อยากเขียนเก่ง เขียนได้ดี ต้องเรียนรู้วิธีใช้ภาษาเขียนให้ถูกต้อง

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

บทนำ

สวัสดีน้อง ๆ ทุกคน สำหรับวันนี้เราจะมาเข้าสู่บทเรียนภาษาไทยในเรื่องของระดับภาษา แต่จะเฉพาะเจาะจงไปที่การใช้ภาษาเขียนให้ถูกต้อง เหมาะสม เพื่อให้น้อง ๆ ทุกคนนำไปใช้ในการเขียนข้อสอบ หรือเขียนรายงานเรื่องต่าง ๆ ได้เหมาะสมมากขึ้น เพราะด้วยความที่ภาษาเขียนเป็นภาษาที่มีแบบแผน มีหลักในการเลือกใช้ เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาเขียนอย่างละเอียด ถ้าน้อง ๆ ทุกคนอยากรู้แล้วว่าวันนี้มีบทเรียนอะไรที่น่าสนใจบ้างต้องมาดูไปพร้อม ๆ กัน

 

ภาษาเขียน

ภาษาเขียน คืออะไร?

 

ภาษาเขียนเป็นอีกหนึ่งช่องทาง หรือเป็นอีกทักษะที่มนุษย์ใช้ในการสื่อสาร จากกระบวนการคิดไปสู่การเรียบเรียงออกมาเป็นตัวอักษร โดยภาษาเขียนนั้นเป็นภาษาที่มีหลักการใช้ที่ค่อนข้างเคร่งครัดขึ้นมาจากภาษาพูด หรือที่เรียกว่า ภาษาแบบแผน ด้วยความที่มีการแบ่งระดับของภาษาจึงมีผลต่อการใช้ภาษาในงานเขียนรูปแบบต่าง ๆ  ด้วย เช่น ภาษาเขียนแบบทางการ กึ่งทางการ หรือแม้แต่ภาษาเขียนในบทกลอน และยังต้องมีการเลือกสรรคำศัพท์ที่จะใช้ในภาษาเขียนให้เหมาะสมกับบุคคลที่เรากำลังเขียนถึงด้วย

ลักษณะของภาษาเขียน

 

ภาษาเขียน

 

ต้องใช้คำมาตรฐาน หรือใช้ตามแบบแผน 

ลักษณะสำคัญในภาษาเขียนคือการเลือกใช้คำตามแบบแผน หรือเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบุคคล เพื่อให้ดูสุภาพ และเป็นทางการที่สุด เราควรจะจดจำคำบางคำที่จำเป็นต้องใช้ในภาษาเขียน เช่น คำกริยาบางหมวดหมู่ คำสรรพนามที่ใช้เรียกบุคคล
หรือคำศัพท์เฉพาะบางคำ ยกตัวอย่างเช่น

 

ภาษาเขียน

 

ภาษาเขียนจะออกเสียงตามหลักการสะกด

ลักษณะข้อต่อมาของภาษาเขียนที่เราจะสังเกตได้ง่าย ๆ ก็คือ คำในภาษาเขียนจะออกเสียงตามหลักการสะกดคำ ซึ่งมันจะส่งผลต่อการเขียน หรือสะกดคำที่ถูกต้องด้วย โดยเราอาจจะเห็นได้กับบางประโยคในภาษาพูดที่มักจะออกเสียงไม่ชัด ยกตัวอย่างเช่น

 

ภาษาเขียน

 

ภาษาเขียนไม่สามารถสื่ออารมณ์ได้เหมือนภาษาพูด

ในภาษาพูดเวลาที่เราต้องการแสดงออกถึงความรู้สึก เราจะใช้วิธีการปรับโทนเสียงขึ้น – ลง เพื่อแสดงถึงความรู้สึกโกรธ ดีใจ ตื่นเต้นได้ผ่านน้ำเสียงในภาษาพูด แต่ภาษาเขียนเราไม่สามารถสื่อความรู้สึกเหล่านี้ให้กับผู้อ่านผ่านตัวอักษรที่เราเขียนได้ แม้ว่าปัจจุบันจะมีภาษาวัยรุ่น หรือภาษาที่พิมพ์กันในห้องแชตที่สามารถบอกอารมณ์ได้แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ถูกจัดอยู่ในภาษาเขียนตามมาตรฐาน หรือแบบแผน

 

ภาษาเขียนไม่ต้องใส่คำลงท้าย

คำลงท้าย หมายถึง คำที่ใช้พูดลงท้ายประโยคเพื่อแสดงความสุภาพ โดยจะมีทั้งคำที่ใช้ในเพศชาย และเพศหญิง เช่น สวัสดีค่ะ, สวัสดีครับ, ขอบคุณจ้า หรือคิดถึงนะ ซึ่งเมื่อเราใช้ภาษาเขียนก็ไม่จำเป็นต้องใช้คำลงท้ายเหล่านี้เพราะถือเป็นภาษาพูด เพียงแค่เราเขียนให้ถูกหลัก ใช้คำให้ถูกต้องก็ถือเป็นการแสดงความสุภาพในการเขียนแล้ว

 

ภาษาเขียนไม่นิยมใช้คำซ้ำ และคำซ้อน

คำซ้ำ คือ คำที่ต้องใส่เครื่องหมายไม้ยมกเพื่อแสดงถึงการอ่านซ้ำ ๆ แต่ในภาษาเขียนเราไม่นิยมการใช้คำซ้ำ หรือใช้คำที่มีไม้ยมกเยอะ ๆ เช่น เร็วเข้า วิ่ง ๆ ๆ, นอน ๆ ๆ หรือเร็ว ๆ ๆ ซึ่งเป็นจะถือเป็นการใช้คำที่ฟุ่มเฟือย นอกจากนี้ในภาษาเขียนยังไม่ควรใช้คำซ้อน หรือคำสร้อยต่อท้ายเยอะ ๆ เช่น ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างมาก ๆ หรือบ้านหลังนี้ดูสวยงามอร่ามตาจริง ๆ ประโยคเหล่านี้เวลาที่เรานำไปเขียนก็จะดูฟุ่มเฟือยเกินไป

 

บทส่งท้าย

เป็นอย่างไรกันบ้างน้อง ๆ ทุกคน หลังจากได้เรียนรู้หลักการใช้ภาษาเขียน หรือลักษณะของภาษาเขียนที่จะช่วยให้เรามีทักษะการเขียนที่แข็งแรงขึ้น อีกทั้งยังนำไปฝึกฝนกับการเขียนในรูปแบบต่าง ๆ ได้ด้วย น้อง ๆ ต้องไม่ลืมว่าภาษาเขียนนั้นสามารถนำไปพัฒนาเป็นงานเขียน หรืออาชีพในอนาคตได้ด้วย ยิ่งใครที่ชื่นชอบอาชีพนักเขียนแล้ว ความรู้เบื้องต้นของภาษาเขียนเหล่านี้เราก็ต้องจดจำให้ได้ด้วย ถ้าใครอยากเข้าใจเกี่ยวกับภาษาเขียนอย่างละเอียดแนะนำว่าให้ไปดูวีดีโอการสอนจากครูอุ้มด้านล่างนี้ได้เลย

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

NokAcademy_ม3 มารู้จักกับ Signal Words

การใช้ Signal words : First, Second, Firstly, Secondly, Finally, Then, Next etc.

มารู้จักกับ Signal Words หรือ อีกชื่อที่รู้จักกันคือ Connective Words: คำเชื่อมประโยค/วลี ในภาษาอังกฤษ สวัสดีค่ะนักเรียน ม.3 ทุกคน วันนี้ครูมีเทคนิคที่จะทำให้ทุกคนนำไปปรับใช้กับงานเขียนด้วย  การใช้ตัวเชื่อม (connective words) ในภาษาอังกฤษกันค่ะ โดยปรกติแล้วงานเขียนแบ่งออกออกเป็นสองรูปแบบหลักๆคือ เรียงความ (Essay Writing) กับ พารากราฟ (Paragraph Writing)

Passive Voice ในปัจจุบัน

Passive Voice ในรูปปัจจุบัน

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูการใช้ Passive Voice ในรูปปัจจุบัน กัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลดเด้อ   ความหมาย   Passive Voice (แพ็ซซิฝ ว็อยซ) หมายถึงประโยคที่เน้นกรรม โดยการนำโครงสร้างผู้ถูกกระทำขึ้นต้นประโยค และหากว่าต้องการเน้นผู้กระทำให้เติม  “by + ผู้กระทำ” ท้ายประโยค แต่ว่าเราสามารถละ by ไว้ได้น๊า ในบทนี้เราจะไปดูรูปประโยคในปัจจุบันกันจร้า

ป.5เรื่อง Present Tense โดยมีคำบอกเวลา และเเต่งประโยคให้เข้ากับคำศัพท์เรื่องสถานที่ต่างๆ

เรื่อง Present Tense โดยมีคำบอกเวลา และเเต่งประโยคให้เข้ากับคำศัพท์เรื่องสถานที่ต่างๆ

สวัสดีนักเรียนชั้นมป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวิธีการบอกข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ  “เรื่อง Present Tense โดยมีคำบอกเวลา และเเต่งประโยคให้เข้ากับคำศัพท์เรื่องสถานที่ต่างๆ” พร้อมทั้งตัวอย่างสถานการณ์ใกล้ตัวกันค่ะ ไปลุยกันเลยค่า Let’s go! ความหมาย   Present แปลว่า ปัจจุบัน  Simple แปลว่า ธรรมดา ส่วน Tense นั้น แปลว่ากาล ดังนั้น

ฟังก์ชันผกผัน

ฟังก์ชันผกผัน ฟังก์ชันผกผัน หรืออินเวอร์สฟังก์ชัน เขียนแทนด้วย เมื่อ เป็นฟังก์ชัน จากที่เรารู้กันว่า ฟังก์ชันนั้นเป็นความสัมพันธ์ ดังนั้นฟังก์ชันก็สามารถหาตัวผกผันได้เช่นกัน แต่ตัวผกผันนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นฟังก์ชันเสมอไป เพราะอะไรถึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นฟังก์ชัน เราลองมาดูตัวอย่างกันค่ะ ให้ f = {(1, 2), (3, 2), (4, 5),(6, 5)}  จะเห็นว่า f เป็นฟังก์ชัน

ทริคการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตอย่างง่าย ๆ

ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีที่แล้วก่อนที่อินเทอร์เน็ตจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของทุกคนเหมือนอย่างทุกวันนี้ แหล่งการสืบค้นหลัก ๆ จะอยู่ที่ห้องสมุด แต่ในปัจจุบันเราสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นเพียงคลิกปลายนิ้ว ข้อมูลที่ต้องการค้นหาก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าให้เลือกสรรมากมาย แต่เราจะมีวิธีการเลือกสืบค้นข้อมูลกันอย่างไร ถึงจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนที่สุด บทเรียนในวันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้การหาข้อมูลสำหรับการเรียนของน้อง ๆ นั้นง่ายขึ้น เราไปเรียนรู้เรื่อง การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต กันเลยค่ะ   การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต   เป็นการค้นคว้าหาความรู้โดยใช้สารสนเทศในลักษณะต่าง ๆ โดยมีเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งเก็บรวบรวมภาพและข้อมูลต่าง ๆ    

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1