พระอภัยมณี ความเป็นมาและเรื่องย่อของวรรณคดีที่ดีที่สุดตลอดกาล

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

น้อง ๆ หลายคนคงจะรู้จักวรรณคดีเรื่อง พระอภัยมณี กันอยู่แล้วใช่ไหมคะ เพราะวรรณคดีที่แต่งโดยสุนทรภู่เรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก ๆ เป็นต้นแบบในการเขียนกลอนและยังถูกไปนำดัดแปลงเป็นละคร ภาพยนตร์ และเพลงอีกมากมาย แต่ทราบไหมคะว่าเรื่องพระอภัยมณีนั้นแท้จริงแล้วมีที่มาอย่างไร ถ้าอยากรู้แล้วเราไปศึกษาเรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ

 

พระอภัยมณี ความเป็นมา

 

พระอภัยมณี

 

พระอภัยมณีเป็นเรื่องที่สุนทรภู่แต่งขึ้นขณะติดคุกเพราะเมาสุราในสมัยรัชกาลที่ 2 ราว ๆ ปี พ.ศ. 2364-2366 เป็นการแต่งเพื่อหาเลี้ยงชีพ แต่แต่งไปได้ไม่กี่ตอนก็หยุดแต่ง และได้กลับมาแต่งอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 3 หลังสิ้นรัชกาลของสมเด็จพระพุทธเลิศล้านภาลัย ราว พ.ศ. 2388 ซึ่งเป็นระยะเวลานานกว่า 20 ปี เนื้อหาของพระอภัยมณีเป็นการผสมระหว่างจินตนาการและประสบการณ์ชีวิตของตัวสุนทรภู่เอง มีความยาว 94 เล่มสมุดไทย เมื่อนำมาพิมพ์เป็นหนังสือจะมีความยาวถึง 1,200 หน้าเลยทีเดียว

 

เรื่องย่อ

 

พระอภัยมณีอยู่กินกับนางผีเสื้อสมุทรมาแปดปีมีบุตรด้วยกันชื่อ สินสมุทร หน้าตาเหมือนบิดาแต่ดวงตามีสีแดงและมีพละกำลังเหมือนนางผีเสื้อสมุทร พระอภัยมณีรักบุตรชายมาก นอกจากจะอบรมบ่มนิสัยแล้วยังสอนวิชาต่าง ๆ ให้ทั้งเป่าปี่และเพลงอาวุธ วันหนึ่งนางผีเสื้อสมุทรออกไปหาอาหารนอกถ้ำ ฝ่ายสินสมุทรเมื่อเห็นบิดาหลับและมารดาก็ไม่อยู่จึงเล่นอะไรไปเรื่อยเปื่อย กระทั่งไปปีนหินที่ปิดปากถ้ำเล่นและลองผลักดู ผลปรากฏว่าถ้ำถูกเปิดออก สินสมุทรจึงออกไปเที่ยวเล่นแล้วพบกับนางเงือก เมื่อเห็นว่าประหลาดดีจึงใช้กำลังจับกลับมาที่ถ้ำให้บิดาดู ด้านพระอภัยมณีเมื่อรู้ว่าสินสมุทรมีพละกำลังถึงขนาดเปิดถ้ำได้ก็เกิดความกังวลว่านางผีเสื้อสมุทรจะรู้ ตอนนั้นสินสมุทรก็ได้รู้ความจริงว่าแม่ของตนเป็นยักษ์ ฝ่ายนางเงือกที่ฟังและพูดภาษามนุษย์ได้ก็ร้องขอชีวิตกับสองพ่อลูกให้ไว้ชีวิตตน แล้วจะยอมทำตามทุกอย่างที่ต้องการ พระอภัยมณีจึงขอให้นางเงือกพาตนกับลูกหนีไปจากนางยักษ์ นางเงือกตอบตกลงที่จะพาหนีไปยังเกาะแก้วพิสดารซึ่งมีฤๅษีที่มีเวทมนตร์มาก อยู่ตนหนึ่ง

ด้านผีเสื้อสมุทรหลังจากที่กลับมาก็ฝันร้ายว่ามีเทวดาเหาะมาที่เกาะแล้วเอาค้อนทุบถ้ำพร้อมทั้งควักลูกตานางไป เมื่อตื่นขึ้นมาพระอภัยมณีก็ออกอุบายให้นางไปอยู่ผู้เดียวที่ตีนเขา แล้วอดข้าวอดปลาให้ครบสามวัน นางผีเสื้อสมุทรก็เชื่อแล้วทำตาม เมื่อนางไป พระอภัยมณีกับสินสมุทรก็หนีออกไปจากเกาะตามความช่วยเหลือจากนางเงือก และเมื่อนางผีเสื้อสมุทรกลับมาที่ถ้ำและไม่พบสามีกับลูกก็โกรธและออกตามหา และตามมติด ๆ จนในที่สุดก็ได้พระฤๅษีช่วยไว้

 

ตัวอย่างบทสำคัญในพระอภัยมณี

 

สินสมุทรเปิดปากถ้ำ

พระอภัยมณี

 

กล่าวถึงตอนที่ผีเสื้อสมุทรออกจากถ้ำไปหาอาหาร สินสมุทรที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ในถ้ำก็สังเกตเห็นหินปิดปากถ้ำอยู่ ด้วยความที่มีพละกำลังมาก เมื่อลองผลักดูก็สามารถเปิดปากถ้ำออกมาได้ ตัวบทนี้มีความสำคัญเพราะเป็นตอนที่สินสมุทรได้ออกไปให้เห็นทะเลข้างนอกเป็นครั้งแรก

 

สินสมุทรจับเงือก

 

พระอภัยมณี

 

กล่าวถึงตอนที่สินสมุทรออกมาเที่ยวเล่นแล้วพบกับนางเงือก พอเห็นว่ามลักษณะรูปร่างที่ประหลาดดีจึงใช้กำลังจับนางเหงือกไปในถ้ำเพื่อให้บิดาตนเองดู

 

เงือกให้ปล่อยชีวิตแลกกับการพาหนี

 

พระอภัยมณี

 

กล่าวถึงตอนที่นางเงือกถูกสินสมุทรจับมาให้พระอภัยดูในถ้ำ นางเงือกร้องขอชีวิตเพราะกลัวจะถูกสองพ่อลูกฆ่า โดยเสนอว่าจะทำตามที่ต้องการทุกอย่าง ไม่ว่าพระอภัยจะอยากได้อะไร พระอภัยจึงขอให้นางเงือกพาตนกับลูกหนีไปจากนางยักษ์

 

พระอภัยมณีหนีไปเกาะแก้วพิสดาร

 

 

กล่าวถึงตอนที่นางเงือกพาพระอภัยมณีหนีมาเกาะแก้วพิสดารได้สำเร็จ พระอภัยมณีจึงรู้สึกโล่งใจที่กำลังจะหนีจากนางผีเสื้อสมุทรได้สำเร็จ

 

สรุปเนื้อเรื่อง

 

 

จบไปแล้วนะคะสำหรับความเป็นมาและเรื่องย่อของวรรณคดีเรื่อง พระอภัยมณี โดยตอนที่ได้นำมาศึกษาวันนี้ก็คือตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทรนั่นเองค่ะ ถือว่าเป็นตอนที่สำคัญและโดดเด่นมาก ๆ เพราะถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวอีกมากมายที่จะตามมา และเป็นการปูเรื่องรวมถึงปูมหลังของตัวละครหลักอย่างพระอภัยมณีด้วยค่ะ ส่วนด้านคุณค่าของบทประพันธ์นั้นเราจะศึกษากันในตอนต่อไป สำหรับวันนี้น้อง ๆ คนไหนที่อยากฟังคำอธิบายเพิ่มเติมก็สามารถไปดูคลิปการสอนของครูอุ้มได้ ในคลิปครูอุ้มได้เล่าเรื่องราวของพระอภัยมณีในตอนนี้ได้อย่างละเอียดและสนุกมาก ๆ อีกด้วยค่ะ จะเป็นอย่างไรไปดูพร้อมกันเลย

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

NokAcademy_Profile ม2 มารู้จักกับ (Connective Words)

 การใช้ตัวเชื่อม (Connective words)

Getting Started! มาเริ่มกันเลย   สวัสดีค่ะนักเรียน ม.3 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไป ทบทวนงานเรื่อง  การใช้ตัวเชื่อม (Connective words) ที่จะทำให้ทุกคนนำไปปรับใช้กับงานเขียนด้วย  การใช้ตัวเชื่อมในภาษาอังกฤษกันค่ะ โดยปรกติแล้วงานเขียนแบ่งออกออกเป็นสองรูปแบบหลักๆคือ เรียงความ (Essay Writing) กับ พารากราฟ (Paragraph Writing) ขอสรุปสั้นๆง่ายๆ ให้ทุกคนเข้าใจว่า Essay

Profile where + preposition P6

การใช้ประโยค Where’s the + (Building) + ? It’s + (Preposition Of Place)

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับ ประโยค การถามทิศทาง แต่เอ้ะ Where is the building? แปลว่า ตึกอยู่ที่ไหน ประโยคนี้เป็นการถามทางแบบห้วนๆ ที่ใช้กับคนที่เราคุ้นชินหรือคนที่เรารู้จัก แต่หากนักเรียนต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องถามกับคนแปลกหน้าโดยเฉพาะฝรั่ง คงต้องมาฝึกถามให้สุภาพมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการเกริ่นขึ้นก่อนที่เราจะถามนั่นเองค่ะ ซึ่งนักเรียนที่รักทุกคนได้เรียนรู้ในบทเรียนนี้นะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย รูปแบบการถามทิศทาง   โครงสร้างประโยคถามแบบตรงๆ (Direct Question) “

โจทย์ปัญหาการนำเสนอข้อมูล

โจทย์ปัญหาการนําเสนอข้อมูล

บทความนี้จะยกตัวอย่างเกี่ยวกับโจทย์ปัญหาการนำเสนอข้อมูลให้น้องๆทราบถึงวิธีคิดหรือวิธีทำเพื่อหาคำตอบที่ถูกต้อง

verb to be

Verb to be ใน Present Simple Tense

สวัสดีน้องๆ ป. 5 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่อง Simple Simple อย่าง Verb to be ใน Present Simple Tense กันครับ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

Relative Clause

อนุประโยค Relative Clause ใช้อย่างไรในภาษาอังกฤษ

Relative Clause คืออะไร?   สวัสดีค่ะนักเรียนม. 3 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปดู Relative clause หรือ อนุประโยคในภาษาอังกฤษ ที่ทำหน้าที่เหมือนกันกับคำคุณศัพท์ (Adjective) ซึ่งมีหน้าที่ขยายคำนามที่อยู่ข้างหน้า  และจะใช้ตามหลัง Relative Pronoun เช่น  who, whom, which, that, และ whose

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1