เรียนรู้ที่จะคิดอย่างมีเหตุผล

การคิดอย่างมีเหตุผล

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

การคิดอย่างมีเหตุผลและอุปสรรค เป็นบทเรียนในเรื่องของความคิดและภาษาที่น้อง ๆ จะได้เรียนกันในครั้งนี้ การคิดอย่างมีเหตุผลมีทักษะการคิดอย่างไรและแตกต่างจากการคิดแบบอื่นไหม นอกจากนี้น้อง ๆ ยังจะเรียนรู้ในส่วนของอุปสรรคทางความคิดอีกด้วย อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะคะว่าจะมีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ

 

การคิดคืออะไร

 

การคิดอย่างมีเหตุผล

 

การคิด คือ การทำงานของกลไกสมอง ที่เกิดจากสิ่งเร้าตามสภาพต่างๆเพื่อทำให้เกิดจินตนาการ เพื่อนำไปแก้ปัญหา หาคำตอบ ตัดสินใจ ซึ่งก่อให้เกิดทั้งพฤติกรรมทั้งภายในและภายนอกจิตใจสำหรับการดำเนินชีวิต ถ้าไม่คิดก็ไม่สามารถที่จะทำในเรื่องต่างๆได้

 

การคิดอย่างมีเหตุผล

 

การคิดอย่างมีเหตุผล เป็นหลักการคิดที่ใช้ข้อมูลและภาพรวมมาดำเนินการคิด หลีกเลี่ยงการตัดสินใจด้วยความรู้สึกเพียงอย่างเดียว

 

การคิดอย่างมีเหตุผล

 

ภาษามีความสำคัญอย่างไรเกี่ยวกับการใช้ความคิด

 

บทบาทของภาษาในการพัฒนาการคิด

มนุษย์ติดต่อกันโดยอาศัยภาษาซึ่งเป็นระบบสัญลักษณ์อาจเป็นการพูด การเขียน

การแสดงท่าทาง และอื่นๆ ถ้ามนุษย์ไม่มีภาษาแล้วก็คงติดต่อกันด้วยความลำบากเพราะการที่มนุษย์คิดประดิษฐ์ภาษาขึ้นใช้ทำให้มนุษย์สามารถใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการรวบรวมประสบการณ์การเรียนรู้ของมนุษย์ตั้งแต่อดีตเรื่อยมาจนปัจจุบันตลอดจนเป็นเครื่องมือในการพัฒนาระบบความคิดให้มนุษย์คิดเป็นภาษา ไม่ว่ามนุษย์จะใช้ภาษาลักษณะใดก็ตามในขณะที่ใช้ภาษาถ่ายทอดความต้องการของตนนั้น จะทำให้ผู้รับสารรับรู้ว่า ผู้ส่งสารคิดอะไรอย่างไร

 

การใช้ภาษาอย่างมีเหตุผล

 

โครงสร้างของการแสดงเหตุผล ประกอบด้วย ตัวเหตุผล หรือ ข้อสรุป ภาษาที่ใช้ในการแสดงเหตุผลมีด้วยกัน 3 ลักษณะ ดังนี้

 

 

1.ใช้คำสันธาน ในกรณีที่เรียงเหตุผลไว้ก่อนการสรุปจะต้องมีคำสันธาน เพราะ เพราะฉะนั้น เพราะ..จึง เพราะว่า นำหน้าเหตุผล

ตัวอย่าง ฉันกินข้าว เพราะฉันหิว คำว่าเพราะเป็นคำสันธานที่นำหน้าเหตุผล

2.ใช้กลุ่มคำเรียงกัน ระบุว่าตรงไหนเป็นเหตุผลหรือข้อสรุปโดยการใช้กลุ่มคำบอกตรง ๆ ว่า ข้อสรุปคือ เหตุผลคือ เหตุผลที่สำคัญคือ เป็นต้น

ตัวอย่าง ที่เด็ก ๆ ทุกคนมารวมตัวอ่านหนังสือกันในวันนี้มีเหตุผลสำคัญคืออีกไม่นานจะถึงวันสอบปลายภาคแล้ว

3.ใช้เหตุผลหลายข้อประกอบกัน เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับข้อสรุปโดยใช้เหตุผลหลาย ๆ อย่างมาประกอบกันเป็นข้อ ๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น

ตัวอย่าง ฉันไม่ชอบอยู่บ้านไม้ มันมักมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดเวลาเดิน สร้างความรำคาญ ไหนจะพบปัญหาเรื่องปลวก แมลงกัดกินไม้ต่างๆอีก

 

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับคำสันธาน

ในบางกรณีถึงไม่ใช้คำสันธานก็ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นเหตุผล เช่น ฉันจะลดน้ำหนักแล้ว ช่วงนี้ฉันอ้วนขึ้น  ตัวอย่างประโยคนี้จะเห็นได้ว่าด้านหน้าของเหตุผลไม่มีคำสันธานอยู่แต่เป็นประโยคที่ปกติแล้วผู้ฟังจะสามารถเข้าใจได้ว่าผู้พูดต้องการจะลดน้ำหนักเพราะรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้น ซึ่งการเลือกละหรือไม่ละคำสันธานนั้นขึ้นอยู่กับความชัดเจนของการกระทำและเหตุผลหรือการใช้เหตุผลหลาย ๆ อย่างมารวมกัน แต่จะไม่สามารถใช้ได้ในกรณีที่ประโยคมีความคลุมเครือ

 

อุปสรรคของความคิด

 

 

1.อคติ มาจากภาษาบาลี อะ หมายถึง ผิด, ไม่, ไม่ถูกต้อง, ไม่ดีงาม, ไม่สมควร คติ หมายถึง วิถี, แนวทาง, สิ่งที่เป็นไป, การดำเนินไป, ความเป็นไป, การตอบสนอง, การแสดงออก เป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้มนุษย์ไม่ใช้ความคิดมนุษย์ทุกคนย่อมมีความคิดต่อสิ่งต่างๆ แตกต่างกันจนในบางครั้งก็อาจเอนเอียงให้ความคิดที่ตัวเองเชื่อมั่นโดยไม่สนข้อเท็จจริง

2.ความเร่งรัด การถูกจำกัดเวลา ประสิทธิภาพทางความคิดจะน้อยลงเพราะไม่สามารถใช้ความคิดได้อย่างเต็มที่

3.ความบกพร่องของสุขภาพทางกายและจิต เมื่อสุขภาพกายและจิตไม่พร้อม ทำให้ไม่สามารถคิดอะไรได้เต็มที่

4.ความเหนื่อยล้าและความซ้ำซากจำเจ เมื่อรู้สึกเหนื่อยล้า สมองจะไม่สามารถคิดอะไรอย่างเป็นเหตุผลได้เพราะความอ่อนเพลีย อีกทั้งการทำอะไรซ้ำซากจำเจเป็นอย่างเป็นประจำจะทำให้กระบวนการคิดสร้างสรรค์ถดถอยลง

5.สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย เมื่อถูกรบกวนจากสภาพแวดล้อมโดยรอบ อาจทำให้ไม่มีสมาธิมากพอที่จะจดจ่อและใช้ความคิด

6.การขาดความรู้ ความไม่เข้าใจในเรื่องที่คิด จะทำให้ไม่สามารถคิดอะไรออกมาได้ วิธีแก้คือต้องหมั่นหาความรู้เพื่อให้ความคิดเป็นไปอย่างราบรื่น

 

เป็นอย่างไรบ้างคะบทเรียนภาษาไทยในวันนี้ คงจะทำให้น้อง ๆ หลายคนเข้าใจถึงกระบวนการคิดอย่างมีเหตุผลและได้รู้อุปสรรคทางความคิดไปแล้ว ถ้าพบว่าข้อไหนตรงกับตัวเองก็พยายามหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดอุปสรรคระหว่างที่กำลังใช้ความคิดกันด้วยนะคะ สุดท้ายนี้น้อง ๆ สามารถรับชมคลิปของครูอุ้มได้เพื่อฟังคำอธิบายเกี่ยวกับความแตกต่างของการคิดอย่างมีเหตุผลและการคิดอย่างสมเหตุสมผลให้เข้าใจมากขึ้น รับรองว่าทั้งสนุกและยังได้ความรู้อีกด้วยค่ะ ไปดูกันเลย

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การพูดอภิปราย

การพูดอภิปรายอย่างง่าย ทำได้ไม่ยาก

การพูดอภิปราย เป็นแบบการพูดซึ่งมีลักษณะคล้ายการสนทนาทั่วไป แต่ก็มีจุดที่แตกต่างกันอยู่ น้อง ๆ ทราบไหมคะว่าคืออะไร แล้วสรุปว่าการพูดอภิปรายคืออะไร มีหลักในการพูดอย่างไรได้บ้าง บทเรียนภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปทำความรู้จักและฝึกพูดให้คล่อง เพื่อที่เมื่อถึงเวลาอภิปราย จะได้ผ่านกันแบบฉลุยไร้กังวล ถ้าอยากเรียนรู้แล้วล่ะก็ ไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   ความหมายของการพูดอภิปราย   การพูดอภิปราย หมายถึง การพูดเพื่อแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพื่อใช้ในการแก้ปัญหา

ระบบจำนวนจริง

ระบบจำนวนจริง

ระบบจำนวนจริง “ระบบจำนวนจริง” เป็นรากฐานสำคัญของวิชาคณิตศาสตร์ ประกอบไปด้วยจำนวนต่างๆ ได้แก่ จำนวนตรรกยะ จำนวนอตรรกยะ จำนวนเต็ม จำนวนนับ โครงสร้าง ระบบจำนวนจริง มนุษย์เรามีความคิดเรื่องจำนวนและระบบการนับมาตั้งแต่โบราณ และจำนวนที่มนุษย์เรารู้จักเป็นอย่างแรกก็คือ จำนวนนับ การศึกษาระบบของจำนวนจึงใช้พื้นฐานของจำนวนนับในการสร้างจำนวนอื่นขึ้นมา จนกลายมาเป็นจำนวนจริง และจำนวนเชิงซ้อน (เนื้อหาม.5) ดังนั้น ถ้าน้องๆเข้าใจจำนวนนับแล้วน้องๆก็จะสามารถศึกษาระบบจำนวนอื่นๆได้ง่ายขึ้น   โครงสร้าง     จำนวนจริง จำนวนจริงคือจำนวนที่ประกอบไปด้วย

wh-questions + was, were

การใช้ Wh-questions  with  was, were

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง “การใช้ Wh-questions  with  was, were (Verb to be in the past)” ไปลุยกันเลยจร้า Sit back, relax, and enjoy the lesson! —นั่งพิงหลังชิวๆ ทำใจสบายๆ แล้วไปสนุกกับบทเรียนกันจร้า—  

การอ่านบทร้อยแก้ว อ่านอย่างไรให้น่าฟัง

หลังจากที่เราได้เรียนรู้เรื่องการบทร้อยกรองไปแล้ว วันนี้เราจะมาพูดถึงบทร้อยแก้วกันบ้าง ซึ่งน้อง ๆ หลายคนคงจะรู้จักบทร้อยแก้วกันดีอยู่แล้ว เพราะเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวัน แต่น้อง ๆ ทราบไหมคะว่า การอ่านบทร้อยแก้ว ก็มีวิธีอ่านที่ถูกต้องเหมือนกัน เพราะการที่เราอ่านไม่ถูกต้องนั้นก็อาจจะทำให้ไม่น่าฟัง น่าเบื่อ รวมไปถึงอาจทำให้ใจความที่ผู้แต่งต้องการจะสื่อสารคลาดเคลื่อนได้อีกด้วย ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีหลักเกณฑ์และวิธีอ่านอย่างไร ไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ   ร้อยแก้วคืออะไร ?   บทข้อความทั่วๆ ไป ทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน โดยต้องเขียนเป็นประโยค ข้อความติดต่อกัน

การถามทางในภาษาอังกฤษ Asking for Direction in English

สวัสดีค่ะนักเรียนป.6 ที่น่ารักทุกคน เคยมั้ยที่เราเจอฝรั่งถามทางแล้วตอบไม่ได้ ทำได้แค่ชี้ๆ แล้วก็บ๊ายบาย หากทุกคนเคยเจอปัญหานี้ ต้องท่องศัพท์และรู้โครงสร้างประโยคที่สำคัญในการถามทางแล้วล่ะ ไปลุยกันเลย   การถามทางในภาษาอังกฤษ Asking for Direction in English   การถามทิศทางจะต้องมีประโยคเกริ่นก่อนเพื่อให้คนที่เราถาม ตั้งตัวได้ว่า กำลังจะโดนถามอะไร ยังไง ซึ่งเราสามารถถามได้ทั้ง คำถามแบบสุภาพเมื่อพูดกับคนที่เราไม่คุ้นเคย หรือ คำถามทั่วไปเมื่อพูดกับคนใกล้ตัว  

there is

There is และ There are ในภาษาอังกฤษ

สวัสดีน้องๆ ม. 2 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่องการใช้ There is และ There are ในภาษาอังกฤษกันครับ ถ้าพร้อมแล้วเราลองไปดูกันเลย

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1