เสภาขุนช้างขุนแผน จากนิทานชาวบ้านสู่วรรณคดีราชสำนัก

เสภาขุนช้างขุนแผน

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นยอดของกลอนเสภาและเป็นที่ยอมรับกันในหมู่นักวรรณคดีว่าเป็นเลิศทั้งในด้านเนื้อเรื่องและการประพันธ์ มีมากมายหลายตอน หลายสำนวนและหลายผู้แต่ง แต่บทเรียนที่น้อง ๆ จะได้ศึกษากันในวันนี้เป็น เสภาขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา จะมีเนื้อหาและความเป็นมาอย่างไรเราไปศึกษาเรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ

 

ความเป็นมาของ เสภาขุนช้างขุนแผน

 

ขุนช้างขุนแผนสันนิษฐานว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสมัยอยุธยา จากพงศาวดารทำให้ทราบว่าขุนแผนรับราชการอยู่ในสมัยสมเด็จพระพันวษา หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ซึ่งครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2034-พ.ศ 2072 ต่อมามีการนำเรื่องขุนช้างขุนแผนมาแต่งเป็นกลอนสุภาพและบทเสภาโดยใช้กรับเป็นเครื่องประกอบจังหวะ

 

เสภาขุนช้างขุนแผน

 

การชำระเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน

 

ขุนช้างขุนแผนเป็นวรรณคดีที่นิยมสืบเนื่องยาวนานเกือบ 400 ปี เพราะเนื้อเรื่องมีความยาวมาก ไม่สามารถขับเสภาให้จบในวันเดียวได้ ใครชอบตอนไหนก็แต่งตอนนั้นทำให้เนื้อเรื่องไม่ปะติดปะต่อกัน เหตุการณ์สลับกัน ชื่อตัวละครไม่ตรงกัน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 2 มีแต่งบทเสภาขึ้นมาใหม่ ทำให้วรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผนนั้นได้มีการปรับเปลี่ยนจากวรรณคดีชาวบ้านเป็นวรรณคดีราชสำนัก และเมื่อถึงรัชกาลที่ 3 บทเสภาสำนวนหลวงก็สมบูรณ์ ภายในได้มีการแต่งเพิ่มอีกเล็กน้อย แต่เมื่อได้รับการตีพิมพ์ในปี พ.ศ 2415 ก็ไม่มีใครแต่งเพิ่มอีก

ต่อมาในปี พ.ศ. 2460 สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และกรมหมื่นกวีพจน์สุปรีชา กรมการหอพระสมุดวชิรญาณร่วมกันชำระเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน โดยเลือกสรรสำนวนที่ดีเลิศ ถูกต้อง มารวมกันและเชื่อมให้เป็นเรื่องเดียวกัน เทียบเคียงกับต้นฉบับหลายสำนวน ตัดออก แต่งเพิ่ม และพิมพ์บทเสภาที่ไม่เคยพิมพ์มาก่อนรวมไปด้วย รวมทั้งเป็น 43 ตอน

 

เสภาขุนช้างขุนแผน

 

ลักษณะคำประพันธ์

 

ลักษณะคำประพันธ์กลอนเสภาเป็นกลอนสุภาพ เสภาเป็นกลอนขั้นเล่าเรื่องอย่างนิทาน จึงใช้คำมากเพื่อบรรจุข้อความให้ชัดเจนแก่ผู้ฟัง มีข้อบังคับคือ คำสุดท้ายของวรรคต้น ส่งสัมผัสไปยังคำใดคำหนึ่งใน 5 คำแรกของวรรคหลัง สัมผัสวรรคอื่นและสัมผัสระหว่างบทเหมือนกลอนสุภาพ

เสภาขุนช้างขุนแผน

เรื่องย่อ วรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา

 

ตอน ขุนช้างถวายฎีกานั้นเป็นตอนที่กล่าวถึงเหตุการณ์หลังจากที่ขุนช้างได้พานางวันทองกลับไปอยู่สุพรรณบุรี ส่วนจมื่นไวยไปอยู่บ้านพ่อ แต่เมื่อกลับไปอยู่แล้วก็ทำให้จมื่นไวยเกิดความรู้สึกคิดถึงแม่ ทำให้จมื่นไวยเกิดความคิดที่จะพานางวันทองกลับมาอยู่บ้านด้วยกันแบบพ่อ แม่ และลูก จึงบุกไปที่เรือนขุนช้างเพื่อลักพาตัวนางวันทอง แต่นางวันทองในตอนนั้นกลัวว่าจะเกิดปัญหาขึ้นภายหลัง จึงให้จมื่นไวยไปปรึกษาขุนแผนผู้เป็นพ่อก่อน แต่จมื่นไวยไม่ยอม นางวันทองจึงต้องยอมไปกับลูก

ด้านขุนช้างเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นนางวันทองก็โกรธ จะไปตามนางวันทองกลับมาให้ได้ จมื่นไวยมที่กลัวว่าขุนช้างจะมาเอาเรื่อง จึงให้หมื่นวิเศษผลไปบอกขุนช้างว่าตนป่วยหนัก อยากเห็นหน้าแม่จึงให้คนไปตามนางวันทองมาอยู่ด้วยพักหนึ่งแล้วจะส่งตัวกลับมาอยู่กับขุนช้างตามเดิม แต่ขุนช้างก็ยังโมโหที่จมื่นไวยทำอะไรไม่เกรงใจจึงร่างคำร้องถวายฎีกาแล้วลอยคอมายังเรือพระที่นั่งของสมเด็จพระพันวษาเพื่อถวายฎีกา ทำให้สมเด็จพระพันวษาทรงพิโรธ สั่งให้เฆี่ยนขุนช้าง 30 ที แล้วปล่อยไป ต่อมาพระองค์ทรงได้อ่านคำฟ้องของขุนช้างแล้วก็ทรงกริ้วหนัก ให้ทหารไปตามตัวนางวันทอง ขุนแผน และจมื่นไวยมาเข้าเฝ้าทันที

 

 

ขุนแผนเกรงว่านางวันทองจะมีภัย จึงเสกคาถาและขี้ผึ้งให้นางวันทองทาปากเพื่อให้พระพันวษาเมตตาแล้วจึงพาไปเข้าเฝ้า เมื่อพระพันวษาเห็นนางวันทองก็ใจอ่อน ตรัสถามเรื่องราวจากนางและเห็นว่าสาเหตุของความวุ่นวายทั้งหมดนี้เกิดจากนางวันทองจึงให้นางตัดสินใจว่าจะอยู่กับใคร นางวันทองประหม่า พูดไม่ออก ไม่รู้จะอยู่กับใคร เพราะนางเองก็รักขุนแผนกับลูกชาย แต่ขุนช้างก็ดีกับนาง ท่าทีของนางทำพระพันวษากริ้วมาก เพราะเห็นว่านางวันทองเป็นหญิงแพศยา หลายใจ จึงสั่งให้ประหารชีวิตนางวันทอง

 

 

ขุนช้างถวายฎีกาเป็นอีกตอนหนึ่งจากตอนทั้งหมดของเสภาขุนช้างขุนแผนที่ได้รับการยกย่องว่าแต่งดีและยอดเยี่ยมที่สุด จากที่ได้เรียนรู้ที่มาและเรื่องราวอย่างย่อของตอนนี้กันไปแล้ว ในบทเรียนครั้งต่อไปน้อง ๆ ก็จะได้รู้ถึงตัวบทที่น่าสนใจและคุณค่าที่ได้จากวรรณคดีเรื่องนี้กันด้วย แต่ก่อนจะไป น้อง ๆ อย่าลืมทบทวนบทเรียนด้วยการชมคลิปการสอนสนุก ๆ จากครูอุ้มนะคะ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

ป6ทบทวน Past simple tense

ทบทวนการใช้ Past Simple ทั้งกับประโยคบอกเล่า/คำถาม/ปฏิเสธ

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไป ทบทวนการใช้ Past Simple ทั้งกับประโยคบอกเล่า/คำถาม/ปฏิเสธ กันน๊า Let’s go! ไปลุยกันเลยจ้า Past Simple Tense คืออะไร     Past Simple Tense คือโครงสร้างที่ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วจบลงไปแล้วในอดีต สิ่งสำคัญที่นักเรียนต้องรู้คือ กริยาช่องที่สองที่บอกความเป็นอดีต คำบอกเวลาในอดีตและโครงสร้างประโยคที่สำคัญๆ นั่นเอง

ระดับภาษา เรียนรู้วิธีใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสม

ระดับภาษา มีความสำคัญอย่างมากในภาษาไทย น้อง ๆ ทราบไหมคะว่าภาษาที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ ก็มีระดับของมันที่จะเป็นตัวบ่งบอกความเหมาะสม ให้เราได้เลือกใช้กันอย่างถูกกาลเทศะ อยากรู้ไหมคะว่ามีกี่ระดับ แต่ละระดับเป็นอย่างไร ต้องใช้แบบไหน ใช้กับใครจึงจะถูก ถ้าพร้อมแล้ว ไปเรียนรู้บทเรียนภาษาไทยในวันนี้กันเลยค่ะ   ความหมายของ ระดับภาษา     ระดับภาษา หมายถึง ความลดหลั่นของถ้อยคำและการเรียบเรียงถ้อยคำที่ใช้โดยพิจารณาตามโอกาสหรือกาลเทศะ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เป็นผู้สื่อสาร ผู้รับสาร และเนื้อหาที่สื่อสาร  

ขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลายงาม ถอดคำประพันธ์และเรียนรู้คุณค่าของวรรณคดี

จากที่บทเรียนคราวก่อนเราได้รู้ความเป็นมาและเรื่องย่อของตอนที่สำคัญอีกตอนหนึ่งของเรื่องอย่างตอน กำเนิดพลายงาม กันไปแล้ว บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเจาะลึกตัวบทที่น่าสนใจเพื่อถอดคำประพันธ์พร้อมทั้งศึกษาคุณค่าในเรื่อง น้อง ๆ จะได้รู้พร้อมกันว่าเหตุใดวรรณคดีเรื่อง ขุนช้างขุนแผน ถึงมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักแพร่หลายมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ   ตัวบท ขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลายงาม     ถอดคำประพันธ์ : เป็นคำสอนของนางวันทองที่ได้สอนพลายงามก่อนที่จะต้องจำใจส่งลูกไปอยู่กับย่าที่กาญจนบุรีว่าเกิดเป็นผู้ชายต้องลายมือสวย โตขึ้นจะได้รับราชการก่อนจะพาพลายงามมาส่งด้วยความรู้สึกที่เหมือนใจสลาย    

สัจนิรันดร์

ในบทความจะเขียนเกี่ยวกับวิธีการพิสูจน์การเป็นสัจนิรันดร์ของประพจน์ ซึ่งจะเน้นให้น้องๆเข้าใจหลักการของการพิสูจน์ สิ่งที่น้องจะได้จากบทความนี้คือ น้องจะสามารถพิสูจน์การเป็นสัจนิรันดร์ของประพจน์ได้และหากน้องๆขยันทำโจทย์บ่อยๆจะทำให้น้องวิเคราะห์โจทย์เกี่ยวกับสัจนิรันดร์ได้ง่ายขึ้นแน่นอนค่ะ

สมบัติการคูณจำนวนจริง

การให้เหตุผลแบบอุปนัย

การให้เหตุผลแบบอุปนัย การให้เหตุผลแบบอุปนัย คือ การนำประสบการณ์มาสรุปผล เช่น เราไปซื้อผลไม้แล้วเราชิมผลไม้ 2-3 ลูก ปรากฏว่า มีรสหวาน เราเลยสรุปว่าผลไม้ทั้งกองนั้นหวาน เป็นต้น ซึ่งการสรุปผลอาจจะเป็นจริงหรือเท็จก็ได้ อาจจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้สรุป ดังนั้น ผลสรุปไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น เหตุ เมื่อวานแป้งตั้งใจเรียน วันนี้แป้งตั้วใจเรียน ผลสรุป  พรุ่งนี้แป้งจะตั้งใจเรียน การให้เหตุผลแบบนี้ เหมือนเป็นการคาดคะเนเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป ซึ่งการคาดคะเนนี้อาจจะจริงหรือเท็จก็ได้

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1