คำซ้ำคืออะไร เรียนรู้และเข้าใจหลักการสร้างคำอย่างง่าย

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

 

จากที่ได้เรียนเรื่องการสร้างคำประสมและคำซ้อนไปแล้ว บทเรียนหลักภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้การสร้างคำอีกหนึ่งชนิดที่สำคัญไม่แพ้สองคำก่อนหน้า นั่นก็คือ คำซ้ำ นั่นเองค่ะ คำซ้ำคืออะไร มีวิธีสร้างคำได้อย่างไรบ้าง วันนี้เราไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ

 

คำซ้ำ

 

 

คำซ้ำคืออะไร?

 

คำซ้ำ หมายถึง การสร้างคำขึ้นใหม่ โดยนำคำมูลซึ่งส่วนมากเป็นคำพยางค์เดียวมาซ้ำกันแล้วมีความหมายเปลี่ยนแปลงไป อาจเน้นหนักขึ้น หรือเบาลง การออกเสียงคำซ้ำคำเดิมให้ต่อเนื่องกันโดยใช้เครื่องหมายไม้ยมก(ๆ) เติมหลังคำ

 

ประเภทของคำซ้ำ

 

คำซ้ำที่ไม่เปลี่ยนเสียง

คำที่นำมาซ้ำกันโดยใช้ไม้ยมก

 

คำซ้ำที่เปลี่ยนเสียง

คำที่นำมาซ้ำกันจะเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์เพื่อเน้นความหมาย

 

คำซ้ำ

 

วิธีสร้างคำซ้ำ

 

 

หลักการใช้ไม้ยมก

 

 

หลักการใช้ไม้ยมกในคำซ้ำ ต้องใช้กับคำที่เขียนเหมือนกันเท่านั้น ในความหมายและหน้าที่เดียวกัน โดยปกติจะอยู่คำหลังเพื่อซ้ำความหมายของคำให้แตกต่างกันออกไป

 

คำที่ไม่สามารถใช้ไม้ยมกได้

 

คำซ้ำ

 

ความหมายของคำซ้ำ

 

เมื่อนำคำมาซ้ำกันแล้วจะได้ความหมายที่ต่างกันออกไป ดังนี้

 

คำซ้ำ

 

1. ซ้ำแล้วความหมายเปลี่ยนไปเชิงเพิ่มปริมาณ (พหูพจน์) ใช้เมื่อต้องการบอกว่าสิ่งนั้นมีจำนวนมาก

เขามีรถเป็นสิบ ๆ คัน – ปริมาณเพิ่มขึ้น มีรถหลายคัน

เพื่อน ๆ มากันแล้ว – มีเพื่อนมาหลายคน

เด็ก ๆ กำลังกินข้าว – เด็กหลายคนกำลังกินข้าว

2. ซ้ำแล้วความหมายแยกจำนวน ใช้เมื่อต้องการแยกเป็นอย่าง ๆ ไปเป็นสัดส่วน ใช้กับลักษณะนาม

เราได้ค่าแรงเป็นวัน ๆ – ค่าแรงได้เป็นรายวัน

ครูตรวจเล็บนักเรียนเป็นคน ๆ ไป – ครูตรวจเล็บนักเรียนทีละคน

สมศรีหั่นแตงโมเป็นชิ้น ๆ – สมศรีหั่นแตงโมออกทีละชิ้น

3. ซ้ำแล้วความหมายเปลี่ยนไปเชิงลดปริมาณ ใช้เมื่อต้องการบอกความหมายให้เบาลง อ่อนลง

เธอยังเจ็บขาอยู่ค่อย ๆ เดิน – ค่อย ๆ หมายถึงเดินให้ช้าลง

ผู้หญิงที่ใส่เสื้อสีแดง ๆ – ผู้หญิงไม่ได้ใส่เสื้อสีแดงแต่อาจจะเป็นสีที่ใกล้เคียงกับสีแดง

อาหารรสชาติคล้าย ๆ กับที่แม่ฉันทำ – รสชาติอาหารคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน

4. ซ้ำแล้วความหมายเป็นเชิงคาดคะเน ไม่แน่นอน

เขานั่งอยู่แถวหลัง ๆ – บอกว่านั่งอยู่แถวหลังแต่ไม่ระบุชัดเจนว่าแถวที่เท่าไหร่

บ้านฉันอยู่แถว ๆ ริมน้ำ – บ้านอยู่แถวริมน้ำแต่ไม่ระบุว่าริมน้ำตรงไหน

พรุ่งนี้เราเจอกันดึก ๆ หน่อย – เจอกันตอนดึกแต่ไม่ระบุว่ากี่โมง

5. ซ้ำแล้วความหมายหนักขึ้น เน้นความหมายให้ชัดเจนขึ้น อาจใช้ไม้ยมกหรือเปลี่ยนวรรณยุกต์เพื่อเสียงเพื่อนเน้น

ในที่สุดก็มีวันหยุด ฉันดีใจ๊ดีใจ – เน้นว่าดีใจมาก ๆ 

บ้านเพื่อนฉันร้วยรวย – เน้นว่ารวยมา

อาหารที่เธอทำมันเค็มมาก ๆ – เน้นว่ารสชาติเค็มมาก

6. ซ้ำแล้วความหมายเปลี่ยนไป

คนนี้พูดภาษาญี่ปุ่นแบบงู ๆ ปลา ๆ – งู ๆ ปลา ๆ หมายถึง มีความรู้เพียงเล็กน้อย, รู้ไม่จริง, รู้ไม่ลึกซึ้ง

อยู่ ๆ ฉันก็สะดุ้งตื่น – อยู่ ๆ หมายถึง ไม่มีเหตุผล

เรื่องกล้วย ๆ แค่นี้ฉันทำได้ – กล้วย ๆ หมายถึงง่าย

 

 

จบไปแล้วนะคะสำหรับเรื่องการสร้างคำซ้ำ ง่ายกว่าที่คิดใช่ไหมล่ะคะ? คำซ้ำเป็นคำที่หลายคนมองว่าง่าย ไม่มีอะไรมากแค่เติมไม้ยมก แต่บางครั้งในข้อสอบก็อาจจะมีโจทย์ที่หลอกให้เราสับสนได้ เพื่อไม่ให้พลาดในการทำข้อสอบ น้อง ๆ ควรหมั่นฝึกฝนและทบทวนอยู่เสมอนะคะ โดยในระหว่างที่ทำแบบฝึกหัดก็อย่าลืมเปิดคลิปการสอนของครูอุ้มดูไปด้วยเพื่อฟังคำอธิบายและหลักการจำอย่างง่าย ๆ ไปชมกันเลยค่ะ

 

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

คำไทยที่มักอ่านผิด มีคำใดบ้างที่เราควรรู้?

การอ่านผิด เป็นปัญหาในการอ่านออกเสียง มีสาเหตุมาจากอ่านไม่ออก หรือ อ่านผิด หลายคนอาจมองว่าไม่สำคัญ แต่รู้หรือไม่คะ ว่าการอ่านนั้นมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะหากเราอ่านผิด ก็จะทำให้ความหมายของคำนั้นผิดเพี้ยนไป หรือกลายเป็นคำที่ไม่มีความหมายไปเลยก็ได้ บทเรียน คำไทยที่มักอ่านผิด ในวันนี้ เราจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้การอ่านสะกดคำที่ถูกต้อง กับคำในภาษาไทยที่คนส่วนใหญ่มักอ่านผิดกันบ่อย ๆ จะมีคำใดบ้าง ไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ   คำไทยที่มักอ่านผิด   ลักษณะของการอ่านผิดมีดังนี้

Phrasal verb with2 and 3

Two – and Three-Word Phrasal Verbs

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.4 ที่รักทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้กันเรื่อง “Two – and Three-Word Phrasal verbs“ กันนะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลด ทบทวน Phrasal verbs    Phrasal verb คือ กริยาวลี  มีที่มาคือ เป็นการใช้กริยาร่วมกันกับคำบุพบท แล้วทำให้ภาษาพูดดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น  เรามักไม่ค่อยเจอคำลักษณะนี้ในภาษาอังกฤษที่เป็นทางการ  ซึ่งในบทเรียนนี้เราจะไปดูตัวอย่างการใช้  กริยาวลีที่มี 2

Profile Telling Time

“บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Time in English) ”

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวิธีการ “บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Telling Time in English) ” กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย  บทนำ ในบทเรียนนี้ครูขอยกตัวอย่างการบอกเวลาที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปใน 2 รูปแบบ ตามที่มาของ Native English หรือ ภาษาอังกฤษของเจ้าของภาษา นะคะ  ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้

Direct Object

Direct and Indirect Objects

สวัสดีน้องๆ ม. 5 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเรื่อง Direct และ Indirect Objects กันครับว่าคืออะไร ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

NokAcademy_ม3 การใช้ Yes_No Questions  และ Wh-Questions

การใช้ Yes/No Questions  และ Wh-Questions

  สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.3 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไปตะลุยตัวอย่างและวิธีการแต่งประโยคคำถาม 2กลุ่ม ได้แก่ “การใช้  Yes/No Questions  และ Wh-Questions” หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า   Yes/No Questions คืออะไร?   Yes/ No Questions ก็คือ กลุ่มคำถามที่ต้องการคำตอบแน่ชัดว่า Yes ใช่  หรือ

เรียนรู้ความเหมือนที่แตกต่างของคำพ้อง

  น้อง ๆ หลายคนคงจะเคยเห็นฝาแฝดกันมาบ้างใช่ไหมคะ แล้วรู้หรือเปล่าคะว่าในภาษาไทยเรานั้นก็มีฝาแฝดเหมือนกัน แต่ฝาแฝดนั้นถูกเรียกว่า คำพ้อง นั่นเองค่ะ หลายคำในภาษาไทยมีจุดที่เหมือนกันแต่ก็มีส่วนที่ต่างกันออกไปด้วย เพื่อไม่ให้สับสนว่าคำไหนคือคำไหน อ่านอย่างไร หมายความว่าอะไรกันแน่ วันนี้เราไปเรียนรู้เรื่องคำพ้องพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   คำพ้อง   ความหมายของคำพ้อง     ประเภทของคำพ้อง     คำพ้องเสียง

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1