บทพากย์เอราวัณ ที่มาของวรรณคดีพากย์โขนอันทรงคุณค่า

บทพากย์เอราวัณ

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

บทนำ

สวัสดีน้อง ๆ ทุกคนยินดีต้องรับเข้าสู่เนื้อหาวิชาภาษาไทยที่จะมาให้สาระความรู้ดี ๆ ซึ่งวันนี้เราจะมาเรียนรู้ความเป็นมาของวรรณคดีเรื่องหนึ่งที่มักจะใช้ในการแสดงโขน นั่นก็คือบทพากย์เอราวัณแน่นอนว่าน้อง ๆ ในระดับมัธยมต้นจะต้องได้เรียนเรื่องนี้ เพราะเป็นวรรณคดีอีกเรื่องที่แสดงถึงพระปรีชาสามารถของรัชกาลที่ 2 ในด้านกวีนิพนธ์จากการที่เลือกใช้ถ้อยคำภาษาที่สวยงามเพื่อมาบรรยายถึงลักษณะของช้างเอราวัณได้อย่างดี ดังนั้น ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันว่าวันนี้เรามีเนื้อหาที่น่าสนใจอะไรมาฝากน้อง ๆ กันบ้างดีกว่า

บทพากย์เอราวัณ

ประวัติความเป็นมา

สำหรับวรรณคดี บทพากย์เอราวัณ เป็นอีกหนึ่งผลงานการพระราชนิพนธ์ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ซึ่งถือเป็นบทที่นิยมนำไปใช้ในการแสดงโขน โดยได้เค้าโครงเรื่องมาจาก รามายณะ ของอินเดีย ในเนื้อเรื่องจะมุ่งเน้นไปที่การบรรยายถึงความงดงามของกระบวนทัพที่มีอินทรชิตจำแลงกายลงมาเป็นพระอินทร์อีกทั้งยังมีลูกสมุนยักษ์ที่จำแลงกายลงมาเป็นเหล่าเทวดา และช้างเอราวัณที่มีรูปร่างสง่างาม ซึ่งรัชกาลที่ 2 ทรงใช้ลักษณะคำประพันธ์อย่างกาพย์ฉบัง 16 มาพรรณนาถึงรูปร่างของช้างตัวนี้ไว้ได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน จนกลายเป็นเป็นบทพากย์เอราวัณที่เราจะได้เรียนกันต่อไปนี้นั่นเอง

บทพากย์เอราวัณ

เรื่องราวก่อนเกิดบทพากย์เอราวัณ

ก่อนที่เราจะมาดูตัวบท หรือถอดความตัวบทที่น้อง ๆ เคยได้เรียนมาเราต้องมาดูเหตุการณ์หรือเรื่องราวก่อนจะมีบทพากย์เอราวัณ เป็นการเล่าถึงภูมิหลังที่มาจากเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต โดยเนื้อเรื่องนั้นมีอยู่ว่า รณพักตร์ หรืออินทรชิต ซึ่งเป็นลูกของทศกัณฑ์กับนางมณโฑตอนที่มีอายุครบ 14 ปีก็ได้เรียนวิชากับ “มหากาลอัคคี” ฤๅษีโคบุตรและเพียรบำเพ็ญตบะจนทำให้มหาเทพทั้ง 3  (พระอิศวร พระนารายณ์ พระพรหม) ได้ประทานอาวุธวิเศษให้ 3 อย่าง โดยพระอิศวรประทานศรพรหมาสตร์ และพรที่สามารถแปลงร่างเป็นพระอินทร์ได้ พระพรหมประทานศรนาคบาศ และพรที่ว่าหากศีรษะของรณพักตร์ตกลงพื้นจะเกิดไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลกมีวิธีเดียวคือต้องนำพานแว่นฟ้าหรือพานแก้วของพระพรหมเท่านั้มารองศีรษะเท่านั้นจึงจะระงับเหตุได้ ส่วนพระนารายณ์ได้ประทานศรวิษณุปาณัม ซึ่งหลังจากที่รณพักตร์ได้รับอาวุธวิเศษเหล่านี้ไปแล้วก็ได้ขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อท้ารบกับพระอินทร์ เพราะรณพักตร์นั้นเคยสู้กับกองทัพพระราม พระลักษณ์มาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็พ่ายแพ้กลับไป ครั้งนี้จึงได้คิดอุบายด้วยการใช้ยักษ์ที่ชื่อ “การุณราช” แปลงกายเป็น “ช้างเอราวัณ” และให้ยักษ์ “โลทัน” แปลงกายมาเป็นเหล่าเทวดาในกระบวนทัพ ส่วนตนนั้นจะแปลงกายเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ และการสู้รบครั้งนี้รณพักตร์ก็เป็นฝ่ายที่ได้ชัยชนะกลับไปจนได้รับฉายานามใหม่ว่า ” อินทรชิต” ที่มีความหมายว่าเป็นผู้พิชิตพระอินทร์ได้

บทส่งท้าย

สำหรับเนื้อหาวันนี้ที่เรานำมาฝากน้อง ๆ ทุกคน จะเป็นที่มาและภูมิหลังของบทพากย์เอราวัณ หวังว่าทุกคนจะได้สาระความรู้เพิ่มขึ้น ครั้งต่อไปเราจะมาดูตัวบทที่น่าสนใจ และถอดความร่วมกันเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจเนื้อเรื่อง และสนุกไปกับการเรียนวรรณดดีเรื่องนี้มากขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นอย่าลืมติดตามเนื้อหาส่วนต่อไป และถ้าใครที่อยากจะฟังครูอุ้มสอนเรื่องนี้เพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูที่คลิปด้านล่างนี้ได้เลย

 

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

present progressive

Present Progressive พร้อมโครงสร้าง และวิธีใช้

สวัสดีน้องๆ ม. 4 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่อง Present Progressive ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง Tense ที่สำคัญเช่นกันในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เราไปดูกันเลยดีกว่าครับ

NokAcademy_ม6 Relative Clause

ทบทวนเรื่อง Relative clause + เทคนิค Error Identification

สวัสดีค่ะนักเรียนม. 6 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปดู Relative clause หรือ อนุประโยคในภาษาอังกฤษ ที่ทำหน้าที่เหมือนกันกับคำคุณศัพท์ (Adjective) ซึ่งมีหน้าที่ขยายคำนามที่อยู่ข้างหน้า  และจะใช้ตามหลัง Relative Pronoun เช่น  who, whom, which, that, และ whose แต่สงสัยมั้ยคะว่าทำไมต้องเรียนเรื่องนี้ ลองดูตัวอย่างประโยคด้านล่างแล้วจะร้องอ๋อมากขึ้น พร้อมข้อสอบ Error

อิเหนา

อิเหนา จากนิทานปันหยีสู่วรรณคดีเลื่องชื่อของไทย

อิเหนา เป็นวรรณคดีที่ถูกเผยแพร่เข้ามาในไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา น้อง ๆ สงสัยไหมคะว่าจุดเริ่มต้นของนิทานของชาวชวานี้มีจุดเริ่มต้นในไทยอย่างไร เหตุใดถึงถูกประพันธ์ขึ้นเป็นบทละครให้ได้เล่นกันในราชสำนัก ถ้าน้อง ๆ พร้อมหาคำตอบแล้ว เราไปเรียนรู้ประวัติความเป็นมาและเรื่องย่อของอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิงกันเลยค่ะ   ความเป็นมา   อิเหนามีความเป็นมาจากนิทานปันหยี หรือที่เรียกว่า อิเหนาปันหยีรัตปาตี ซึ่งเป็นนิทานที่เล่าแพร่หลายกันมากในชวา เชื่อกันว่าเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ของชวา ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 16 ปรุงแต่งมาจากพงศาวดารชวา อิทธิพลของเรื่องอิเหนาเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกในสมัยอยุธยา จากการที่เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลและเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎ

กาพย์พระไชยสุริยา ศึกษาตัวบทที่น่าสนใจและคุณค่าที่อยู่ในเรื่อง

กาพย์พระไชยสุริยา   กาพย์พระไชยสุริยาเป็นวรรณคดีที่ทรงคุณค่า เป็นแบบเรียนภาษาไทยที่มีมาแต่โบราณ นอกจากนี้ยังสอนเรื่องราวต่าง ๆ อีกมากมาก หลังจากที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ลักษณะคำประพันธ์และเนื้อเรื่องกันไปแล้ว เรื่องต่อไปที่น้อง ๆ จะได้เรียนรู้ก็คือตัวบทเด่น ๆ ที่น่าสนใจในเรื่องกาพย์พระไชยสุริยาค่ะ เรามาดูกันดีกว่านะคะว่าในกาพย์พระไชยสุริยาจะมีตัวบทไหนเด่น ๆ และมีคุณค่าอย่างไรบ้าง   ตัวบทที่น่าสนใจในกาพย์พระไชยสุริยา   ลักษณะคำประพันธ์ : กาพย์สุรางคนางค์ 28  

รากที่สาม

รากที่สาม

ในบทตวามนี้เราจะได้เรียนรู้การหารากที่สามของจำนวนจริงใดๆ ซึ่งทำได้หลายวิธีเช่นเดียวกับการหารากที่สอง อาจใช้การแยกตัวประกอบ การประมาณ การเปิดตาราง และการใช้เครื่องคำนวณ แต่เนื่องจากการประมาณเป็นวิธีที่ยุ่งยาก ในที่นี้จึงจะกล่าวเฉพาะการหารากที่สามโดยการแยกตัวประกอบ การเปิดตาราง และการใช้เครื่องคำนวณ

ป.5 การใช้ V. to be กับคำนามเอกพจน์ และพหูพจน์

การใช้กริยา V. to be กับคำนามเอกพจน์ และพหูพจน์

สวัสดีค่ะนักเรียนที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้กริยา be กับคำนามเอกพจน์ และพหูพจน์ กันนะคะ พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจ้า Let’s go! รู้จักกับ V. to be   V. to be แปลว่า เป็น อยู่ คือ หลัง verb to

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1