โต้วาที และยอวาที แต่งต่างกันอย่างไร?

การโต้วาที

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

การพูดมีมากมายหลายประเภท แล้วแต่จุดประสงค์ของผู้พูดว่าต้องการจะสื่อสารออกมาในรูปแบบใด แต่จะมีอยู่ประเภทหนึ่งที่มีหัวข้อให้พูดและต้องแบ่งออกเป็นสองฝ่าย โดยไม่ได้มีเจตนาเพื่อมาทะเลาะกัน เพราะเรากำลังหมายถึงการพูดโต้วาทีและการยอวาที ที่เป็นการพูดแสดงความคิดเห็นในลักษะที่ต่างกัน แต่จะต่างกันอย่างไรบ้างนั้น เราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ

 

การโต้วาที

 

การโต้วาที

 

การโต้วาที เป็นการแสดงความคิดเห็นโต้แย้งด้วยเหตุผลเพื่อให้ชนะอีกฝ่าย โดยจะแบ่งผู้พูดออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายญัตติและฝ่ายคัดค้านญัตติ และมีกรรมการคอยตัดสินว่าจะให้ฝ่ายใดชนะ โดยแต่ละฝ่ายจะต้องมีข้อมูลเพื่อมาสนับสนุนการพูดของตัวเอง หักล้างแนวคิดของอีกฝ่ายและต้องมีปฏิภาณไหวพริบ

 

องค์ประกอบของการโต้วาที

 

การโต้วาที

 

  1. ญัตติ

คือหัวข้อในการโต้วาที จะถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า โดยญัตติที่นำมาเป็นหัวข้อในโต้วาทีนั้นจะต้องเป็นเรื่องที่มีประโยชน์และไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีงามของไทย

  1. ประธาน หรือผู้ดำเนินการโต้วาที

ประธานจะทำหน้าโดยรวมคือดำเนินการตลอดการโต้วาทีอย่างการกล่าวนำ ชี้แจงญัตติ อธิบายระเบียบการโต้วาที กำหนดเวลาพูด เชิญผู้โต้วาทีฝ่ายญัตติและฝ่ายค้านญัตติ รวมไปถึงการรวบรวมคะแนนของคณะกรรมการเพื่อประกาศผลฝ่ายที่ชนะและกล่าวปิดการโต้วาที

  1. กรรมการ

กรรมการตัดสินควรมีจำนวนที่เป็นเลขที่เพื่อป้องกันปัญหาคะแนนเท่ากัน โดยคณะกรรมการจะต้องให้ความเป็นธรรม ตัดสินอย่างตรงไปตรงมาตามเหตุผลที่ได้ฟังจากทั้งสองฝ่าย

  1. ผู้โต้วาที

มี 2 ฝ่าย คือฝ่ายญัตติและฝ่ายค้านญัตติ แต่ละฝ่ายจะมีหัวหน้า 1 คน และมีสมาชิกฝ่ายละ 2-3 คน ลำดับจากพูดจะเริ่มจากหัวน้าฝ่ายญัตติ ต่อด้วยหัวหน้าฝ่ายค้าน และค่อยกลับมาที่สมาชิกฝ่ายญัตติอีกครั้ง

 

การโต้วาที

 

มารยาทในการฟัง

 

เทคนิคโต้วาที

 

 

การป้องกัน หมายถึง การป้องกันญัตติด้วยการหาเหตุผลมาล้อมสาระของญัตติ เพื่อไม่ให้มีช่องโหว่ที่อาจจะเป็นจุดอ่อนให้ฝ่ายค้านเห็น

การโจมตี หมายถึง การกล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าไม่มีเหตุผล เหตุผลไม่เพียงพอ

การต่อต้าน หมายถึง การหักล้างเหตุผลของฝ่ายตรงข้ามที่โจมตีด้วยเหตุผลหรือตอบโต้โดยใช้การอ้างอิงที่เชื่อถือได้

การค้าน ในการค้านนั้นสามารถทำได้ 3 วิธี

–  ค้านญัตติ เป็นการค้านตัวญัติหรือสาระของญัตติโดยตรงว่าไม่ถูกต้อง

– ด้านเหตุผล เป็นการค้านเหตุผลที่อีกฝ่ายเสนอมา

– ด้านอ้างอิง เป็นการค้านข้ออ้างอิงที่ฝ่ายตรงข้ามยกขึ้นมาพูด

 

การยอวาที

 

 

มีลักษณะคล้ายกับการโต้วาที แบ่งเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายเยิน และฝ่ายยอ มีจำนวนผู้พูดฝ่ายละ 3-4 คน โดยทั้งสองฝ่ายจะยกกันยกช่วยกันยอในหัวข้อนั้น ๆ ลักษณะของการยอวาทีจึงอาจเรียกได้ว่าเป็นการกระแหนะกระแหน ประชดประชัน แดกดัน เหน็บแนม

 

 

การโต้วาที แตกต่างจากการยอวาทีอย่างไร

 

การยอวาทีเริ่มขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2515 เป็นยุคที่การเมืองไทยกำลังเข้มข้น การโต้วาทีทางการเมืองถูกห้าม คนในยุคนั้นจึงคิดการยอวาทีขึ้นมาเพื่อเหน็บแนมในเรื่อที่ไม่สามารถพูดได้ การยอวาทีจึงเป็นการโต้วาทีที่ถูกทำให้เบาลงมา ไม่ได้โต้แย้งเพื่อเอาชนะ แต่เป็นเหมือนการโชว์มากกว่า

 

แม้ทั้งการโต้วาที การยอวาที จะต่างกันบ้างแต่ก็มีจุดเริ่มต้นเหมือนกันคือการแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะแสดงออกมาอย่างตรง ๆ หรือใช้การเยินยอเพื่อเหน็บแนม นั่นเป็นการสะท้อนว่ากิจกรรมการพูดเหล่านี้มีขึ้นเพื่อให้ทุกคนสามารถพูดสิ่งที่คิดได้อย่างอิสระ ไม่ว่าหัวข้อนั้น ๆ จะเป็นเรื่องอะไร นับว่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์และเป็นการฝึกให้เราใช้เหตุผลและมีไหวพริบมากขึ้นด้วยค่ะ สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่อยากฟังคำอธิบายแบบสนุก ๆ ก็สามารถไปติดตามดูคลิปการสอนของครูอุ้มได้เลยค่ะ รับรองว่าจะเข้าใจบทเรียนในวันนี้มากขึ้นอย่างแน่นอน ไปดูกันเลยค่ะ

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

คุณศัพท์บอกความรู้สึก

การใช้คำคุณศัพท์และการบอกความรู้สึก

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิคและวิธีการใช้ Descriptive Adjective การใช้คำคุณศัพท์บอกลักษณะและความรู้สึก กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า    ความหมายของคำคุณศัพท์     คำคุณศัพท์หรือ Adjective มีตัวย่อคือ Adj.  ทำหน้าที่ขยายคำนามหรือสรรพนามที่อยู่ในประโยค คำนามหรือสรรพนาม ณ ที่นี้ ก็คือ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่

Profile where + preposition P6

การใช้ประโยค Where’s the + (Building) + ? It’s + (Preposition Of Place)

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับ ประโยค การถามทิศทาง แต่เอ้ะ Where is the building? แปลว่า ตึกอยู่ที่ไหน ประโยคนี้เป็นการถามทางแบบห้วนๆ ที่ใช้กับคนที่เราคุ้นชินหรือคนที่เรารู้จัก แต่หากนักเรียนต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องถามกับคนแปลกหน้าโดยเฉพาะฝรั่ง คงต้องมาฝึกถามให้สุภาพมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการเกริ่นขึ้นก่อนที่เราจะถามนั่นเองค่ะ ซึ่งนักเรียนที่รักทุกคนได้เรียนรู้ในบทเรียนนี้นะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย รูปแบบการถามทิศทาง   โครงสร้างประโยคถามแบบตรงๆ (Direct Question) “

ารบวก-ลบ-คูณ-หารจำนวนเต็ม

การบวก ลบ คูณ หารจำนวนเต็ม

บทความนี้จะทำให้น้องๆ มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง การบวก ลบ คูณ หารจำนวนเต็ม มากยิ่งขึ้น ซึ่งได้รวบรวมตัวอย่างไว้อย่างหลากหลายและอธิบายไว้อย่างละเอียด โดยก่อนที่น้องๆจะเรียนเรื่องนี้จะต้องเรียนรู้เรื่อง จำนวนตรงข้าม และ ค่าสัมบูรณ์ เพื่อใช้ในการบวก ลบ จำนวนเต็ม ซึ่งมีวิธีการดังตัวอย่างต่อไปนี้ การบวกจำนวนเต็ม การบวกจำนวนเต็มบวก โดยใช้ค่าสัมบูรณ์ ให้น้องๆทบทวนการหาค่าสัมบูรณ์ ดังนี้ |-12|=   12 |4|=   4

ประมาณค่าทศนิยมด้วยการปัดทิ้งและปัดทด

บทความนี้จะพูดถึงเรื่องพื้นฐานของทศนิยมอีก 1 เรื่องก็คือการประมาณค่าใกล้เคียงของทศนิยม น้อง ๆคงอาจจะเคยเรียนการประมาณค่าใกล้เคียงของจำนวนเต็มมาแล้ว การประมาณค่าทศนิยมหลักการคล้ายกับการประมาณค่าจำนวนเต็มแต่อาจจะแตกต่างกันที่คำพูดที่ใช้ เช่นจำนวนเต็มจะใช้คำว่าหลักส่วนทศนิยมจะใช้คำว่าตำแหน่ง บทความนี้จึงจะมาแนะนำหลักการประมาณค่าทศนิยมให้น้อง ๆเข้าใจ และสามารถประมาณค่าทศนิยมได้อย่างถูกต้อง

ประโยคความเดียวและประโยคความรวมในภาษาอังกฤษ

  สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.1 ที่น่ารักทุกคน เจอกันอีกแล้วจร้ากับไวยากรณ์การเขียนภาษาอังกฤษและวันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิคการการใช้ประโยคความเดียว และประโยคความรวมในภาษาอังกฤษกันค่ะ ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมามากกับคนที่ไม่ชอบเขียน  ครูเอาใจช่วยทุกคนค่า ไปลุยกันเลย 3 โครงสร้างประโยคในภาษาอังกฤษ การจะเป็นประโยคสมบูรณ์ได้นั้น ประโยคจะต้องประกอบไปด้วย 3 ส่วนสำคัญดังนี้ กริยา หรือ verb (ภาคขยาย) ภาคขยาย จะมีหรือไม่มีก็ได้ การใส่ภาคขยายเข้ามาเพื่อให้ประโยคสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ประธาน subject  + กริยา หรือ

การใช้ไวยากรณ์ Past Simple ในการตั้งคำถาม

เกริ่นนำ เกริ่นใจ อดีต ปัจจุบันและอนาคต ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วได้รับความสำคัญในหลักไวยากรณ์ของภาษาอังกฤษ เอาเข้าจริง ภาษาไทยของเราเองก็มีอะไรในลักษณะนี้เหมือนกันนะ แต่จะไม่เด่นชัดในรูปประโยคจนรู้สึกว่าซับซ้อนเหมือนภาษาอังกฤษที่เรากำลังเรียน ตัวอย่างเช่น เมื่อวานไปไหนมา….หรือ ฉันไป…มา ในขณะที่ภาษาอังกฤษจะต้องมีการปรับโครงสร้างให้เป็นรูปอดีตด้วยการเปลี่ยนคำกริยาเป็นช่องที่ 2 ตัวอย่างเช่น Where “did” you go yesterday? หรือ I “went to…” เป็นต้น อย่างไรก็ดี

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1