การตั้งคำถามโดยใช้ Can และ Could

สวัสดีน้องๆ ป. 6 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการใช้กริยาช่วยคือ Can และ Could กันครับ ถ้าพร้อมแล้วเราลองไปดูกันเลย
can could

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

Can และ Could คืออะไร?

ถ้าเรียกตามหลักภาษาแล้ว Can และ Could จะอยู่ในกลุ่มกริยาที่มีชื่อว่า Modals เป็นกริยาช่วยประเภทหนึ่ง ซึ่งก็จะมีกริยาอีกหลายๆ ตัวที่เป็น Modals เช่น will, would, should, เป็นต้น

Can และ Could นั้นปกติแล้วจะแปลว่า “สามารถ” โดยจะมีหลักการใช้เบื้องต้นดังนี้

1) ใช้ถามเกี่ยวกับความสามารถ (ask about ability)
2) ใช้เพื่อขออนุญาต (ask for permission)

 

การใช้ถามเกี่ยวกับความสามารถ

เราสามารถใช้ Can/Could เพื่อบอกความสามารถ (ability) ของเราได้ ตัวอย่างเช่น

I can swim.

(ฉันว่ายน้ำได้)

 

Tony can dance.

(โทนี่เต้นได้)

 

หรือถ้าเป็นความสามารถที่เราทำได้ในอดีต (ปัจจุบันทำไม่ได้แล้ว) ให้ใช้คำว่า could เช่น

She could swim.

(เธอเคยว่ายน้ำได้) *ปัจจุบันว่ายน้ำไม่ได้แล้ว

 

I could speak French.

(ฉันพูดภาษาฝรั่งเศสได้) *ปัจจุบันพูดไม่ได้แล้ว

 

ดังนั้นหากเราต้องการถามใครสักคนว่า “คุณสามารถ…ได้ไหม?” เราจะทำได้ดังนี้

can could

 

ตัวอย่าง

Can you speak Thai?

(คุณพูดภาษาไทยได้ไหม?)

ตอบ: Yes, I can./No, I can’t.

 

Can Tony dance?

(โทนี่เต้นได้ไหม?)

ตอบ: Yes, he can./No, he can’t.

 

Can she roll her tongue?

(เธอม้วนลิ้นได้ไหม?)

ตอบ: Yes, she can./No, she can’t.

can you?

 

การใช้เพื่อขออนุญาต

นอกจากจะใช้ถามเกี่ยวกับความสามารถแล้ว เรามักจะใช้ can/could ในการขออนุญาตได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น

Can I borrow your rubber?

(ฉันขอยืมยางลบของคุณได้ไหม?)

 

Can I use your computer?

(ฉันขอใช้คอมพิวเตอร์ของคุณได้ไหม?)

 

Can I bring my girlfriend with me?

(ผมสามารถพาแฟนสาวไปกับผมด้วยได้ไหม?)

can I?

 

การใช้ Could นั้นมีความหมายเหมือนกับ Can แต่จะมีความเป็นทางการและสุภาพมากกว่า เรามักใช้กับการขออนุญาตผู้ที่อาวุโสกว่า หรือคนที่เราเพิ่งรู้จัก และมักลงท้ายด้วยคำว่า please ตัวอย่างเช่น

Could you pass me some sugar, please?

(คุณช่วยส่งน้ำตาลมาให้หน่อยได้ไหม?

 

Could you give us a moment, please?

(คุณช่วยให้เวลาเราสักครู่ได้ไหม?)

 

Could you explain that topic for me, please?

(คุณช่วยอธิบายหัวข้อนั้นให้ฉันทีได้ไหม?)

could you?

 

นี่ก็เป็นหลักในการใช้ Can และ Could ในการตั้งคำถามแบบเข้าใจง่ายๆ หวังว่าน้องๆ จะเอาไปลองใช้ในชีวิตประจำวันกันนะครับ โดยน้องๆ สามารถชมวิดีโอเกี่ยวกับการใช้ Can และ Could เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นด้านล่างนี้ได้เลยครับ

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

Profile where + preposition P6

การใช้ประโยค Where’s the + (Building) + ? It’s + (Preposition Of Place)

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับ ประโยค การถามทิศทาง แต่เอ้ะ Where is the building? แปลว่า ตึกอยู่ที่ไหน ประโยคนี้เป็นการถามทางแบบห้วนๆ ที่ใช้กับคนที่เราคุ้นชินหรือคนที่เรารู้จัก แต่หากนักเรียนต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องถามกับคนแปลกหน้าโดยเฉพาะฝรั่ง คงต้องมาฝึกถามให้สุภาพมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการเกริ่นขึ้นก่อนที่เราจะถามนั่นเองค่ะ ซึ่งนักเรียนที่รักทุกคนได้เรียนรู้ในบทเรียนนี้นะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย รูปแบบการถามทิศทาง   โครงสร้างประโยคถามแบบตรงๆ (Direct Question) “

จำนวนอตรรกยะ

จำนวนอตรรกยะ

ในบทความนี้เราจะได้รู้จักความหมายของจำนวนอตรรกยะ และหลักการของจำนวนอตรรกยะกับการนำไปประยุกต์

เรียนรู้คุณค่าและนำสุภาษิตสอนหญิงไปใช้ในชีวิตประจำวัน

สุภาษิตสอนหญิง เป็นผลงานที่สุนทรภู่มุ่งสอนและเตือนสติผู้หญิงไทยให้มีกิริยามารยาทและการดำเนินชีวิตตามแบบแผนของสังคมไทยทั้งการพูด การเดิน การคบเพื่อน การวางตัว และความกตัญญู ซึ่งเป็นค่านิยมของคนในอดีตที่ยังคงสืบสานเจตนารมณ์มาจนถึงปัจจุบัน บทเรียนในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้ถึงคุณค่าและการนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันกันค่ะ   ความสำคัญและคำสอนในเรื่อง สุภาษิตสอนหญิง   เป็นวรรณคดีคำสอนที่ช่วยเตือนสติหญิงไทยให้ประพฤติตัวอยู่ในประเพณีอันดีงามของไทยตั้งแต่เริ่มโตเป็นสาวไปจนถึงวัยที่แต่งงานมีครอบครัว ดังนี้   สาววัยแรกรุ่น : ควรวางตัวให้สมฐานะ ทั้งการแต่งกายและกิริยามารยาท     หมายถึง สาวแรกรุ่นเปรียบเหมือนมณี

มารยาทในการอ่านที่นักอ่านทุกคนควรรู้

บทเรียนวันนี้เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่มักจะถูกละเลย มองข้ามไป นั่นก็คือเรื่องมารยาทในการอ่านนั่นเองค่ะ น้อง ๆ หลายคนคงสงสัยว่ามารยาทในการอ่านนั้นสำคัญอย่างไร ทำไมเราถึงต้องเรียนรู้เรื่องนี้เช่นเดียวกับมารยาทในการฟังและมารยาทในการพูดด้วย เราไปเรียนรู้เรื่องนี้ไปพร้อม ๆ เลยดีกว่าค่ะ มารยาทในการอ่าน   ความหมายของมารยาทในการอ่าน มารยาท หมายถึง กิริยาวาจาที่ถือว่าสุภาพเรียบร้อยถูกกาลเทศะ ส่วนการอ่าน หมายถึง พฤติกรรมการรับสารอย่างหนึ่ง รับรู้เรื่องราวโดยการใช้ตามองแล้วใช้สมองประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ เกิดเป็นการรับรู้และความเข้าใจ มารยาทในการอ่านจึงหมายถึง

โจทย์ปัญหาการคูณทศนิยม

จากบทความที่แล้วเราได้วิเคราะห์โจทย์ปัญหาการบวกและการลบทศนิยมไปแล้ว บทความนี้จึงจะเป็นการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาที่เกี่ยวกับการคูณ รวมไปถึงการแสดงวิธีทำที่จะทำให้น้อง ๆ เข้าใจ และสามารถนำไปใช้ได้จริง

ลิลิตตะเลงพ่าย

ถอดความหมายตัวบทเด่นใน ลิลิตตะเลงพ่าย

ลิลิตตะเลงพ่าย เป็นวรรณคดีเรื่องดังที่มีตัวบทเด่น ๆ มากมาย สำหรับการถอดคำประพันธ์ในวันนี้เราได้คัดเลือกบทเด่น ๆ มาให้น้อง ๆ ได้เรียนกันถึง 13 บทเลยทีเดียว แต่เพราะเนื้อหาที่สนุก ภาษาที่สละสลวย รับรองว่าน้อง ๆ จะไม่มีทางเบื่อวรรณคดีเรื่องนี้แน่นอน ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนความหมายของแต่ละบทพร้อมกันเลยนะคะ ตัวบทเด่น ๆ ใน ลิลิตตะเลงพ่าย   บทที่ 1  

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1