ถูกต้อง

การออกเสียงพยัญชนะไทย-01

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

 

เชื่อว่าน้อง ๆ หลายคงเคยสงสัยเรื่องการออกเสียงพยัญชนะไทยกันไม่มากก็น้อย เพราะพยัญชนะในภาษาไทยของเรานั้นมีด้วยกัน 44 ตัว แต่กลับมีหน่วยเสียงเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ทำไมการออกเสียงพยัญชนะไทยถึงไม่สามารถออกเสียงตามรูปอักษรทั้ง 44 รูปได้? ไหนจะพยัญชนะท้ายที่เขียนอีกอย่างแต่ดันออกเสียงไปอีกอย่าง บทเรียนในวันนี้จะช่วยไขข้อข้องใจให้กับน้อง ๆ หรือคนที่กำลังสับสนเรื่องการออกเสียงพยัญชนะไทย ให้กระจ่างและสามารถออกเสียงได้อย่างถูกต้อง ดังนั้น เราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ

 


 

เสียงพยัญชนะไทย

เสียงพยัญชนะ คือ เสียงที่ถูกเปล่งออกมาจากลำคอและถูกปิดกั้นลมด้วยอวัยวะต่าง ๆ ภายในช่องปากทำให้เสียงที่เปล่งออกมามีความแตกต่างกัน โดยเสียงพยัญชนะในภาษาไทยแบ่งออกเป็นพยัญชนะต้นและพยัญชนะท้าย ทั้งสองประเภทนี้จะมีความแตกต่างกันอย่างไรเรามาค่อย ๆ ไล่ดูกันนะคะ

 

เสียงพยัญชนะต้น

เสียงพยัญชนะต้น คือ หน่วยเสียงที่ปรากฏอยู่ต้นพยางค์ สามารถแบ่งออกมาได้อีก 2 ชนิดคือ พยัญชนะต้นเดี่ยวและพยัญชนะต้นประสม

 

เสียงพยัญชนะต้นเดี่ยว

เสียงพยัญชนะต้นเดี่ยว คือ หน่วยเสียงของรูปเสียงพยัญชนะไทย 44 รูป โดยมีทั้งหมด 21 หน่วยเสียง และเหตุที่พยัญชนะต้นเดียวมีหน่วยเสียงน้อยกว่าจำนวนพยัญชนะไทยทั้งหมดก็เพราะว่าพยัญชนะไทยบางตัว แม้จะเขียนต่างกัน แต่มีการออกเสียงเหมือนกันนั่นเองค่ะ พยัญชนะตัวไหนที่ออกเสียงเหมือนกันสามารถดูได้ตามตารางข้างล่างนี้เลย

 

 

ตัวอย่าง

ดินสอ เสียงพยัญชนะต้นคือ /ด/

ศาลา เสียงพยัญชนะต้นคือ /ซ/

โคมไฟ เสียงพยัญชนะต้นคือ /ค/

ลูกแก้ว เสียงพยัญชนะต้นคือ /ล/

ห่วงยาง เสียงพยัญชนะต้นคือ /ฮ/

 

ข้อควรจำ

เสียงพยัญชนะนาสิก : คือเสียงที่เปล่งออกมาแล้วลมส่วนหนึ่งถูกกักในช่องปากแต่ไม่ถูกปิดกั้นทางช่องจมูกทำให้ลมส่วนหนึ่งถูกปล่อยออกมาผ่านช่องจมูกได้ โดยพยัญชนะต้นเดี่ยวที่อยู่ในกลุ่มเสียงพยัญชนะนาสิกมีด้วยกัน 3 เสียง ได้แก่

เสียง /ง/ ฐานที่เกิดของเสียงคือ เพดานอ่อน

เสียง /ม/ ฐานที่เกิดของเสียงคือ ริมฝีปาก

เสียง /น/ ฐานที่เกิดของเสียงคือ ปุ่มเหงือก

เสียงพยัญชนะต้นประสม

เสียงพยัญชนะต้นประสม เป็นหน่วยเสียงที่มีพยัญชนะต้น 2 การออกเสียงจะต้องออกให้เป็นพยางค์เดียว ซึ่งเสียงควบกล้ำก็มีทั้งควบกล้ำและไม่แท้ เรามาดูที่คำควบกล้ำแท้ก่อนเลยค่ะ

 

เสียงควบกล้ำแท้

เสียงพยัญชนะไทยนั้น เมื่อมีพยัญชนะสองตัวที่อยู่ในตำแหน่งต้นพยางค์ เมื่ออ่านออกเสียงแล้วจะต้องอ่านเป็นพยางค์เดียวกัน โดยในคำควบกล้ำแท้จะเป็นการควบระหว่างตัวอักษร ก, ข, ค, ต, พ, ผ, ป, ท กับ ร, ล, ว เมื่อจับคู่แล้วจะได้พยัญชนะควบกล้ำดังนี้ค่ะ

 

ตัวอย่าง

เกรง  เสียงพยัญชนะต้นคือ /กร/

กลัว  เสียงพยัญชนะต้นคือ /กล/

กวาด เสียงพยัญชนะต้นคือ /กว/

ขรึม เสียงพยัญชนะต้นคือ /ขร/

เขลา  เสียงพยัญชนะต้นคือ /ขล/

ขวัญ เสียงพยัญชนะต้นคือ /ขว/

ครีม เสียงพยัญชนะต้นคือ /คร/

เคลิ้ม  เสียงพยัญชนะต้นคือ /คล/

แคว้น เสียงพยัญชนะต้นคือ /ครว

เตรียม  เสียงพยัญชนะต้นคือ /ตร/

พริก  เสียงพยัญชนะต้นคือ /พร/

พลอย เสียงพยัญชนะต้นคือ /พล/

เผลอ เสียงพยัญชนะต้นคือ /ผล

ปราบ เสียงพยัญชนะต้นคือ /ปร/

ปลูก  เสียงพยัญชนะต้นคือ /ปล/

นิทรา คำว่า ทรา เสียงพยัญชนะต้นคือ /ทร/

 

นอกจากนี้ยังมีเสียงพยัญชนะควบกล้ำที่ได้รับอิทธิพลมาจากคำในภาษาต่างประเทศอีก 5 เสียง ดังรูปข้างล่างนี้เลยค่ะ

เสียงพยัญชนะไทย

 

ตัวอย่าง

เบรก  เสียงพยัญชนะต้นคือ /บร/

บล็อก  เสียงพยัญชนะต้นคือ /บล/

ดรีม เสียงพยัญชนะต้นคือ /ดร/

ฟรี เสียงพยัญชนะต้นคือ /ฟร/

ฟลูออไรด์ เสียงพยัญชนะต้นคือ /ฟล/

 

เสียงควบกล้ำไม่แท้

คือคำที่มีตัว ร ควบอยู่ แต่ออกเสียงเหมือนพยัญชนะเดี่ยว จะออกเสียงเพียงพยัญชนะตัวหน้าเท่านั้น เช่นคำว่า จริง เสียงต้นพยัญชนะคือ /จ/

 

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการออกเสียงพยัญชนะต้น

คำบางคำที่แม้จะเป็นว่าขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ 2 ตัว แต่ก็ไม่ได้ออกเสียงเป็นคำควบกล้ำเสมอไป จึงไม่จัดเป็นพยัญชนะต้นประสม ดังนี้

 

  • /ทร/ เป็นคำควบกล้ำที่ออกเสียงเหมือนพยัญชนะเดี่ยว คือเสียง /ซ/

เช่น  ทรุดโทรม อ่านออกเสียงเป็น /ซ/ พยัญชนะต้นคือ /ซ/

 

  • อักษรนำ คือ คำที่ อ หรือ ห นำตัวอักษรต่ำเดี่ยว ได้แก่ /อย/ /หม/ และ /หน/

เช่น อยาก อ่านออกเสียงเป็น /ย/ พยัญชนะต้นคือ /ย/

หรือคำว่า หนี อ่านออกเสียงเป็น /น/ พยัญชนะต้นคือ /น/

หลังจากที่ได้เรียนรู้พยัญชนะต้นเไปแล้ว เรามาดูเรื่องพยัญชนะท้ายกันบ้างค่ะ

 

เสียงพยัญชนะท้าย

พยัญชนะท้าย หรือ หน่วยเสียงพยัญชนะตัวสะกด ในภาษาไทยมีทั้งหมด 8 เสียงด้วยกันค่ะ

เสียงพยัญชนะไทย

เสียงพยัญชนะไทย

 

ตัวอย่าง

สุนัข เสียงพยัญชนะท้ายคือ /ก/ หรือ แม่กก

อำนาจ เสียงพยัญชนะท้ายคือ /ด/ หรือ แม่กด

สุภาพ เสียงพยัญชนะท้ายคือ /บ/ หรือ แม่กบ

สีแดง เสียงพยัญชนะท้ายคือ /ง/ หรือ แม่กง

บริเวณ เสียงพยัญชนะท้ายคือ /น/ หรือ แม่กน

นม เสียงพยัญชนะท้ายคือ /ม/ หรือ แม่กม

เปื่อย เสียงพยัญชนะท้ายคือ /ย/ หรือ แม่เกย

กลัว  เสียงพยัญชนะท้ายคือ /ว/ หรือ แม่เกอว

 

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการออกเสียงพยัญชนะท้าย

คำบางคำที่แม้ว่าจะไม่มีพยัญชนะต่อท้ายแต่ก็มีเสียงพยัญชนะรวมอยู่ในสระแล้ว ได้แก่

อำ มาจาก  อะ+ม

ไอ ใอ อัย มาจาก อะ + ย

เอา มาจาก อะ + ว

ถ้าไม่สังเกตให้ดีอาจจะทำให้สับสนและเข้าใจว่าไม่มีพยัญชนะท้ายได้ค่ะ

ตัวอย่างพยัญชนะท้ายที่เสียงพยัญชนะรวมอยู่ในสระ

ระกำ เสียงพยัญชนะท้ายคือ /ม/ หรือ แม่กม

ผ้าใบ เสียงพยัญชนะคือ /ย/ หรือ แม่เกย

ภูเขา เสียงพยัญชนะท้ายคือ /ว/ หรือ แม่เกอว

 

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้คงช่วยให้น้อง ๆ หลายคนเริ่มเข้าใจการออกเสียงพยัญชนะไทยกันมากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ จะเห็นได้ว่าการออกเสียงพยัญชนะไทยนั้นแม้จะดูซับซ้อนแต่ก็ไม่ยากเกินที่จะทำความเข้าใจเลย สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่อยากฟังคำอธิบายและดูตัวอย่างแบบฝึกหัดเพื่อให้เข้าใจมากขึ้นก็สามารถตามไปดูคลิปการสอนของครูอุ้มได้ที่คลิปข้างล่างนี้เลยค่ะ

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

Relative Clause

อนุประโยค Relative Clause ใช้อย่างไรในภาษาอังกฤษ

Relative Clause คืออะไร?   สวัสดีค่ะนักเรียนม. 3 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปดู Relative clause หรือ อนุประโยคในภาษาอังกฤษ ที่ทำหน้าที่เหมือนกันกับคำคุณศัพท์ (Adjective) ซึ่งมีหน้าที่ขยายคำนามที่อยู่ข้างหน้า  และจะใช้ตามหลัง Relative Pronoun เช่น  who, whom, which, that, และ whose

การบอกลักษณะต่างๆ โดยใช้คำคุณศัพท์ Profile

การบอกลักษณะต่างๆโดยใช้คำคุณศัพท์

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.3 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิค การบอกลักษณะต่างๆโดยใช้คำคุณศัพท์ (Descriptive Adjective) กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า    ความหมายของคำคุณศัพท์     คำคุณศัพท์หรือ Adjective มีตัวย่อคือ Adj.  ทำหน้าที่ขยายคำนามหรือสรรพนามที่อยู่ในประโยค คำนามหรือสรรพนาม ณ ที่นี้ ก็คือ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่

ระยะห่างของเส้นตรง

ระยะห่างของเส้นตรง

ระยะห่างของเส้นตรง ระยะห่างของเส้นตรง มีทั้งระยะห่างระหว่างจุดกับเส้นตรง และระหว่างเส้นตรงสองเส้นที่ขนานกัน ซึ่งจากบทความเรื่องเส้นตรง น้องๆพอจะทราบแล้วว่าเส้นตรงสองเส้นที่ขนานกันความชันจะเท่ากัน ในบทความนี้น้องๆจะทราบวิธีการหาระยะห่างของเส้นตรงที่ขนานกันด้วยซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ในการหาสมการเส้นตรงได้ด้วย ระยะห่างระหว่างเส้นตรงกับจุด จากรูปจะได้ว่า  โดยที่ A, B และ C เป็นค่าคงที่ และ A, B ไม่เป็นศูนย์พร้อมกัน ตัวอย่าง1  หาระยะห่างระหว่างจุด (1, 5) และเส้นตรง 2x

ภาษาถิ่นใต้

ภาษาถิ่นใต้ มรดกทางวัฒณธรรมที่ควรค่าแก่การศึกษา

ภาษาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม โดยสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมผ่านภาษามากที่สุด ก็คือ การมีอยู่ของภาษาถิ่น ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้พูดติดต่อสื่อสารตามท้องถิ่นต่าง ๆ เพื่อให้คนในพื้นที่เข้าใจกัน ประเทศไทยมีทั้งหมด 6 ภาค ภาษาถิ่นที่เด่นชัดที่สุดจะแบ่งออกเป็นภาษาถิ่นภาคกลางซึ่งครอบคลุมไปถึงภาคตะวันตะวันตก อาจมีแตกต่างบ้างในเรื่องของคำศัพท์บางคำและสำเนียง ภาษาถิ่นเหนือและภาษาถิ่นอีสาน ที่ได้รับอิทธิพลจากประเทศเพื่อนบ้าน และด้วยภูมิภาคที่อยู่ใกล้กันทำให้บางคำก็ใช้ด้วยกัน และสุดท้าย ภาษาถิ่นใต้ ที่ค่อนข้างจะแตกต่างกับภาษาถิ่นอื่น ๆ แต่จะมีลักษณะ และมีคำศัพท์น่ารู้อะไรบ้างนั้น เราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ   ภาษาถิ่นใต้  

การเรียงคำคุณศัพท์ (Adjective Order)

น้องๆ น่าจะรู้จักหรือเคยได้ยิน “คำคุณศัพท์” หรือ Adjective ในภาษาอังกฤษกันมาบ้างแล้วใช่มั้ยครับ? ซึ่งหน้าที่ของคำเหล่านี้คือเพิ่มความหมายและบอกลักษณะของคำนามนั่นเอง วันนี้เราจะมาเรียนรู้กันว่าหากมี Adjective มากกว่า 1 คำมาขยายคำนาม เราจะเรียงลำดับมันอย่างไรดี ไปดูกันเลย!

การเขียนเรียงความ

เทคนิคการเขียนเรียงความง่าย ๆ ที่จะช่วยถ่ายทอดความคิดให้เป็นขั้นตอน

การเขียนเรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่มีสำคัญมาก เพราะเป็นการถ่ายทอดความคิดให้ออกมาอยู่ในรูปของตัวอักษร จะมีวิธีเขียนอย่างไรบ้างนั้น บทเรียนในวันนี้จะทำให้น้อง ๆ มีความรู้ความเข้าใจถึงวิธีการเขียนเรียงมากขึ้น จะเป็นอย่างไรนั้น ไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ     เรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่แสดงออกถึงความรู้สึกนึกคิด ความเห็น ความเข้าใจของผู้เขียน มีรูปแบบและวิธีการเขียนที่มีแบบแผน เพื่อถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นตัวอักษรให้น่าอ่าน และยังเป็นพื้นฐานของการเขียนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความหรือนวนิยายอีกด้วย โดยประเภทของการเขียนเรียงความมีดังนี้ 1. เรื่องที่เขียนเพื่อความรู้ 2. เรื่องที่เขียนเพื่อความเข้าใจ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1