Verb To Do ใน Present Simple Tense

สวัสดีน้องๆ ป. 5 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ Verb to do ที่ใช้ใน Present Simple Tense กันครับ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
verb to do

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

Present Simple คืออะไร?

คือประโยคที่ใช้บอกเหตุการณ์ในปัจจุบัน ความจริง หรือกิจวัตร เช่น

She wakes up at 6 o’clock every day.

(เธอตื่นเวลาหกโมงเช้าทุกวัน)

The sun rises every morning.

(พระอาทิตย์ขึ้นทุกเช้า)

โดยสิ่งที่ต้องจำของ Tense นี้ก็คือว่า หาก Subject ของประโยคเป็น he, she, it ชื่อคน หรือสิ่งของที่เป็นเอกพจน์ (มีสิ่งเดียว) กริยาที่ตามมาจะต้องเติม -s หรือ -es ด้วย

น้องสามารถดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Present Simple Tense ได้ ที่นี่

 

Verb to do คืออะไร?

ใน Present Simple นั้น Verb to do (do, does) จะทำหน้าที่หลักๆ อยู่ 2 แบบคือ

1) เป็นกริยาแท้ที่แปลว่า “ทำ” ในประโยคบอกเล่า

2) เป็นกริยาช่วยในประโยคคำถามและปฏิเสธ

โดย Verb to do ในประโยค Present Simple นั้นก็จะเติม -es หากประธานเป็นเอกพจน์ตามที่กล่าวไปด้านบน (ออกเสียงว่า does /ด๊าส/)

 

หลักการใช้ Do/Does

1) Do ในประโยคบอกเล่า

ดูที่เป็นกริยาแท้ในประโยคบอกเล่านั้นจะมีความหมายว่าทำ เช่น

I do my homework every evening.

(ฉันทำการบ้านทุกวัน)

 

She does the housework every Saturday.

(เธอทำงานบ้านทุกวันเสาร์)

affirmative

 

2) Do ในประโยคคำถามและปฏิเสธ

เราจะใช้ do/does not ตามด้วยกริยาในรูปปกติ (infinitive) เพื่อแสดงถึงความเป็นประโยคปฏิเสธ โดยมีโครงสร้างดังนี้

verb to do negative

ตัวอย่าง

Mary does not want to go to school.

(แมรี่ไม่อยากไปโรงเรียน)

 

We do not like this movie.

(พวกเราไม่ชอบภาพยนตร์เรื่องนี้)

 

It does not rain this morning.

(เช้านี้ฝนไม่ตก)

negative

 

นอกจากนั้น do/does ยังใช้ในประโยคคำถามที่เป็น Yes/No Question โดยมีโครงสร้างดังนี้

do question

ตัวอย่าง

Do you speak English?

(คุณพูดภาษาอังกฤษไหม?)

สามารถตอบได้ว่า Yes, I do. หรือ No, I do not.

 

Does she live nearby?

(เธออาศัยอยู่ใกล้ๆ นี้หรือเปล่า?)

สามารถตอบได้ว่า Yes, she does. หรือ No, she does not.

 

Do Johnny and Dave study hard?

(จอห์นนี่กับเดฟเรียนหนักหรือเปล่า?)

สามารถตอบได้ว่า Yes, they do. หรือ No, they do not.

negative

 

นี่ก็เป็นการใช้ Verb to do ง่ายๆ ในประโยค Present Simple Tense หวังว่าน้องๆ จะเข้าใจมากขึ้นและหมั่นทบทวนอยู่ตลอดเวลา โดยน้องๆ สามารถดูวิดีโอเพิ่มเติมได้ด้านล่างนี้เลย

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

Imperative Sentence: เรียนรู้การใช้ประโยคคำสั่ง ขอร้องในชีวิตประจำวัน

เชื่อว่าชีวิตประจำวันของน้องๆ ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียน ที่บ้าน หรือเวลาออกไปเที่ยว น้องๆ อาจจะเคยได้ยินประโยคประมาณนี้กันมาบ้าง

Turn off the computer! (จงปิดคอมพิวเตอร์!)

Please pass me the sugar (ช่วยส่งน้ำตาลมาให้ที)

Drink a lot of water (ดื่มน้ำเยอะๆ)

ประโยคเหล่านี้ภาษาอังกฤษมีชื่อเรียกว่า Imperative Sentence วันนี้เราจะมาดูกันว่า Imperative Sentence คืออะไร และสามารถใช้ในสถานการณ์ไหนได้บ้าง

จำนวนจริงในรูปกรณฑ์ และเลขยกกำลัง

จำนวนจริงในรูปกรณฑ์ จำนวนจริงในรูปกรณฑ์ หรือราก เขียนแทนด้วย อ่านว่า รากที่ n ของ x หรือ กรณฑ์ที่ n ของ x เราจะบอกว่า จำนวนจริง a เป็นรากที่ n ของ x ก็ต่อเมื่อ เช่น 2 เป็นรากที่

ป.5 ไวยากรณ์เรื่อง There is _ There are และ How many

ไวยากรณ์เรื่อง There is / There are และ How many

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ป.5 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้ “ไวยากรณ์เรื่อง There is / There are และ How many” กันจ้า ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยเด้อ ถามก่อนเรียน: อ้าวแล้ว Have/has ก็แปลว่า “มี” เหมือนกันไม่ใช่เหรอ แล้ว There is/There are

Three-word Phrasal Verbs

Three-word Phrasal verbs

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.5 ที่น่ารักทุกคนวันนี้ครูมีกริยาวลีที่ใช้บ่อยแบบ 3 คำ หรือ Three-word Phrasal Verbs มาฝากกันจ้า ด้านล่างเลยน๊า ขอให้ท่องศัพท์ให้สนุกจ้า ตารางคำศัพท์Three-word Phrasal Verbs ต้องรู้   ask somebody out ชวนออกเดท/ชวนออกไปข้างนอก add up to something ทำให้สมน้ำสมเนื้อ/ทำให้เท่ากัน back something up

หลักการเบื้องต้นของอัตราส่วน

หลักการเบื้องต้นของอัตราส่วน

“อัตราส่วน คือ ปริมาณ อย่างหนึ่งที่แสดงถึง จำนวน หรือ ขนาด ตามสัดส่วนเมื่อเปรียบเทียบกับอีก ปริมาณ หนึ่งที่เกี่ยวข้องกัน ที่อาจมีได้ตั้งแต่สองปริมาณขึ้นไป”

ฟังก์ชันผกผัน

ฟังก์ชันผกผัน ฟังก์ชันผกผัน หรืออินเวอร์สฟังก์ชัน เขียนแทนด้วย เมื่อ เป็นฟังก์ชัน จากที่เรารู้กันว่า ฟังก์ชันนั้นเป็นความสัมพันธ์ ดังนั้นฟังก์ชันก็สามารถหาตัวผกผันได้เช่นกัน แต่ตัวผกผันนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นฟังก์ชันเสมอไป เพราะอะไรถึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นฟังก์ชัน เราลองมาดูตัวอย่างกันค่ะ ให้ f = {(1, 2), (3, 2), (4, 5),(6, 5)}  จะเห็นว่า f เป็นฟังก์ชัน

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1