Describing People: การบรรยายบุคคลในภาษาอังกฤษ

สวัสดีน้องๆ ม. 2 ทุกคนครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการบรรยายลักษณะบุคคลเป็นภาษาอังกฤษกันครับ ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย!
Describing people

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

Describing People (การบรรยายลักษณะบุคคล)

โดยทั่วไปแล้วเราจะใช้คำคุณศัพท์ (Adjective) ในการบรรยายลักษณะบุคคล (Describing people)ครับ ซึ่งเราสามารถแบ่งประเภทการบรรยายลักษณะบุคคลออกเป็น 2 แบบ ดังนี้

  • บรรยายรูปร่างลักษณะ (Appearance)
  • บรรยายลักษณะนิสัย (Personality)

และเรามักใช้โครงสร้างในการบรรยายลักษณะดังกล่าวดังนี้ครับ

describing people

 

Describing Appearance (การบรรยายรูปร่าง ลักษณะภายนอก)

คำศัพท์ที่มักใช้ในการบรรยายรูปร่าง หน้าตา หรือลักษณะทางกายภาพที่น้องมักจะได้เจอบ่อยๆ มีดังนี้ครับ

Adjective

Meaning

attractive

น่าดึงดูด

bald

หัวล้าน

beautiful

สวย

chubby

อวบ จ้ำม่ำ

fit

แข็งแรง

gorgeous

สง่างาม

handsome

หล่อเหลา

muscular

ล่ำ มีกล้าม

ordinary

คนธรรมดา

short

เตี้ย

skinny

ผอมมาก

slender

ผอมสวย

smart

ดูดี โก้

tall

สูง

thin

ผอมแห้ง

 

ตัวอย่างการใช้

Daniel is attractive. Many girls like him.
แดเนียลมีเสน่ห์น่าดึงดูด ผู้หญิงหลายๆคนชอบเขา

Michael is a famous British actor. He is very tall and handsome.
ไมเคิลเป็นนักแสดงชาวอังกฤษที่โด่งดัง เขาสูงและหล่อมาก

Sarah is Miss Thailand Universe 2020. She is beautiful and smart.
ซาราห์เป็นมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สปี 2020 เธอสวยและฉลาด

example people

ข้อควรระวัง
น้องๆ ต้องระมัดระวังการใช้คำ Adjective ที่มีความหมายเชิงลบเวลาบรรยายรูปร่าง หรือลักษณะภายนอกของคนอื่นด้วยนะครับ เพราะอาจทำให้ผู้ฟังไม่พอใจได้ ให้น้องๆ เลือกใช้คำที่มีความหมายกลางๆ แทนครับ (เช่น slender แทน thin)

 

Describing Personality (การบรรยายลักษณะนิสัย)

คำศัพท์ที่มักใช้ในการบรรยายลักษณะนิสัยที่น้องมักจะได้เจอบ่อยๆ มีดังนี้ครับ

Adjective

Meaning

brave

กล้าหาญ

clever

ฉลาด

easy-going

ง่ายๆ สบายๆ

friendly

เป็นมิตร

funny

ตลกขบขัน

generous

ใจกว้าง

grumpy

บึ้งตึง

hard-working

ขยัน ทำงานหนัก

honest

ซื่อสัตย์

lazy

ขี้เกียจ

mean

หยาบคาย

stubborn

ดื้อรั้น

selfish

เห็นแก่ตัว

serious

จริงจัง

tidy

สะอาด เรียบร้อย เป็นระเบียบ

ตัวอย่างการใช้

Somchai is lazy. He is always late for class.
สมชายขี้เกียจ เขาเข้าเรียนสายตลอดเวลา

Kate usually asks questions in class. I think she’s so brave.
เคทชอบถามคำถามในห้องเสมอ ฉันคิดว่าเธอกล้าหาญมาก

The teacher always tells us to clean up the classroom. She is super tidy.
คุณครูบอกให้เราทำความสะอาดห้องเรียนเป็นประจำ หล่อนเจ้าระเบียบมาก

example people

 

Object Pronouns

คือคำสรรพนามที่คำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค ซึ่งมีคร่าวๆ ดังนี้ครับ

Subject Pronoun

Object Pronoun

I

me

You

you

We

us

They

them

He

him

She

her

It

it

ชื่อคน 1 คน

ใช้ตามเพศ (him/her)

ชื่อคน 2 คน หรือมากกว่า

them

สิ่งของ สถานที่

it หรือ them (หากมีหลายๆ สิ่ง)

 

ตัวอย่างเช่น

Daniel is attractive. Many girls like him.
‘him’ ด้านหลังนี้เป็นกรรม (ประธานคือ ‘girls’) ซึ่งหมายถึง Daniel ครับ

ข้อควรระวัง
หากเป็นสัตว์เลี้ยงเรามักจะเรียกตามเพศของมันครับ แต่หากเป็นสัตว์ป่าน้องๆ สามารถใช้คำว่า ‘it’ แทนได้ครับ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับน้องๆ สำหรับบทเรียนเรื่อง Describing People ในวันนี้ ไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะครับ? ยังมีคำศัพท์ที่ใช้ในการบรรยายลักษณะอีกมากมาย น้องๆ อย่าลืมทบทวนและค้นหาเพิ่มเติมกันด้วยนะครับ แล้วก็อย่าลืมรับชมวิดีโอบทเรียนวันนี้จากช่อง Nock Academy กันด้วยนะครับ

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การโต้วาที

โต้วาที และยอวาที แต่งต่างกันอย่างไร?

การพูดมีมากมายหลายประเภท แล้วแต่จุดประสงค์ของผู้พูดว่าต้องการจะสื่อสารออกมาในรูปแบบใด แต่จะมีอยู่ประเภทหนึ่งที่มีหัวข้อให้พูดและต้องแบ่งออกเป็นสองฝ่าย โดยไม่ได้มีเจตนาเพื่อมาทะเลาะกัน เพราะเรากำลังหมายถึงการพูดโต้วาทีและการยอวาที ที่เป็นการพูดแสดงความคิดเห็นในลักษะที่ต่างกัน แต่จะต่างกันอย่างไรบ้างนั้น เราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ   การโต้วาที     การโต้วาที เป็นการแสดงความคิดเห็นโต้แย้งด้วยเหตุผลเพื่อให้ชนะอีกฝ่าย โดยจะแบ่งผู้พูดออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายญัตติและฝ่ายคัดค้านญัตติ และมีกรรมการคอยตัดสินว่าจะให้ฝ่ายใดชนะ โดยแต่ละฝ่ายจะต้องมีข้อมูลเพื่อมาสนับสนุนการพูดของตัวเอง หักล้างแนวคิดของอีกฝ่ายและต้องมีปฏิภาณไหวพริบ   องค์ประกอบของการโต้วาที  

ฟังก์ชันเพิ่มและฟังก์ชันลด

ฟังก์ชันเพิ่มและฟังก์ชันลด ฟังก์ชันเพิ่มและฟังก์ชันลด สามารถตรวจสอบได้จากกราฟและนิยาม สมการหนึ่งสมการอาจจะเป็นทั้งฟังก์ชันเพิ่มและฟังก์ชันลดขึ้นอยู่กับรูปแบบของกราฟและสมการ บทนิยาม ให้ f เป็นฟังก์ชันที่ส่งจากโดเมนของฟังก์ชันไปยังจำนวนจริง โดยที่ A เป็นสับเซตของจำนวนจริง และ A เป็นสับเซตของโดเมน จะบอกว่า  f เป็นฟังก์ชันเพิ่มบนเซตเซต A ก็ต่อเมื่อ สำหรับ และ ใดๆใน A ถ้า  < 

Profile Linking Verbs

มาทำความรู้จักกับ Linking Verbs ให้มากขึ้น

สวัสดีค่ะนักเรียนม.1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปรู้จักกับ Linking Verbs ให้มากขึ้น แต่ก่อนอื่นไปดูความหมายของ Linking Verbs กันก่อนนะคะ ไปลุยกันเลย มาทำความรู้จักกับ Linking Verbs     Linking verbs คืออะไรกันนะ Linking แปลว่า การเชื่อม มาจากรากศัพท์ link ที่เป็นกริยาเติมด้วย

มารยาทในการอ่านที่นักอ่านทุกคนควรรู้

บทเรียนวันนี้เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่มักจะถูกละเลย มองข้ามไป นั่นก็คือเรื่องมารยาทในการอ่านนั่นเองค่ะ น้อง ๆ หลายคนคงสงสัยว่ามารยาทในการอ่านนั้นสำคัญอย่างไร ทำไมเราถึงต้องเรียนรู้เรื่องนี้เช่นเดียวกับมารยาทในการฟังและมารยาทในการพูดด้วย เราไปเรียนรู้เรื่องนี้ไปพร้อม ๆ เลยดีกว่าค่ะ มารยาทในการอ่าน   ความหมายของมารยาทในการอ่าน มารยาท หมายถึง กิริยาวาจาที่ถือว่าสุภาพเรียบร้อยถูกกาลเทศะ ส่วนการอ่าน หมายถึง พฤติกรรมการรับสารอย่างหนึ่ง รับรู้เรื่องราวโดยการใช้ตามองแล้วใช้สมองประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ เกิดเป็นการรับรู้และความเข้าใจ มารยาทในการอ่านจึงหมายถึง

การเขียนเรียงความ

เทคนิคการเขียนเรียงความง่าย ๆ ที่จะช่วยถ่ายทอดความคิดให้เป็นขั้นตอน

การเขียนเรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่มีสำคัญมาก เพราะเป็นการถ่ายทอดความคิดให้ออกมาอยู่ในรูปของตัวอักษร จะมีวิธีเขียนอย่างไรบ้างนั้น บทเรียนในวันนี้จะทำให้น้อง ๆ มีความรู้ความเข้าใจถึงวิธีการเขียนเรียงมากขึ้น จะเป็นอย่างไรนั้น ไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ     เรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่แสดงออกถึงความรู้สึกนึกคิด ความเห็น ความเข้าใจของผู้เขียน มีรูปแบบและวิธีการเขียนที่มีแบบแผน เพื่อถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นตัวอักษรให้น่าอ่าน และยังเป็นพื้นฐานของการเขียนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความหรือนวนิยายอีกด้วย โดยประเภทของการเขียนเรียงความมีดังนี้ 1. เรื่องที่เขียนเพื่อความรู้ 2. เรื่องที่เขียนเพื่อความเข้าใจ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1