ลิลิตตะเลงพ่าย ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดของลิลิต ที่แต่งดีที่สุด โดยบุคคลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคคลดีเด่นทางด้านวัฒนTรรมของโลก เกริ่นมาเพียงเท่านี้น้อง ๆ ก็คงจะอยากรู้ที่มาและเรื่องของลิลิตตะเลงพ่ายมากขึ้นกว่าเดิมใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปเรียนรู้วรรณคดีเรื่องสำคัญของไทยเรื่องนี้กันเลยค่ะ
ลิลิตตะเลงพ่าย ความเป็นมา
ลิลิตตะเลงพ่าย เป็นพระนิพนธ์ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส รัตนกวีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระนามเดิมของพระองค์คือ พระองค์เจ้าวาสุกรี เป็นพระเจ้าลูกยาเธอองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ทรงนิพนธ์ขึ้นเพื่องานพระราชพิธีฉลองตึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามในรัชกาลที่ 3 โดยชื่อเรื่องลิลิตตะเลงพ่าย หมายถึง พม่าและมอญแพ้ มาจากการที่พม่าได้มอญเป็นเมืองขึ้นและใช้เมืองหลวงของมอญคือ หงสาวดี เป็นเมืองหลวงของตน ไทยถึงเรียกกองทัพพม่าว่ากองทัพมอญ ในจํานวนพระนิพนธ์ทั้งหมด คือลิลิตตะเลงพ่าย และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นการแต่งลิลิตที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ลักษณะคำประพันธ์
เป็นลิลิตสุภาพ ประกอบด้วย ร่ายสุภาพ โคลงสองสุภาพ โคลงสามสุภาพ และโคลงสี่สุภาพ มีการเข้าลิลิต คือ คำสุดท้ายของบทที่มาก่อน ส่งสัมผัสไปรับที่คำที่ 1,2 หรือ 3 ของบทต่อมา โดยความยาวของร่ายสุภาพนี้จะมีความยาวกี่วรรคก็ได้ใน 1 บท
เรื่องย่อลิลิตตะเลงพ่าย
ระเจ้ากรุงหงสาวดีนันทบุเรงทรงทราบข่าวว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชเสด็จสวรรคต ทรงคาดการณ์ว่าอาจเกิดศึกแย่งชิงราชสมบัติกัน จึงสั่งให้พระมหาอุปราชายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา
พระมหาอุปราชารู้สึกได้ถึงลางไม่ดี แต่ก็ยกทัพเข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์ และเข้าตีเมืองกาญจนบุรี ขณะนั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเตรียมทัพจะไปรบเขมร แต่ทรงพระสุบินเห็นจระเข้ โหรฯ จึงทำนายว่า พม่ากำลังจะเข้ามาทางตะวันตกและจระเข้ที่พระองค์ได้ปลิดชีพไปในฝันก็คือพระมหาอุปราชาจึงทรงนำทัพออกไปรับศึกพม่านอกพระนคร ทัพไทยและทัพพม่าปะทะกันที่ตำบลตระพังตรุ จังหวัดสุพรรณบุรี ช้างของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชตกมันทำให้ทหารไม่สามารถตามพระองค์ไปได้ทัน เมื่อได้เผชิญหน้ากัน พระองค์ทรงเชิญให้พระมหาอุปราชาเสด็จมากระทำยุทธหัตถีด้วยกัน พระมหาอุปราชาเพลี่ยงพล้ำต้องพระแสงของ้าวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสิ้นพระชนม์บนคอช้าง หลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยาแล้ว ทรงปูนบำเหน็จทหารที่มีความชอบในการรบ และทรงตัดสินโทษทหารที่ตามเสด็จไม่ทันตอนที่รบกัน แต่แล้วก็ได้พระราชทานอภัยโทษให้แก่ทหารเหล่านั้น แลกกับการให้ยกทัพไปตีเมืองทวายและตะนาวศรีและมะริดเป็นการไถ่โทษ
กลศึกที่สมเด็จพระนเรศวรใช้เพื่อเตรียมรบกับพม่า
พระองค์ทรงมีพระบรมราชโองการให้ทัพของหัวเมืองต่าง ๆ ยกไปขัดตาทัพรับหน้าข้าศึกที่ตำบลหนองสาหร่าย โดยใช้อุบายเข้าโจมตีแล้วล่าถอยเพื่อให้ข้าศึกติดตาม จากนั้นพระองค์ทั้งสองจะทรงยกทัพไปตีขนาบข้าศึกไว้
ตอนท้ายเรื่อง สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมปรมานุชิตชิโนรสทรงแสดงจุดประสงค์ในการทรงนิพนธ์เรื่องลิลิตตะเลงพ่ายว่าเพื่อเป็นการสดุดีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ทรงทำยุทธหัตถีชนะพม่า และขอให้บทกวีคงอยู่ตลอดไป ซึ่งสิ่งที่พระองค์ต้องการนั้นก็เกิดขึ้นจริง ๆ ค่ะ เราถึงได้มาเรียนวรรณคดีอันทรงคุณค่านี้ในแบบเรียน ได้รู้ถึงพระปรีชาสามารถของกษัตริย์ในอดีตที่ปกป้องบ้านเมือง สำหรับตัวบทที่น่าสนใจเพิ่มเติม น้อง ๆ จะได้เรียนเจาะลึกกันในบทถัดไป แต่ก่อนที่จะไปถอดคำประพันธ์สนุก ๆ กับครูอุ้ม น้อง ๆ อย่าลืมทบทวนบทเรียนในวันนี้กันด้วยนะคะ
อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy