Past Time หรือ เวลาในอดีต

Past Time

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

สวัสดีค่ะนักเรียน ม.1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิคและวิธีการใช้ Past Time หรือ เวลาในอดีต ซึ่งเมื่อเล่าถึงเวลาในอดีตส่วนใหญ่แล้วเรามักเจอคำว่า yesterday (เมื่อวานนี้), 1998 (ปี ค.ศ. ที่ผ่านมานานแล้ว), last month (เดือนที่แล้ว)  และกลุ่มคำอื่นๆ ที่กำกับเวลาในอดีต ซึ่งเราจะเจอ Past Time ในกลุ่ม Past Tenses หรือ อดีตกาล ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย

มาเริ่มกับ Past Tenses อดีตกาล 

 

การพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดในอดีตนั้นสามารถพูดได้หลายรูปแบบ แต่จะพูดอย่างไรให้สอดคล้องกับบริบทนั้นย่อมสำคัญเช่นกัน และก่อนอื่นเราจะต้องรู้จักก่อนว่า การเล่าถึงเหตุการณ์ในอดีตนั้นเราสามารถเล่าได้หลายแบบ ครูจะขอยกตัวอย่างจากสถานการณ์การใช้ไปหาโครงสร้างและคำศัพท์ที่จำเป็นเพื่อให้เราเข้าใจความสำคัญของ Tense นั้นๆ ร่วมกับเทคนิค “Situational usage” บทสนทนาที่ใช้ ใน Past Tenses ทั้งสี่รูปแบบ ไปลุยกันเลยเด้อ

 

ตารางสรุปภาพรวม Past Tenses VS คำกำกับเวลา

 

 

อดีตกาล
(Past Tenses)
การใช้
(
Usage)
โครงสร้าง
(
Structure)
คำกำกับเวลา

 

1) Past Simple Tense ใช้กับเหตุการณ์ที่เราทำในอดีตย้ำว่า

เกิดขึ้นและจบลงไปแล้ว

 

Subject + V.2 หรือ Verb เติม –ed

Ex:

Daniel ate noodles yesterday.

แดเนียลกินก๋วยเตี๋ยวเมื่อวานนี้

 

Ex:

You walked home last week.

คุณเดินกลับบ้านสัปดาห์ที่แล้ว

เวลาในอดีต 1990

3 days ago  (สามวันที่แล้ว)
last  month (เดือนที่แล้ว)
yesterday (เมื่อวานนี้)
in 1997 (ในปี ค.ศ. 1997 ที่เป็นอดีตมาแล้ว)

2. Past Continuous   Subject + was, were + V.ing

 

Ex:

Albert Einstein was sitting under the apple tree.

แปล อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กำลังนั่งอยู่
ใต้ต้นแอปเปิล

(ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในอดีต)

 at the moment in the past
(ณ ขณะหนึ่งในอดีต)specific time in the past
(จุดๆหนึ่งที่เฉพาะเจาะจงในอดีต)
3. Past Perfect   Subject + had + V.3

Ex: I have had breakfast recently.

แปล ฉันพึ่งทานข้าวเช้าเมื่อครู่นี้เอง

 

 

Previously (ก่อนหน้านี้)
justBefore (ก่อน)Recently (ไม่นานมานี้)Since (ตั้งแต่) + จุดๆหนึ่งของเวลาFor (เป็นเวลา) + ช่วงเวลาTill or until (จนกระทั่ง)
4. Past Perfect Continuous   Subject + had + been + V.ing

Ex:
I had been running since 5 a.m. till 6 a.m. this morning.

แปล ฉันได้วิ่งมาตั้งแต่ตีห้าถึงหกโมงเช้า (วิ่งแบบไม่หยุดเลย)

 

 Past Simple Tense

 

Past Simple Tense


(โครงสร้าง Subject + Verb 2 หรือ Verb เติม ed)
ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เกิดขึ้นและจบลงในอดีต มักมีคำหรือกลุ่มคำของอดีตมากำกับเช่น yesterday, ago, last year, last month, last time

 

Situation: Rosie got diarrhea yesterday at the hospital.

Dan: Where were you yesterday Rosie? (โรซี่เมื่อวานไปไหนมาเหรอ)
Rosie: I was at the hospital. (ฉันไปโรงพยาบาลมาน่ะ)
Dan: What happened? (เป็นอะไรหรือเปล่า)
Rosie: I got diarrhea. (ฉันท้องเสีย)

จะสังเกตได้ว่า  yesterday (เมื่อวานนี้) คือคำบอกเวลาในอีต ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้ว

Past Continuous Tense

Past Cont.Tense

 

(โครงสร้าง Subject + was, were + V.ing)

 

1) ใช้ร่วมกับ Past Simple Tense เมื่อมีเหตุการณ์ หรือการกระทำ 2 อย่างเกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอดีต

  • Past Simple Tense ใช้กับเหตุการณ์สั้นๆ ที่เกิดขึ้นทีหลัง
  • Past Continuous Tense ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนและ กำลังดำเนินอยู่ ณ ขณะนั้น

Situation: While Dazy was watching a Netflix, her mom arrived at the door.

Mom: Knock knock! Dazy, could you open the door?
(ก้อกๆ เดซี่เปิดประตูให้แม่หน่อย)

Mom: (Complaining) what was she doing?
(แม่บ่น…เธอกำลังทำอะไรอยู่นะ)

Dazy: Wait mom, I was waching a Netflix.
(รอก่อนนะแม่ หนูกำลังดู Netflix อยู่)

 

2) อย่างที่กำลังดำเนินอยู่ในอดีตในเวลาเดียวกัน

Situation: Venus was playing her mobile phone, while her teaching was teaching.

Ohm: What were you doing Venus while your teacher was teaching? (วีนัส เธอทำอะไรอยู่ตอนที่ครูกำลังสอน)
Venus: Um…I was playing on my mobile phone. (เอิ่ม ฉันเล่นโทรศัพท์อยู่นะ)
Ohm: No wonder why teacher was very mad at you. (ไม่น่าล่ะ ครูโกรธใหญ่เลย)

Past Perfect Tense

Past Perfect tense

 

ในโครงสร้าง Subject + had + Past participle (V.3)
ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทำ 2 อย่างที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดแล้วลงในอดีต

  • เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนให้ใช้ Past Perfect Tense
  • เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีหลังให้ใช้ Past Simple Tense

Situation: Nanny is talking to her friend, Chris.

Nanny: Have you been to the USA? (คุณเคยไปประเทศสหรัฐอเมริกามั้ย)
Chris: Of course, I went to the USA but previously I had been to London.
(แน่นอน ฉันเคยไปนะ แต่ก่อนหน้านั้นฉันก็เคยไปลอนดอนมาก่อน)
Nanny: You must be very rich! (เธอคงรวยมากเลย)
Chris: I am not rich, but my parents are. (ไม่หรอก แต่พ่อแม่ฉันน่ะรวยจริง)

 

 

Past Perfect Continuous Tense

 

Past Time

 

ตามโครงสร้าง Subject + had + been + V. ing

Past Perfect Continuous Tense  จะเน้นความต่อเนื่องของเหตุการณ์
หรือการกระทำได้ดีกว่า Past Perfect Tense

 

Situation: Interviewing Mark Zuckerberg, the co-founder of Facebook

Interviewer: What’s your secret of becoming so “successful”?

= ความลับที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จคืออะไร

Mark Zuckerberg: I’ve been working hard on my dream.
= ผมทำงานหนักเพื่อความฝันของผม (อย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน หรือพักเลย)

 

แบบทดสอบด้านล่าง เรื่อง Past Tenses and Past Time (อย่าพึ่งเปิดดูเฉลยนะคะ)

 

แบบทดสอบเรื่อง Past tenses VS Past time

1) Lukas ………..singing a song …………

 

  1. started, last year
  2. start, yesterday
  3. starting, last week
  4. have started, 3 days ago

 

2) As soon as Romans and his family …………it started to rain.

 

  1. left
  2. leaves
  3. leave
  4. is leaving

 

3) Timothy ate dinner first and then……….her dog………………

 

  1. walk, tomorrow
  2. walked, yesterday
  3. would walking, last week
  4. was walking, last month

 

4) When the dentist arrived, Tina …………… for six hours. She ………..to get angry.

 

  1. waited, begin
  2. has waited, began
  3. had been waiting, began
  4. was waiting, begun

 

5) The soccer player …………a football until ………….

 

  1. wasn’t playing, last year
  2. didn’t play, last week
  3. doesn’t play, yesterday
  4. had never played, last 3 days

 

6) Rosie ……….on her coat and went out.

 

  1. put
  2. puted
  3. was putting
  4. had put

 

7) Tan was talking on the phone while his sister ………………dancing on Tiktok.

 

  1. have been
  2. was
  3. has been
  4. had

 

8) Daniel …………..to eat out but he decided to eat at his home instead.

 

  1. is going
  2. had planned
  3. planned
  4. was planning

 

9) The plane …………. by the time he got to the airport.

 

  1. left
  2. had left
  3. leaves
  4. was leaving

 

10) Robin …………………….Australia before she moved to Thailand.

 

  1. had been living
  2. was living
  3. lived
  4. lives

 

 

 

Answering

เฉลย

1) A
2) A
3) B
4) C
5) D
6) A
7) B
8) B
9) B
10) A

 

ขอให้สนุกกับการทบทวนบทเรียนกันนะคะ อย่าลืมทบทวนบทเรียนเรื่อง Past Simple Tense กับวีดีโอด้านล่างนะคะ ซึ่งทั้งอัลบั้มนี้มีให้ทบทวนบทเรียนเกือบทุกเรื่องในภาษาอังกฤษบนยูทูปฟรีๆ เลยจร้า

Have a good day! ขอให้มีวันที่ดีค่า
See you next time! แล้วเจอกันค่า

 

 

 

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

สำนวนนี้มีที่มา เรียนรู้ความหมายและที่มาของ สำนวนไทย

สำนวนไทย เป็นสิ่งที่คนรุ่นก่อนใช้ความคิดและประสบการณ์สั่งสอนลูกหลาน เกิดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมด้านคติธรรมที่แสดงถึงความรุ่งเรืองทางภาษาของประเทศไทย บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้สำนวนไทยที่เห็นกันบ่อย ๆ แต่หลายคนอาจจะใช้ไม่ถูกต้อง ไม่รู้ความหมายที่ถูกต้อง พร้อมทั้งเรียนรู้ที่มาของสำนวนด้วย ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้กันเลยค่ะ   สำนวนไทย   สำนวนไทย หมายถึง ถ้อยคำที่คมคายซึ่งเป็นถ้อยคำที่ใช้พูดสื่อสารกันโดยมีความหมายที่กว้างและลึกซึ้ง เป็นความหมายโดยนัย ไม่ได้แปลตรงตัวเพื่อใช้เป็นคำพูดในเชิงสั่งสอน เตือนสติ มุ่งสอนใจหรือชี้แนะให้ประพฤติปฏิบัติตาม   ที่มาของสำนวนไทย   สำนวนไทยมีมูลเหตุและที่มาของการเกิดหลายประการ

เปรียบเทียบเศษส่วนและจำนวนคละฉบับเข้าใจง่ายและเห็นภาพ

บทความนี้จะพาน้องๆ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการเปรียบเทียบเศษส่วนและจำนวนคละ  เนื่องจากหลักการที่ใช้ในการเปรียบเทียบเศษส่วนนี้จะนำไปต่อยอดกับเรื่องต่อไปเช่นเรื่องการบวกและการลบเศษส่วน หลังจากอ่านบทความนี้จบสิ่งที่จะได้รับก็คือ หลักการเปรียบเทียบเศษส่วน วิธีเปรียบเทียบที่เห็นภาพและเข้าใจง่ายร่วมถึงเทคนิคที่จะช่วยให้น้อง ๆ สามารถเปรียบเทียบเศษส่วนได้เร็วยิ่งขึ้น

M5 การใช้ Phrasal Verbs

การใช้ Phrasal Verbs

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.5 ที่รักทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้กันเรื่อง ” การใช้ Phrasal Verbs“ กันนะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลด Phrasal Verbs คืออะไร   Phrasal Verbs คือ คำกริยา โดยเป็นกริยาที่มีคำอื่นๆ อย่างเช่น คำบุพบท (Preposition) ร่วมกันส่วนใหญ่แล้ว Phrasal Verbs จะบอกถึงการกระทำ มักจะเจอในชีวิตประจำวันในสถานการณ์ทั่วไป

ภาษาเขมรในภาษาไทย เรียนรู้ความเป็นมาและลักษณะภาษา

ภาษาเขมร เป็นภาษาประจำชาติของประเทศกัมพูชา และยังเป็นภาษาที่คนไทยเชื้อสายเขมรใช้พูดกันอีกด้วย แต่นอกจากนั้นแล้ว น้อง ๆ ทราบไหมคะว่ายังมีคำที่มาจากภาษาเขมรปนอยู่ในชีวิตเรามากมายเลยทีเดียว เรียกได้ว่าถ้าหากภาษาบาลีสันสกฤตเป็นภาษาต่างประเทศที่ถูกหยิบยืมมาปรับใช้ในภาษาไทยมากที่สุดแล้ว ภาษาเขมรก็ถือว่าตามมาติด ๆ เลยทีเดียวค่ะ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น แล้วคำไหนบ้างที่มาจากภาษาเขมร มีวิธีสังเกตอย่างไร ถ้าน้อง ๆ พร้อมแล้ว ไปเรียนรู้เรื่อง ภาษาเขมรในภาษาไทย พร้อมกันเลยค่ะ   จุดเริ่มต้นของภาษาเขมรในภาษาไทย     เนื่องจากเขตประเทศที่อยู่ติดกัน

โจทย์ปัญหาการหารทศนิยม

บทความนี้เป็นเรื่องการวิเคราห์โจทย์ปัญหาการหารทศนิยม ซึ่งโจทย์ที่นำมาเป็นตัวอย่างจะประกอบด้วยการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา การเขียนประโยคสัญลักษณ์ รวมไปถึงการสดงวิธีทำ หวังว่าน้องๆจะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ได้จริงกับโจทย์ปัญหาในห้องเรียน

การเปลี่ยนแปลงคำ เรียนรู้วิวัฒนาการทางภาษาที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

ภาษาเป็นเครื่องมือที่มนุษย์ใช้สื่อสารกัน แต่ในเมื่อสังคมมนุษย์ไม่สามารถหยุดนิ่งได้ และมีความเจริญทางวิทยาการใหม่ ๆ เข้ามาอยู่เสมอ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางภาษามากมาย การเปลี่ยนแปลงคำ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในธรรมชาติของมนุษย์ จากครั้งที่แล้วที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของประโยคกันไป บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ เจาะลึกอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงซึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงคำว่ามีอะไรกันบ้าง และมีคำใดที่เคยใช้ในสมัยโบราณแต่ปัจจุบันเลิกใช้ไปแล้ว ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ   การเปลี่ยนแปลงคำ   เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภาษาพูดและเขียนเมื่อถูกใช้ต่อกันมาเรื่อย ๆ ลักษณะของการเปลี่ยนแปลงคำต่าง ๆ สามารถแบ่งได้ดังนี้     1.

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1