คติธรรมในสำนวนไทย

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

คติธรรม หมายถึง ธรรมที่เป็นแบบอย่าง เป็นวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับหลักการดำเนินชีวิตซึ่งได้มาจากหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหรืออาจเรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมทางจิตใจอย่างหนึ่งที่คนไทยให้ความสำคัญอย่างมากและมักจะถูกสอดแทรกอยู่ในสื่อต่าง ๆ เพื่อปลูกฝังเด็กรุ่นใหม่ให้มีคติธรรมประจำใจ ไม่ว่าจะเป็นนิทานหรือสำนวนไทย สำหรับบทเรียนในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่อง คติธรรมในสำนวนไทย มาดูกันค่ะว่าจะมีอะไรบ้าง

 

สำนวนที่เกี่ยวกับคติธรรม

 

สำนวนไทยถือเป็นภูมิปัญญาในการใช้ภาษาไทยอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นถ้อยคำที่มิได้มีความหมายตรงไปตรงมาตามตัวอักษร หรือแปลตามรากศัพท์ แต่เป็นถ้อยคำที่มีความหมายเป็นอย่างอื่น ชวนให้ผู้อ่านได้คิด มีรูปแบบการใช้ภาษาที่ต้องผ่านการเรียบเรียงถ้อยคำ การรวมข้อความยาว ๆ ให้สั้น โดยนำถ้อยคำเพียงไม่กี่คำมาเรียงร้อย อาจใส่สัมผัสหรือเล่นคำให้สละสลวย

 

คติธรรมในสำนวนไทย

 

ตัวอย่าง คติธรรมในสำนวนไทย

 

คติธรรมในสำนวนไทย

 

ที่มา :

น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า มาจากน้ำในแม่น้ำลำคลอง เมื่อมีเรือขึ้นล่องดิน ที่ท้องน้ำจะไม่ตกตะกอน ทำให้ไม่ตื้นเขิน เช่นเดียวกันกับเสือที่อยู่ในป่าได้ก็เพราะป่าเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหาร

คติธรรม :

น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า เป็นสำนวนที่สอดแทรกคติธรรมเกี่ยวกับการมีมิตรไมตรีและน้ำใจที่ดีต่อกัน จึงยกลักษณะของการถ้อยทีถ้อยอาศัยของสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันมาเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น

 

คติธรรมในสำนวนไทย

 

ที่มา :

สำนวนปิดทองหลังพระเป็นการเปรียบเปรยถึงการปิดทองที่ด้านหลังของพระพุทธรูป ที่คนส่วนใหญ่มักมองเพียงด้านหน้าขององค์พระ

คติธรรม :

การปิดทองหลังพระเป็นสำนวนที่สอดแทรกเรื่องของทำความดีหรือการให้โดยไม่ต้องหวังสิ่งตอบแทน เหมือนกับการปิดทองหลังพระ ที่ไม่ว่าจะติดด้านไหนก็เท่ากับเป็นการทำบุญเหมือนกันโดยไม่ต้องป่าวประกาศ ทำให้คนเห็นว่าการทำความดีนั้น ไม่ว่าจะมีคนเห็นหรือไม่แต่ก็ยังถือว่าเป็นการทำความดีเหมือนกัน

 

 

ที่มา :

สำนวนอย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน เป็นสำนวนที่มีความหมายตัวตรงจากการนำทางที่เราอาจไม่ได้รู้จักดีมาเปรียบเทียบกับคนว่าเราไม่ควรจะไว้ใจใครหรืออะไรง่าย ๆ

คติธรรม :

ความไม่ประมาท คือคติธรรมที่สำนวนอย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคนได้สอดแทรกไว้

 

สำนวนไทยเป็นวัฒนธรรมทางภาษาที่มีคุณค่า มุ่งเน้นสอนให้รู้จักน้อมนำธรรมชาติและสรรพสิ่งรอบตัวมาขัดเกลาพฤติกรรมของคนในสังคมได้อย่างดีเยี่ยม หวังว่าบทเรียนในวันนี้จะทำให้น้อง ๆ ได้คติธรรมสอนใจเพิ่มขึ้นนะคะ และอย่าลืมชมคลิปการสอนของครูอุ้มเพื่อทบทวนบทเรียนและฟังคำอธิบายเกี่ยวกับสำนวน รับรองว่าได้ทั้งความเพลิดเพลินและความรู้เลยค่ะ

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

สมบัติของการเท่ากัน

สมบัติของการเท่ากัน

          การหาคำตอบของสมการนั้น ต้องใช้สมบัติการเท่ากันมาช่วยในการหาคำตอบ จะรวดเร็วกว่าการแทนค่าตัวแปรในสมการซึ่งสมบัติการเท่ากันที่ใช้ในการแก้สมการได้แก่ สมบัติสมมาตร สมบัติถ่ายทอด สมบัติการบวก และสมบัติการคูณ เรามาทำความรู้จักสมบัติเหล่านี้กันค่ะ สมบัติสมมาตร ถ้า a = b แล้ว b = a เมื่อ a และ

Profile Telling Time

“บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Time in English) ”

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวิธีการ “บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Telling Time in English) ” กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย  บทนำ ในบทเรียนนี้ครูขอยกตัวอย่างการบอกเวลาที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปใน 2 รูปแบบ ตามที่มาของ Native English หรือ ภาษาอังกฤษของเจ้าของภาษา นะคะ  ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้

การใช้ไวยากรณ์ Past Simple ในการตั้งคำถาม

เกริ่นนำ เกริ่นใจ อดีต ปัจจุบันและอนาคต ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วได้รับความสำคัญในหลักไวยากรณ์ของภาษาอังกฤษ เอาเข้าจริง ภาษาไทยของเราเองก็มีอะไรในลักษณะนี้เหมือนกันนะ แต่จะไม่เด่นชัดในรูปประโยคจนรู้สึกว่าซับซ้อนเหมือนภาษาอังกฤษที่เรากำลังเรียน ตัวอย่างเช่น เมื่อวานไปไหนมา….หรือ ฉันไป…มา ในขณะที่ภาษาอังกฤษจะต้องมีการปรับโครงสร้างให้เป็นรูปอดีตด้วยการเปลี่ยนคำกริยาเป็นช่องที่ 2 ตัวอย่างเช่น Where “did” you go yesterday? หรือ I “went to…” เป็นต้น อย่างไรก็ดี

Relative Clause Profile II

Relative Clause

สวัสดีค่ะนักเรียนม. 3 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปดู Relative clause หรือ อนุประโยคในภาษาอังกฤษ ที่ทำหน้าที่เหมือนกันกับคำคุณศัพท์ (Adjective) ซึ่งมีหน้าที่ขยายคำนามที่อยู่ข้างหน้า  และจะใช้ตามหลัง Relative Pronoun เช่น  who, whom, which, that, และ whose แต่สงสัยมั้ยคะว่าทำไมต้องเรียนเรื่องนี้ ลองดูตัวอย่างประโยคด้านล่างแล้วจะร้องอ๋อ   Relative

Vtodo+Present Simple Tense

การใช้ V. to do ในรูปแบบของ Present Simple Tense

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ V. to do ในรูปแบบของ Present Simple Tense หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลดเด้อ Let’s go! V. to do คืออะไร   ปรกติแล้วคำว่า do นั้นแปลว่าทำ แต่เมื่ออยู่ในประโยคแล้ว V. to do

รากที่สาม

รากที่สาม

ในบทตวามนี้เราจะได้เรียนรู้การหารากที่สามของจำนวนจริงใดๆ ซึ่งทำได้หลายวิธีเช่นเดียวกับการหารากที่สอง อาจใช้การแยกตัวประกอบ การประมาณ การเปิดตาราง และการใช้เครื่องคำนวณ แต่เนื่องจากการประมาณเป็นวิธีที่ยุ่งยาก ในที่นี้จึงจะกล่าวเฉพาะการหารากที่สามโดยการแยกตัวประกอบ การเปิดตาราง และการใช้เครื่องคำนวณ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1