มารยาทในการพูดที่ดีมีอะไรบ้างที่เราควรรู้

มารยาทในการพูด

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

บทนำ

 

สวัสดีน้อง ๆ ทุกคน กลับเข้ามาสู่เนื้อหาสาระดี ๆ อีกครั้ง โดยวันนี้จะเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับมารยาทในการพูด และจะต่อจากเนื้อหาเมื่อครั้งที่แล้วอย่างเรื่องมารยาทในการฟัง ซึ่งถือเป็นบทเรียนที่มีประโยชน์มาก ๆ เมื่อเราต้องไปพูดต่อหน้าที่สาธารณะ หรือพูดคุยสนทนากับเพื่อน ๆ คุณครู พ่อแม่ของเรา เพื่อให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ เราก็ควรเรียนรู้มารยาทที่ดีในการพูดไปด้วย
ถ้าน้อง ๆ ทุกคนพร้อมแล้วมาดูกันว่าวันนี้จะมีเนื้อหาอะไรมาฝากกันบ้าง

 

มารยาทในการพูด

 

การพูด คือ อะไร

 

การพูดเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มนุษย์ใช้ในการสื่อสาร เพื่อบ่งบอกถึงความต้องการ ความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง ผ่านการใช้อวัยวะอย่างกล่องเสียง และปาก เพื่อเปล่งเสียงพูดออกมา การพูดจะมีตัวกลางคือ ภาษา ซึ่งเป็นตัวสื่อความหมายออกในรูปแบบของน้ำเสียง หรือถ้อยคำ การพูดจึงถือว่าเป็นลักษณะเฉพาะที่มนุษย์สามารถเรียนรู้ ฝึกฝน เลียนแบบ หรือถ่ายทอดให้สู่รุ่นต่อ ๆ ไปได้

 

มารยาทในการพูด

 

จุดมุ่งหมายของการพูด

 

1.การพูดเพื่อให้ความรู้ 

เป็นการพูดเพื่อให้สาระความรู้ เป็นการพูดที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตัวผู้ฟัง เช่น การนำเสนอรายงานที่เราไปสืบค้นมาให้เพื่อนฟัง การที่คุณครูสอนในห้องเรียน หรือการที่เราพูดให้ความรู้บางอย่างกับผู้อื่นก็เช่นกัน

2.การพูดเพื่อให้ความบันเทิง

สำหรับจุดมุ่งหมายนี้เป็นการพูดที่เน้นความเพลิดเพลิน สนุกสนาน อย่างเรื่องตลกขบขันต่าง ๆ ซึ่งจะไม่ต้องใช้หลักการอะไรมาก หรือไม่ต้องใช้การเตรียมตัวก่อนพูด เช่น การพูดเรื่องตลกให้เพื่อน ๆ ฟัง การเล่าเรื่องผี เล่าเรื่องที่เราประสบพบเจอมาให้คนที่เรารู้จักฟัง ผู้ฟังก็จะได้รู้สึกสนุก ตื่นเต้นไปกับเรื่องที่เราพูดไปด้วย

3.การพูดเพื่อความจรรโลงใจ 

ต่อมาเป็นการพูดเพื่อทำให้ผู้ฟังได้คติเตือนใจ ได้แนวทางในการใช้ชีวิต พูดเพื่อให้คนฟังมีจิตใจที่สูงขึ้นอยากกระทำแต่ความดี  เช่น การพูดสุนทรพจน์ การขับเสภา หรือการเล่านิทานสอนใจ ซึ่งจะทำให้ผู้ฟังได้รับข้อคิดจากเรื่องที่ฟังด้วย

4.การพูดเพื่อโน้มน้าวจิตใจ

สำหรับจุดมุ่งหมายในการพูดข้อนี้ถือว่าเป็นความสามารถเฉพาะบุคคลก็ว่าได้ เพราะเป็นการพูดที่ต้องมีหลักการ มีแหล่งข้อมูล
ผู้พูดต้องมีความน่าเชื่อถือพอสมควร การพูดในลักษณะนี้จะต้องพูดเพื่อเปลี่ยนแปลงความคิดเห็นของผู้ฟังให้คล้อยตามเรา
เช่น การพูดโต้วาที การพูดชักชวนเพื่อให้ทำบางสิ่งบางอย่างตามที่เราต้องการ การพูดเชิญชวน รณรงค์ หรือที่เราจะเห็นการพูดเพื่อโฆษณาสรรพคุณของสินค้าให้คนสนใจอยากจะซื้อตาม

 

มารยาทในการพูด

 

มารยาทในการพูด

 

1.มารยาทการพูดระหว่างบุคคล

การพูดระหว่างบุุคคล หมายถึง การที่คนสองคนพูดคุยกัน หรือการสนทนากันภายในกลุ่ม ซึ่งจะมีมารยาทในวงสนทนาที่เราต้องเรียนรู้ เพื่อไม่เป็นการทำให้ผู้ฟังของเรารู้สึกไม่ดี หรือไม่สบายใจได้ โดยจะมีมารยาทที่เราควรรู้ ดังนี้

  • ผู้พูด และผู้ฟังต้องมีความพึงพอใจในเรื่องที่จะพูดร่วมกัน

มารยาทในข้อแรกคือการที่เรากับคู่สนทนาจะต้องมีความพึงพอใจในเรื่องที่จะพูดร่วมกัน เพราะถ้าเราพูดเรื่องที่ตนเองอยากพูดอยู่ฝ่ายเดียวโดยไม่สนใจอีกฝ่ายก็จะดูเป็นการเสียมารยาท เช่น ถ้าเราอยากพูดถึงหนังที่เราเพิ่งจะไปดูมา แต่เพื่อนของเราเป็นคนที่ไม่ชอบดูหนังเราก็อาจจะหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ แล้วเปลี่ยนไปคุยเรื่องที่เรา และเพื่อนสนใจร่วมกันจะดีกว่า

  • เปลี่ยนจากสถานะผู้พูด มาเป็นผู้ฟังบ้าง

หลังจากที่เราได้เรื่องที่จะพูดคุยร่วมกันแล้ว มารยาทข้อต่อมาที่ควรทำ คือ การเปลี่ยนเป็นคนฟังบ้าง เราไม่ควรพูดเรื่องของตัวเองมากจนเกินไป หรือพูดเรื่องนั้นอยู่เพียงฝ่ายเดียว ควรเว้นจังหวะให้เพื่อนของเราได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนั้นด้วย และเราก็ต้องรับฟังอย่างตั้งใจเช่นกัน

  • เคารพความคิดเห็นของผู้อื่น

เมื่อเราได้รับบทเป็นผู้ฟังแล้วสิ่งที่ต้องทำคือ การเคารพความคิดเห็นของผู้ที่คุยกับเราด้วย เช่น ถ้าเรากับเพื่อน ๆ กำลังพูดคุยกันเรื่องวิชาที่เรารู้สึกว่าเรียนยาก หรือเรียนง่าย แล้วมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน เราก็ต้องเคารพความคิดเห็นของเพื่อน และไม่ควรไปบังคับให้เพื่อนคิด หรือรู้สึกเหมือนกับเราอยู่ฝ่ายเดียว

  • ไม่พูดออกนอกเรื่อง หรือนอกประเด็น

มารยาทข้อต่อมาเราควรจะพูดให้ตรงประเด็น หรือพูดให้สอดคล้องกับหัวข้อที่เรากำลังคุยกันอยู่  เช่น ถ้าเพื่อน ๆ ของเรากำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการไปทัศนศึกษา แต่เรากลับพูดออกนอกเรื่องก็อาจจะทำให้เพื่อน ของเรารู้สึกไม่พอใจ หรือหลุดออกจากประเด็นที่คุยกันอยู่ก็เป็นได้

  • ไม่พูดแทรกในระหว่างที่คนอื่นกำลังพูด

มารยาทข้อนี้เป็นสิ่งที่ควรมี และพึงปฏิบัติทั้งการพูด และการฟัง เพราะถ้าเราพูดแทรกขึ้นมาในขณะที่อีกฝ่ายยังพูดไม่จบ จะถือว่าเสียมารยาทมาก ๆ และอาจทำให้ผู้ที่กำลังพูดอยู่เสียสมาธิจนไม่สามารถพูดต่อได้ ดังนั้น เราควรรอให้อีกฝ่ายพูดจบแล้วเราจึงค่อยพูดขึ้นมาแทน

 

2. มารยาทการพูดในที่สาธารณะ

สำหรับการพูดในที่สาธารณะจำเป็นที่จะต้องรักษามารยาทให้มากกว่าการพูดระหว่างบุคคล เนื่องจากเป็นการพูดในสถานที่ที่เปิดกว้าง มีผู้ฟังที่แตกต่างกันทั้งทางอายุ ระดับการศึกษา ไปจนถึงมีความรู้ ความเข้าในเรื่องที่เราจะพูดไม่เท่ากัน โดยจะมีมารยาทที่เราควรรู้ ดังนี้

  • การแต่งกายให้สุภาพ ถูกกาลเทศะ

เมื่อเราต้องไปพูดตามสถานที่ต่าง ๆ นอกจากที่เราจะต้องศึกษากฎระเบียบ หรือข้อปฏิบัติของสถานที่นั้น ๆ แล้ว ก็ยังต้องศึกษาลักษณะของงานที่เราจะไปพูด เพื่อจะได้แต่งตัวตามรูปแบบงาน ตามความเหมาะสมของสถานที่ หรือเหมาะสมกับช่วงเวลาที่พูดด้วย

  • ควรแสดงความเคารพต่อผู้ฟังก่อนจะเริ่มพูด

การเริ่มกล่าวทักทายผู้ฟัง หรือเกริ่นนำผู้ฟังเข้าสู่เรื่องที่เรากำลังจะพูดนั้นนับว่าเป็นมารยาทสากลที่ผู้พูดควรจดจำ และปฏิบัติทุกครั้ง เช่น เวลาที่เราจะนำเสนองานหน้าชั้นเรียนเราควรยกมือไหว้คุณครู สวัสดีเพื่อน ๆ หรือเรามักจะได้ยินคำกล่าวตอนเริ่มนำเสนอรายงานว่า เรียนคุณครูที่เคารพ และสวัสดีเพื่อน ๆ ที่น่ารักทุกคน ซึ่งเป็นวิธีที่ถูกต้อง และแสดงถึงมารยาทที่ดี

  • พูดให้พอดีกับเวลาที่กำหนด

เมื่อเราต้องพูดในงานที่มีระยะเวลากำหนดไว้ เราควรจะฝึกซ้อม และพยายามพูดเนื้อหาของเราให้พอดีกับเวลาที่กำหนด เป็นข้อที่สำคัญมากเมื่อเราต้องไปพูดในงานที่มีคนอื่นรอพูดต่อจากเรา หรือมีพิธีการอื่น ๆ ทีต้องดำเนินไปตามเวลา ถ้าเราพูดเลยเวลาที่กำหนดก็จะไปกระทบกับเวลาของผู้อื่นด้วย

  • ไม่พูดพาดพิงถึงบุคคลอื่น

มารยาทในการพูดข้อต่อมา เวลาที่เรากำลังพูดเนื้อหาเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่เราไม่ควรกล่าวพาดพิง หรือกล่าวถึงเรื่องของผู้อื่น เพราะจะถือเป็นการไม่ให้เกียรติบุคคลที่เรากำลังกล่าวถึง

  • อย่าแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเมื่อต้องพูดในที่สาธารณะ

พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้พูดในที่นี้จะหมายถึง การกระทำที่จะส่งผลให้คนฟังรู้สึกไม่ดี หรือไม่พอใจกับสิ่งที่เรากำลังทำ เช่น การตะโกนใส่ผู้ฟัง  การแสดงท่าทางไม่พอใจกับเรื่องที่กำลังพูด หรือด่าทอผู้ฟังขณะที่พูด เพราะเป็นพฤติกรรมไม่สุภาพ และไม่สมควรทำอย่างยิ่งเมื่อต้องออกไปพูดต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก

  • ไม่พูดคำหยาบคาย หรือพูดจาไม่สุภาพ

มารยาทข้อนี้ก็สำคัญไม่แพ้ข้ออื่น ๆ เลย นั่นคือการควรควบคุมถ้อยคำ หรือสำนวนที่เราจะใช้พูดต่อหน้าที่สาธารณะไม่ให้มีคำหยาบคาย หรือคำพูดที่ไม่สุภาพ เพราะจะทำให้คนที่ฟังรู้สึกไม่ดี และทำให้เรื่องที่เราพูดดูไม่น่าฟังขึ้นมาทันที

 

มารยาทในการพูด

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

NokAcademy_ม3 การใช้ Yes_No Questions  และ Wh-Questions

การใช้ Yes/No Questions  และ Wh-Questions

  สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.3 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไปตะลุยตัวอย่างและวิธีการแต่งประโยคคำถาม 2กลุ่ม ได้แก่ “การใช้  Yes/No Questions  และ Wh-Questions” หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า   Yes/No Questions คืออะไร?   Yes/ No Questions ก็คือ กลุ่มคำถามที่ต้องการคำตอบแน่ชัดว่า Yes ใช่  หรือ

CS profile

ประโยคความรวม (Compound Sentence)-2

  สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.3 ที่น่ารักทุกคน เจอกันอีกแล้วจร้ากับไวยากรณ์การเขียนภาษาอังกฤษและวันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิคการการใช้ประโยคความรวมในภาษาอังกฤษกันค่ะ ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมามากกับคนที่ไม่ชอบเขียน  ครูเอาใจช่วยทุกคนค่า ไปลุยกันเลย   ประโยคความรวม (Compound Sentence)   ประโยคความรวม ภาษาอังกฤษคือ Compound Sentence อ่านว่า เคิมพาวดฺ เซนเท่นสฺ เป็นประโยคที่ประกอบด้วยประโยคความเดียวอย่างน้อย 2 ประโยคโดยมีคำเชื่อมระหว่างประโยค เช่น for, and,

NokAcademy_Finite and Non- Finite Verb

Finite and Non- Finite Verb

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.6 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไปทบทวนการใช้ “Finite and Non- Finite Verb” ในภาษาอังกฤษกันจร้า ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลดจร้า   คำเตือน: การเรียนเรื่องนี้จะทำให้นักเรียนมึนงงได้หากว่าพื้นฐานเรื่อง Part of speech, Subject , Tense, Voice และ Mood ของเราไม่แน่น

คำซ้ำคืออะไร เรียนรู้และเข้าใจหลักการสร้างคำอย่างง่าย

  จากที่ได้เรียนเรื่องการสร้างคำประสมและคำซ้อนไปแล้ว บทเรียนหลักภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้การสร้างคำอีกหนึ่งชนิดที่สำคัญไม่แพ้สองคำก่อนหน้า นั่นก็คือ คำซ้ำ นั่นเองค่ะ คำซ้ำคืออะไร มีวิธีสร้างคำได้อย่างไรบ้าง วันนี้เราไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   คำซ้ำ     คำซ้ำคืออะไร?   คำซ้ำ หมายถึง การสร้างคำขึ้นใหม่ โดยนำคำมูลซึ่งส่วนมากเป็นคำพยางค์เดียวมาซ้ำกันแล้วมีความหมายเปลี่ยนแปลงไป อาจเน้นหนักขึ้น หรือเบาลง

Vtodo+Present Simple Tense

การใช้ V. to do ในรูปแบบของ Present Simple Tense

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ V. to do ในรูปแบบของ Present Simple Tense หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลดเด้อ Let’s go! V. to do คืออะไร   ปรกติแล้วคำว่า do นั้นแปลว่าทำ แต่เมื่ออยู่ในประโยคแล้ว V. to do

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1