การใช้ V. to do ในรูปแบบของ Present Simple Tense

Vtodo+Present Simple Tense

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ V. to do ในรูปแบบของ Present Simple Tense หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลดเด้อ Let’s go!

V. to do คืออะไร

 

ปรกติแล้วคำว่า do นั้นแปลว่าทำ แต่เมื่ออยู่ในประโยคแล้ว V. to do มีหน้าที่เพียงเน้นย้ำความสำคัญ ของกริยานั้นๆ หรือบอกเวลาในประโยคซึ่งถ้านักเรียนเจอ did ก็ให้รู้ไว้เลยว่า V. to do ตัวนี้ทำหน้าที่เน้นความเป็นอดีต ซึ่งกริยาที่ตามหลัง V. to do จะต้องเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ผัน
อย่าลืมน๊า  ซึ่ง V. to do ถูกนำมาใช้ใน Present Simple Tense ได้ทั้งในประโยครูปแบบบอกเล่า คำถาม และปฏิเสธ ซึ่งเราจะได้เรียนรู้ในบทเรียนนี้น๊า

รู้จักกับ Present Simple Tense

 

Vtodo+Present Simple Tense (2)


Present แปลว่า ปัจจุบัน ดังนั้น Present Simple Tense
จึงเป็นประโยคที่มี โครงสร้างแบบง่าย ๆ ธรรมดา ที่พูดถึงเหตุการณ์ในปัจจุบัน (Present) นั่นเองค่า
โดยมีลักษณะต่าง ๆ ดังนี้

  • ใช้เพื่อพูดถึงความเป็นจริงในชีวิตประจำวัน หรือความเป็นจริงตามธรรมชาติ กฎกติกา สูตรคณิตศาสตร์ เช่น

The earth moves around itself.

แปล โลกหมุนรอบตัวเอง

 

Two plus two equals four.
สองบวกสองเท่ากับสี่

 

Time flies.
เวลาผ่านไป

 

  •  ใช้เพื่อพูดถึงเหตุการณ์เกี่ยวกับลักษณะ นิสัย กิจวัตรประจำวัน เช่น

  I eat rice every morning. 

แปล ฉันกินข้าวทุกเช้า

Janny walks her dog to the park every weekend.
เจนนี่พาสุนัขไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะทุกๆ วันหยุดสุดสัปดาห์

 

การแต่งประโยคคำถามด้วย Verb to do

 

Vtodo+Present Simple Tense (3)

 

Verb to Do ขึ้นต้นประโยคแบบ Yes/No Questions หรือประโยคที่ต้องการคำตอบชัดเจนว่า Yes (ใช่) หรือ No (ไม่)

 

Verb to Do นั้นทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย (Auxiliary Verb) โดยจะใช้ร่วมกับกริยาหลัก (Main Verb) เพื่อสร้างประโยคคำถาม
ประโยคปฏิเสธ หรือเพื่อเน้นย้ำความสำคัญของกริยาหลักนั้นๆ นั่นเองจร้า

 

โครงสร้างประโยคคำถาม:
Do/Does/Did + Subject + V .infinitive + Object/Complement?

 

  •  Simple Present Tense ใช้ Do / Does

Do you like playing a football?
= นายชอบเล่นฟุตบอลมั้ย

Does Jeena love Tom?
= จีน่ารักทอมมั้ย

 

  • Past Tense ใช้ Did กับเหตุการณ์ที่เป็นอดีต

Did you go to school yesterday?
แปล เมื่อวานคุณไปโรงเรียนมั้ย

รูปประโยคของ Present Simple Tense

 

Vtodo+Present Simple Tense (4)

 

  1. ประโยคบอกเล่า

โครงสร้างของประโยคบอกเล่า :  Subject + Verb.1 + Object + (คำบอกเวลา)

ทั้งนี้คำกริยาช่องที่ 1 นั้นจะมีการเติม s หรือ es ถ้าหากประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ (He, She, It) แต่ถ้าประธานเป็น I, You หรือประธานพหูพจน์ (You (หลายคน), We, They) ให้คงรูปคำกริยานั้น ๆ ไว้เช่นเดิม เช่น

I do like Lisa.
แปล ฉันชอบลิซ่าจริงๆ
***do like คือการนำ V. to do มาเน้นขยายกริยา like ให้มีความมายมากขึ้นในประโยค เพื่อให้รู้ว่า ชอบจริงๆนะ  (“do like”)

Tiffany wakes up at 5 a.m. every day.

แปล ทิฟฟานี่ตื่นนอนตอนตี 5 ทุกวัน

 

They play at the park every day.
แปล พวกเขาเล่นกันทุกวันที่สวนสาธารณะ
***They เป็นประธานเอกพจน์ กริยาที่ตามมาจึงไม่เติม s/es

 

ข้อสังเกต : หลักการเติม s,es นั้นง่ายนิดเดียว คือ คำกริยาที่ลงท้ายด้วย sh, ch, o, s, ss, x, z ให้เติม es

เมื่อประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ (He, She, It) เช่น

ตัวอย่างอื่นๆอีก เช่น

She washes the dishes every day.
แปล หล่อนล้างจานทุกวัน

 

  1. ประโยคคำถาม

โครงสร้างของประโยคคำถามใน Present Simple Tense มีสองรูปแบบคือ

 

  • แบบที่ 1 : Verb to be + Subject + Object/Complement + (คำบอกเวลา) ?  เช่น

 

ประโยคบอกเล่า: Namthip is my best friend.
น้ำทิพย์คือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน

ประโยคคำถาม: Is she your best friend?
แปล หล่อนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอเหรอ

 

  • แบบที่ 2 : Verb to do + Subject + Verb.1 + Object + (คำบอกเวลา)?

 

ประโยคบอกเล่า:
We go walking at the park often.
พวกเราไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะบ่อยๆ

 

VS

ประโยคคำถาม: Do we go walking at the park often?
แปล พวกเราไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะบ่อยๆหรือเปล่า

ตอบ: Yes, we do. หรือ No, we don’t. นั่นเองจร้า

 

 

  1. ประโยคปฏิเสธ (Negative sentence)

 

  • แบบที่ 1 : Subject + Verb to be + not + Object/Complement + (คำบอกเวลา)

Ex: I am not your girlfriend.
แปล ฉันไม่ใช่แฟนของคุณ

  • แบบที่ 2 : Subject + Verb to do (do, does)not + Verb.1 + Object + (คำบอกเวลา)

Situation: At the coffee shop

 

Jane: What do you want to order Beam?
เจน : จะสั่งอะไรบีม

Beam: I want to have a glass of orange juice please.
บีม: ขอน้ำส้มสักแก้วจร้า

Jane: Okay, can we have two pieces of cake and a grass of orange juice please please?
เจน: โอเค ขอเค้กสองชิ้นกับน้ำส้มคั้นได้ไหม

The waiter: Of course, please wait for 15 minutes.
พนักงานเสิร์ฟ: แน่นอนครับ กรุณารอ 15 นาทีนะครับ

 

 

คำบอกเวลาใน Present Simple Tense

 

Adverbs of Frequency

บรรยายตนเอง

Hardly = แทบจะไม่เคย

Never= ไม่เคย

Rarely = แทบจะไม่เคย

Seldom= นาน ๆ ครั้ง

Sometimes= บางครั้ง

Always = สม่ำเสมอ, เป็นประจำ

Frequently = บ่อย ๆ

Often = บ่อย ๆ

Usually = โดยปกติ

 

ตัวอย่างการถาม-ตอบโดยใช้ V. to do

 

ตัวอย่างประโยคในการถามอาชีพเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้ได้บ่อย

 

Questions (ถาม):

What do you do? หรือ What do you do for a living?  
= คุณทำงานอะไร

ตอบ:

I’m a student. = ฉันเป็นนักเรียน
I’m a teacher. = ฉันเป็นครู

 

เพิ่มเติม: ตามโครงสร้าง: I am a + อาชีพ แต่ถ้าอาชีพขึ้นต้นด้วยสระ a, e, I, o จะเปลี่ยนจาก a เป็น an

 

ตารางคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาชีพ

Vtodo+Present Simple Tense (6)

คำศัพท์ แปล
engineer วิศวกร
actor นักแสดง
YouTuber นักยูทูบเบอร์
Gamer เกมเมอร์
air hostess, flight attendant พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
gardener คนสวน

 

photographer ช่างถ่ายรูป
pilot  นักบิน

 

singer

 

นักร้อง
soldier ทหาร

 

freelancer ฟรีแลนซ์/ ทำงานอิสระ

 

 

Vtodo+Present Simple Tense (7)

ตัวอย่างเช่น

Q1: What country do you study?
แปล คุณเรียนที่ประเทศอะไร

B: I study in Thailand.
= ฉันเรียนที่ประเทศไทย

B: Why does he like a Thai woman?
แปล ทำไมเขาถึงชอบผู้หญิงไทย

He likes a Thai woman because a Thai woman is caring.
= เขาชอบผู้หญิงไทยเพราะผู้หญิงไทยเอาใจเก่ง

 

 

 

อย่าลืมดูวีดีโอทบทวนบทเรียนในหัวข้อ “การใช้ V. to do ในรูปแบบของ Present Simple Tense กันด้วยเด้อ” เลิฟๆ

สุดท้ายนี้ อย่าลืมกดปุ่มเพลย์แล้วไปเรียนให้สนุกกันได้ที่วีดีโอด้านล่างเด้อ
Have a wonderful day for all of you! ขอให้เป็นวันที่สุดยอดสำหรับทุกคนน๊า
See  you next time! แล้วเจอกันใหม่

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การเขียนเรียงความ

เทคนิคการเขียนเรียงความง่าย ๆ ที่จะช่วยถ่ายทอดความคิดให้เป็นขั้นตอน

การเขียนเรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่มีสำคัญมาก เพราะเป็นการถ่ายทอดความคิดให้ออกมาอยู่ในรูปของตัวอักษร จะมีวิธีเขียนอย่างไรบ้างนั้น บทเรียนในวันนี้จะทำให้น้อง ๆ มีความรู้ความเข้าใจถึงวิธีการเขียนเรียงมากขึ้น จะเป็นอย่างไรนั้น ไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ     เรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่แสดงออกถึงความรู้สึกนึกคิด ความเห็น ความเข้าใจของผู้เขียน มีรูปแบบและวิธีการเขียนที่มีแบบแผน เพื่อถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นตัวอักษรให้น่าอ่าน และยังเป็นพื้นฐานของการเขียนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความหรือนวนิยายอีกด้วย โดยประเภทของการเขียนเรียงความมีดังนี้ 1. เรื่องที่เขียนเพื่อความรู้ 2. เรื่องที่เขียนเพื่อความเข้าใจ

แนะนำอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

แนะนำอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

บทความนี้จะเป็นการ แนะนำอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ซึ่งอสมการ เป็นประโยคที่แสดงถึงการไม่เท่ากัน โดยมีวิธีการหาคำตอบคล้ายๆกับสมการ น้องๆสามารถศึกษาบทความเรื่องโจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เพื่อศึกษาวิธีการแก้สมการและนำมาประยุกต์ใช้กับการแก้อสมการเพิ่มเติมได้ที่  ⇒⇒โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว⇐⇐ แนะนำอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว        อสมการ (inequality) เป็นประโยคที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของจำนวนโดยมีสัญลักษณ์  <, >, ≤, ≥ หรือ ≠  แสดงความสัมพันธ์         อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

โจทย์ปัญหาการคูณทศนิยม

จากบทความที่แล้วเราได้วิเคราะห์โจทย์ปัญหาการบวกและการลบทศนิยมไปแล้ว บทความนี้จึงจะเป็นการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาที่เกี่ยวกับการคูณ รวมไปถึงการแสดงวิธีทำที่จะทำให้น้อง ๆ เข้าใจ และสามารถนำไปใช้ได้จริง

มัทนะพาธา

บทละครพูดคำฉันท์เรื่อง มัทนะพาธา ที่มาและเรื่องย่อ

บทละครพูดคำฉันท์เรื่อง มัทนะพาธา เป็นวรรณคดีที่ทรงคุณค่าทางวรรณศิลป์ได้รับการยกย่องว่าแต่งดีและมีความแปลกใหม่อีกเรื่องหนึ่ง น้อง ๆ หลายคนอาจจะเคยคุ้นหูกันมาบ้างตามสื่อต่าง ๆ เพราะวรรณคดีเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่โด่งดังจึงมักถูกหยิบไปทำเป็นละครทางโทรทัศน์บ่อย ๆ แต่จะมีความเป็นมาอย่างไรนั้น วันนี้เราจะไปศึกษาเรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ   ประวัติความเป็นมาของบทละครพูดคำฉันท์เรื่อง มัทนะพาธา     มัทนะพาธาเป็นบทละครพูดคำฉันท์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จเพราะมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงมีพระราชกุศลเพื่อสร้าง ตำนานแห่งดอกกุหลาบ จึงทรงผูกเรื่องขึ้นมาใหม่หมด ทรงให้ความสำคัญเรื่องความถูกต้อง และความสมจริงในรายละเอียดของเรื่อง

โวหารภาพพจน์ กลวิธีการสร้างจินตภาพที่ลึกซึ้งและสวยงาม

การสร้างจินตภาพอย่างการใช้ โวหารภาพพจน์ เป็นกลวิธีในการใช้ภาษาอีกอย่างหนึ่ง เลือกใช้ถ้อยคำเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพ หรืออาจเรียกว่าเป็นการแทนภาพนั่นเอง น้อง ๆ คงจะพบเรื่องของโวหารภาพพจน์ได้บ่อย ๆ เวลาเรียนเรื่องวรรณคดี บทเรียนในวันนี้เลยจะพาไปทำความรู้จักกับภาพพจน์ต่าง ๆ ให้มากขึ้นว่ามีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปดูพร้อมกันเลยค่ะ   ความหมายของภาพพจน์     ภาพพจน์ คือถ้อยคำที่เป็นสำนวนโวหารทำให้นึกเห็นภาพ ถ้อยคำที่เรียบเรียงอย่างมีชั้นเชิงเป็นโวหาร มีเจตนาให้มีประสิทธิผลต่อความคิด เป็นกลวิธีทางภาษาที่มุ่งให้เกิดความรู้ความเข้าใจจินตนาการ เน้นให้เกิดอรรถรสและสุนทรีย์ในการสื่อสารที่ลึกซึ้งกว่าการบอกเล่าแบบตรงไปตรงมา  

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1