เสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยมีความสำคัญอย่างไร

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

 

เสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยมีความสำคัญไม่แพ้เสียงพยัญชนะและเสียงวรรณยุกต์เลยค่ะ น้อง ๆ ทราบไหมคะว่าเสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยเรานั้นเป็นเหมือนตัวกำหนดความหมายของคำเลยก็ว่าได้ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น วันนี้เรามีคำตอบให้แล้วค่ะ เราไปเรียนรู้เกี่ยวเสียงวรรณยุกต์พร้อมๆ กันเลยค่ะว่าทำไมถึงมีความสำคัญ

 

เสียงวรรณยุกต์คืออะไร

 

เสียงวรรณยุกต์ หมายถึง เสียงที่ใช้บอกระดับสูงต่ำของคำ มี 4 รูป 5 เสียง

 

รูปวรรณยุกต์

 

รูปวรรณยุกต์มี 4 รูป คือ เอก โท ตรี และ จัตวา

 

เสียงวรรณยุกต์

 

เสียงวรรณยุกต์ มีทั้งหมด 5 เสียง คือ เสียงสามัญ เสียงเอก เสียงโท เสียงตรี และ เสียงจัตวา

 

 

ข้อสังเกต

สิ่งที่น้อง ๆ ต้องระวังคือ แม้ว่ารูปของวรรณยุกต์จะเป็นอย่างหนึ่ง แต่การออกเสียงอาจไม่ได้ออกเสียงตามรูปเสมอไป เช่น คำว่า ไม้ รูปวรรณยุกต์โท แต่การออกเสียงจะเป็นเสียงตรี หรือ เสือ ไม่มีรูปวรรณยุกต์ แต่การออกเสียงจะเป็นเสียงจัตวา

 

 

ดังนั้นการจะเข้าใจว่าคำไหนออกเสียงวรรณยุกต์อย่างไร น้อง ๆ จะต้องเข้าใจเรื่องการผันวรรณยุกต์และอักษรสามหมู่ สูง กลาง และต่ำ เรามาทบทวนการผันวรรณยุกต์กันค่ะ

 

การผันวรรณยุกต์

 

หลักการผันวรรณยุกต์อย่างง่ายมีดังนี้

 

 

  1. อักษรกลาง สามารถผันได้ครบทั้ง 5 เสียง คือ เสียงสามัญ เสียงเอก เสียงโท เสียงตรี และเสียงจัตวา
  2. อักษรสูง สามารถผันวรรณยุกต์ได้ 3 เสียง คือ เสียงเอก เสียงโท และเสียงจัตวา
  3. อักษรต่ำ สามารถผันวรรณยุกต์ได้ 3 เสียง คือ เสียงสามัญ เสียงโท และเสียงตรี

 

ความสำคัญของเสียงวรรณยุกต์

 

อย่างที่กล่าวไปในตอนแรกนะคะว่าเสียงวรรณยุกต์มีความสำคัญมาก เพราะถ้าเราใส่วรรณยุกต์หรืออ่านวรรณยุกต์ผิด ความหมายของคำก็จะผิดเพี้ยนไปทันที เมื่อวรรณยุกต์เปลี่ยนความหมายก็จะเปลี่ยน เพราะภาษาไทยไม่เหมือนภาษาต่างประเทศที่ไม่มีวรรณยุกต์เป็นตัวกำหนดความหมาย

 

เห็นไหมคะว่าเสียงวรรณยุกต์มีความสำคัญมาก ๆ กับความหมายของคำ แต่ทั้งนี้ถ้าน้อง ๆ คนไหนยังไม่เข้าใจเรื่องวรรณยุกต์ ก็สามารถไปดูคลิปการสอนย้อนหลังของครูอุ้มได้ ในคลิปจะมีการสอนเทคนิคเทียบคำเพื่อให้น้อง ๆ สามารถผันวรรณยุกต์แต่ละคำได้อย่างถูกต้องค่ะ ไปดูกันเลย

 

 

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

NokAcademy_Past Tense และ Present Continuous Tense

เรียนรู้ เรื่อง Past Tense และ Present Continuous Tense

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้ เรื่อง Past Tense และ Present Continuous Tense  ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลด มาเริ่มกันกับ Past Tenses   ก่อนอื่นเราจะต้องรู้จักก่อนว่า การเล่าถึงงเหตุการณ์ในอดีตนั้นเราสามารถเล่าได้หลายแบบ ครูจะขอยกตัวอย่างจากสถาณการณ์การใช้ไปหาโครงสร้างและคำศัพท์ที่จำเป็นเพื่อให้เราเข้าใจความสำคัของ Tense นั้นๆ ร่วมกับเทคนิค “Situational usage”

ม3 เน้นรูปอดีตโดยใช้ Did_ Was_Were_

Short question เน้นรูปอดีตโดยใช้ Did, Was, Were

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.3 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง “Short question เน้นรูปอดีตโดยใช้ Did, Was, Were” ไปลุยกันโลดเด้อ   ทำไมต้องเรียนเรื่อง Did, Was, Were Did, Was, Were ใช้ถามคำถามใน Past Simple Tense กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้วในอดีต หรือ ถามเพื่อให้แน่ใจว่าได้ทำสิ่งนั้นๆไปแล้ว

แบบฝึกหัดความสัมพันธ์

แบบฝึกหัดความสัมพันธ์ แบบฝึกหัดความสัมพันธ์ เป็นการทบทวนเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ได้แก่ เรื่องโดเมนและเรนจ์ของความสัม กราฟของความสัมพันธ์ และตัวผกผันของความสัมพันธ์ ก่อนทำแบบฝึกหัดความสัมพันธ์ บทความที่น้องๆควรรู้ คือ โดเมนของความสัมพันธ์ เรนจ์ของความสัมพันธ์ กราฟของความสัมพันธ์ ตัวผกผันของความสัมพันธ์   แบบฝึกหัด 1.) ถ้า (x, 5) = (3, x – y)

ร้อยละ

การคำนวณร้อยละในชีวิตประจำวัน

บทความนี้เราจะได้เรียนรู้ความหมายของคำว่าร้อยละ หรือเปอร์เซ็นต์ รวมทั้งความสัมพันธ์ของอัตราส่วนที่คิดคำนวณเป็นร้อยละ หรือเปอร์เซ็นต์ ที่จะทำให้เราสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

ฟังก์ชันประกอบ

ฟังก์ชันประกอบ

ฟังก์ชันประกอบ ฟังก์ชันประกอบ คือฟังก์ชันที่เกิดจากการหาค่าฟังก์ชันที่ส่งจากเซต A ไปเซต C โดยที่ f คือฟังก์ชันที่ส่งจาก A ไปยัง B และ g เป็นฟังก์ชันที่ส่งจาก B ไปยัง C เราเรียกฟังก์ชันที่ส่งจาก A ไป C นี้ว่า gof  จากรูป

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1