การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม

การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

ทบทวนจำนวนเต็ม

บทความนี้จะทำให้น้องๆ เข้าใจ การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม ซึ่งได้รวบรวมตัวอย่างไว้อย่างหลากหลาย น้องๆรู้จัก จำนวนเต็ม กันแล้ว แต่หลายคนยังไม่สามาถเปรียบเทียบความมากน้อยของจำนวนเต็มเหล่านั้นได้ ซึ่งถ้าน้องๆ เคยเรียนเรื่องการเปรียบเทียบเศษส่วนและจำนวนคละมาแล้ว เรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องง่ายดาย ซึ่งได้นำเสนออกมาในรูปแบที่เข้าใจง่าย ทำให้น้องๆสนุกกับการเรียนคณิตศาสตร์

ทบทวนเรื่องจำนวนเต็ม  เช่น                                                                                    

                25 ,  9  , -5 , 5.5 , 2.0 ,  9.80 , -15 , -3.25, 0                     

น้องๆช่วยกันตอบว่าจำนวนที่กำหนดให้เป็นจำนวนเต็มหรือไม่  ถ้าเป็น เป็นจำนวนเต็มชนิดใด 

25    เป็นจำนวนเต็มบวก             9    เป็นจำนวนเต็มบวก              -5   เป็นจำนวนเต็มลบ

5.5   ไม่เป็นจำนวนเต็ม             2.0   เป็นจำนวนเต็มบวก           9.80  ไม่เป็นจำนวนเต็ม

-15   เป็นจำนวนเต็มลบ           -3.25  ไม่เป็นจำนวนเต็ม                0    เป็นจำนวนเต็มศูนย์

น้องๆ พิจารณาเส้นจำนวนและสังเกตจำนวนที่แตกต่างกันบนเส้นจำนวน เปรียบเทียบจำนวนเต็ม 2

– จำนวนที่อยู่ขวามือของศูนย์แตกต่างกับจำนวนที่อยู่ซ้ายมืออย่างไร (จำนวนที่อยู่ขวามือจะมีค่ามากกว่าจำนวนทางซ้ายมือ)

– ถ้านำจำนวนบนเส้นจำนวนมาเขียนเรียงลำดับจากซ้าย (-4) ไปขวา (4) จำนวนเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร (เพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้นทีละ 1)

จากเส้นจำนวน จะเห็นว่า จำนวนเต็มที่อยู่ทางขวาจะมากกว่าจำนวนเต็มที่อยู่ทางซ้ายเสมอ

เช่น           1   อยู่ทางซ้ายของ   2   ดังนั้น   1   น้อยกว่า   2   ใช้สัญลักษณ์  1 < 2

2   อยู่ทางซ้ายของ   3  ดังนั้น   2   น้อยกว่า   3    ใช้สัญลักษณ์  2 < 3

4   อยู่ทางขวาของ   3   ดังนั้น   4   มากกว่า   3    ใช้สัญลักษณ์   4 > 3

3   อยู่ทางขวาของ   2   ดังนั้น   3   มากกว่า   2    ใช้สัญลักษณ์   3 > 2

1   อยู่ทางขวาของ   0   ดังนั้น   1   มากกว่า    0    ใช้สัญลักษณ์   1 > 0

-1  อยู่ทางซ้ายของ   0   ดังนั้น  -1  น้อยกว่า    0   ใช้สัญลักษณ์  -1 < 0

-2  อยู่ทางซ้ายของ   0   ดังนั้น  -2  น้อยกว่า   0   ใช้สัญลักษณ์  -2 < 0

0   อยู่ทางขวาของ   -1   ดังนั้น    0  มากกว่า   -1   ใช้สัญลักษณ์   0 > -1

-3  อยู่ทางขวาของ   -4  ดังนั้น   -3  มากกว่า  -4   ใช้สัญลักษณ์   -3 > -4

-5  อยู่ทางซ้ายของ   -3  ดังนั้น  -5   น้อยกว่า  -3   ใช้สัญลักษณ์  -5 < -3

หมายเหตุ จำนวนเต็มยิ่งติดลบเยอะ ยิ่งมีค่าน้อย

การเปรียบเทียบจำนวนเต็มสองจำนวนที่ไม่เท่ากัน เพื่อตัดสินว่าจำนวนใดน้อยกว่าหรือจำนวนใดมากกว่า สามารถพิจารณาโดยใช้เส้นจำนวน คือ จำนวนที่อยู่ทางขวามือมากกว่าจำนวนที่อยู่ทางซ้ายมือเสมอ ดังนั้นจำนวนเต็มลบที่อยู่ทางขวามือจะมีค่ามากกว่าจำนวนเต็มลบที่อยู่ทางซ้ายมือบนเส้นจำนวน  หรือจำนวนเต็มลบที่อยู่ทางซ้ายมือบนเส้นจำนวนจะน้อยกว่าจำนวนเต็มลบที่อยู่ทางขวามือบนเส้นจำนวน

ตัวอย่างการเปรียบเทียบจำนวนเต็ม

 ตัวอย่างที่ 1 จงเติมเครื่องหมาย  >  หรือ  <  ลงในช่องว่างที่กำหนดให้

1)   0   ………….   2                    6)   -425   ………….  -452

2)   0   …………. –2                    7)   -512   ………….   -432

3)   –5 …………..  5                    8)   -612   ………….     612

4)   –5 …………… –7                   9)    763   ………….   -763

5)   -345……… 435                  10)  -998   ………….  -987

วิธีทำ  พิจารณาจากเส้นจำนวน 

เปรียบเทียบจำนวนเต็ม 3

  1)     0   อยู่ทางซ้ายของ    2    แสดงว่า    0   <   2

          2)     0   อยู่ทางขวาของ   -2   แสดงว่า     0   >  -2

          3)    -5  อยู่ทางซ้ายของ    5   แสดงว่า    -5   <   5

          4)    -5  อยู่ทางขวาของ  -7   แสดงว่า     -5   >  -7

ในทำนองเดียวกัน

  5)    -345    อยู่ทางซ้ายของ    435    แสดงว่า    -345  <  435

          6)     -425   อยู่ทางขวาของ    -452   แสดงว่า    -425   >   -452

          7)      -512   อยู่ทางซ้ายของ  -432   แสดงว่า    -512  <  -432

          8)      -612   อยู่ทางซ้ายของ    612   แสดงว่า    -612  <    612

          9)       763   อยู่ทางขวาของ  -763   แสดงว่า     763   >   -763

          10)     -998  อยู่ทางซ้ายของ  -987   แสดงว่า    -998   <  -987

ตัวอย่างที่ 2   จงเรียงลำดับจำนวนต่อไปนี้จากน้อยไปมาก

        1.   -5, -1, 0, -7, 3, -80
        2.   76, 23, 89, 43, 78, 99
        3.   -23, -76, -56, -28, -78,-34
        4.   -86, -345, 789, -923, -675,345
        5.   -76, 45, 98, -56, -57, 78

วิธีทำ            

        1.   -80, -7,  -5,  -1,  0,  3
        2.    23, 43, 76, 78, 89, 99
        3.    -78, -76, -56, -34, -28, -23
        4.    -923, -675, -345, -89, 345,789
        5.    -76, -57, -56, 45, 78, 98

ตัวอย่างที่ 3   จงเรียงลำดับจำนวนต่อไปนี้จากมากไปน้อย

        1.    56, 43, 78, 98, 546
        2.    -45, -23, 65, 89, 190
        3.    -865, 345, 54, -654, 564
        4.    -345, 0, 46, 234, -10
        5.    23, -33, -1, 90, 354, -456

วิธีทำ

        1.    546, 98, 78, 56, 43
        2.    190, 89, 65, -23, -45
        3.    564, 345, 54, -654, -865
        4.    234, 46, 0, -10, -345
        5.    354, 90, 23, -1, -33, -456

ตัวอย่างที่ 4   ในการวัดอุณหภูมิของจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศไทยในฤดูหนาว  แสดงด้วยตาราง ดังนี้                                               

ชื่อจังหวัด

เลย

เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง หนองคาย ขอนแก่น

น่าน

อุณหภูมิ (องศาเซลเซียส)

-4

-2 -1 0 1 3 6

7

จงใช้ข้อมูลจากตารางตอบคำถามต่อไปนี้

  1. จังหวัดใดมีอากาศหนาวมากที่สุด (เลย)
  2. จังหวัดใดมีอากาศหนาวน้อยที่สุด (น่าน)
  3. จังหวัดใดมีอากาศหนาวมากที่สุดเป็นอันดับสอง (เชียงใหม่)
  4. จังหวัดแม่ฮ่องสอนและจังหวัดน่านมีอุณหภูมิแตกต่างกี่องศาเซลเซียส (7 องศาเซลเซียส)
  5. จังหวัดเลยและจังหวัดลำปางมีอุณหภูมิแตกต่างกี่องศาเซลเซียส (5 องศาเซลเซียส)

หมายเหตุ : อุณหภูมิ ยิ่งติดลบเยอะ อากาศยิ่งหนาว

สรุป

การเปรียบเทียบจำนวนเต็มสองจำนวนที่ไม่เท่ากัน สามารถพิจารณาโดยใช้เส้นจำนวน  คือ จำนวนที่อยู่ทางขวามือมากกว่าจำนวนที่อยู่ทางซ้ายมือเสมอ

คลิปวิดีโอ การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม

        คลิปวิดีโอนี้ได้รวบรวมตัวอย่าง การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม เป็นคลิปสั้นๆ ที่สามารถเข้าใจได้ง่าย แฝงไปด้วยสาระความรู้ และเทคนิค และวิธีคิดที่จะทำให้วิชาคณิตศาสตร์เป็นเรื่องง่าย

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

เรียนรู้และเข้าใจเรื่องคำซ้อนในภาษาไทย

คำซ้อน เป็นหนึ่งในบทเรียนหลักภาษาไทยเรื่องการสร้างคำ น้อง ๆ หลายคนอาจจะเคยสับสนกับวิธีสร้างคำซ้อน ไม่รู้ว่าแบบไหนกันแน่ที่เรียกว่าคำซ้อน เพราะภาษาไทยเรานั้นก็มีคำมากมายเหลือเกิน วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่องคำซ้อนให้มากขึ้น รับรองว่าไม่ยากแน่นอนค่ะ   คำซ้อน     ความหมายของคำซ้อน   คำซ้อน คือ คำที่เกิดจากการนำคำตั้งแต่ 2 คำ ขึ้นไปมาเรียงต่อกัน โดยคำที่นำมาซ้อนกันจะต้องเป็นคำที่มีความหมายเหมือนกัน ใกล้เคียงกัน ตรงข้ามกัน หรืออาจมีเสียงที่คล้ายกัน

สัญลักษณ์พื้นฐานเกี่ยวกับเซต

สัญลักษณ์ของเซตจะช่วยให้เราไม่ต้องเขียนประโยคยาวซ้ำๆ และใช้ได้เกือบทุกบทของวิชาคณิตศาสตร์ ช่วยให้ประหยัดเวลาและเนื้อที่บนกระดาษมากๆ

การวัดพื้นที่ ม.2

ในบทความนี้เราจะได้เรียนรู้มาตราต่างๆของหน่วยในระบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย รวมทั้งสูตรต่างๆที่ใช้ในการหาพื้นที่ เพื่อให้เราได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

ระบบสมการเชิงเส้น

ระบบสมการเชิงเส้น

ระบบสมการเชิงเส้น ระบบสมการเชิงเส้น คือระบบสมการที่มีดีกรีเป็นหนึ่ง ซึ่งก็คือเลขชี้กำลังของตัวแปรเป็นหนึ่งนั่นเอง ซึ่งในตอนมัธยมต้นน้องๆได้เรียนระบบสมการเชิงเส้น 2 ตัวแปรไปแล้ว ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร เช่น แล้วเราก็แก้สมการหาค่า x, y  (ซึ่งอาจจะมีคำตอบหรือไม่มีก็ได้) แต่ในบทความนี้น้องๆจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบสมการเชิงเส้น n ตัวแปร นั่นก็คือน้องๆจะต้องหาคำตอบของตัวแปร n ตัวตัว ซึ่งการหาคำตอบนั้นมีหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการใช้เมทริกซ์ (ซึ่งน้องๆจะได้เรียนในบทความถัดๆไป) หรือการแก้สมการธรรมดาและในข้อสอบส่วนใหญ่จะเน้นให้น้องๆหาคำตอบในระบบสมการเชิงเส้นที่ไม่เกิน 3 ตัวแปร เพราะถ้าเกินกว่านั้นอาจจะใช้เวลาในการหาคำตอบมาก

Relative Clause Profile II

Relative Clause

สวัสดีค่ะนักเรียนม. 3 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปดู Relative clause หรือ อนุประโยคในภาษาอังกฤษ ที่ทำหน้าที่เหมือนกันกับคำคุณศัพท์ (Adjective) ซึ่งมีหน้าที่ขยายคำนามที่อยู่ข้างหน้า  และจะใช้ตามหลัง Relative Pronoun เช่น  who, whom, which, that, และ whose แต่สงสัยมั้ยคะว่าทำไมต้องเรียนเรื่องนี้ ลองดูตัวอย่างประโยคด้านล่างแล้วจะร้องอ๋อ   Relative

ตัวผกผันของความสัมพันธ์

ตัวผกผันของความสัมพันธ์

ตัวผกผันของความสัมพันธ์ ตัวผกผันของความสัมพันธ์ r คือความสัมพันธ์ใหม่ที่เกิดจากการสลับตำแหน่งของสมาชิกตัวหน้ากับสมาชิกตัวหลังของคู่อันดับทุกคู่ในความสัมพันธ์ r เขียนแทนด้วย   ซึ่ง = {(y, x) : (x, y ) ∈ r} เช่น r = {(1, 2), (3, 4), (5,

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1