Definite & Indefinite Articles ในภาษาอังกฤษ คืออะไรกันนะ?

สวัสดีน้องๆ ม.1 ทุกคนนะครับ วันนี้พี่มีเรื่องพื้นฐานอย่างเรื่อง Article มาให้น้องๆ ได้ลองศึกษากันดูครับ ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย
articles

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

Articles คืออะไร?

ในภาษาอังกฤษนั้น Articles คือคำที่เอาไว้ใช้ “นำหน้าคำนาม” ครับ เพื่อบอกว่าคำนามที่เราพูดถึงนั้นมีลักษณะที่เจาะจงหรือไม่ หรือเป็นแค่การพูดรวมๆ อะไรประมาณนี้ครับ ซึ่งในภาษาอังกฤษเราจะแบ่งคำเหล่านี้ออกเป็น 2 ประเภท คือ

  • Definite Article
  • Indefinite Articles

Articles

 

Indefinite Articles

เป็นคำนำหน้านามที่ “ไม่เฉพาะเจาะจง” ใช้นำหน้าคำนามที่เรากล่าวถึงแบบลอย ๆ ซึ่งจะต้องอยู่ในรูปเอกพจน์เท่านั้น เช่น เวลาที่เราพูดถึง โรงเรียน มหาวิทยาลัย ในบริบททั่วๆ ไป ที่ไม่เจาะจงว่าที่โรงเรียนอะไร หรือมหาวิทยาลัยไหน โดย indefinite articles จะมีทั้งหมด 2  ตัว คือ a และ an

  • การใช้ a
    เราจะใช้ a นำหน้าคำนามทั่วไป ที่อยู่ในรูปเอกพจน์ และขึ้นต้นด้วยพยัญชนะหรือออกเสียงพยัญชนะ เช่น

A cat
แมว 1 ตัว

A house
บ้าน 1 หลัง

A university [ออกเสียง ยู เป็นเสียงตัว y]
มหาวิทยาลัย 1 แห่ง

         ตัวอย่างดังกล่าวพูดถึง “แมว” “บ้าน” และ “มหาวิทยาลัย” โดยที่ไม่เจาะจงว่าเป็นอันไหน

 

  • การใช้ an
    เราใช้ an นำหน้าคำนามทั่วไป ที่อยู่ในรูปเอกพจน์เช่นกัน แต่เป็นคำที่ขึ้นต้นด้วยสระหรือออกเสียงสระ เช่น

An apple
แอปเปิล 1 ลูก

An elephant
ช้าง 1 ตัว

An hour [ออกเสียง แอ]
เวลา 1 ชั่วโมง

         เช่นเดียวกันกับ a ครับ ตัวอย่างดังกล่าวพูดถึงคำนามทั่วไป ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นอันไหน

 

Definite Article

หรือคำนำหน้านามที่ “เฉพาะเจาะจง” เป็นคำที่ผู้พูดหรือผู้ฟังทราบว่าคืออันไหน ซึ่งเราจะใช้ article “the” นำหน้าคำนามเหล่านั้นครับ ซึ่งจะใช้นำหน้าทั้งคำนามที่นับได้และนับไม่ได้ และใช้ได้กับทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ครับ

  • การใช้ the
    เราใช้ the นำหน้าคำนามที่ชี้เฉพาะเจาะจง เช่น

The clever boy
เด็กชายผู้ฉลาด (คนนั้น ก็คือรู้ว่าพูดถึงคนไหน)

 

ใช้กับสิ่งที่มีอย่างเดียวในโลก เช่น

The sun
พระอาทิตย์ (มีดวงเดียว)

The Prime Minister of Japan
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น (พูดถึงคนคนเดียวที่ดำรงตำแหน่ง ณ ตอนนี้)

 

ใช้กับคำนามที่กล่าวซ้ำ เช่น

Once there was a woman. The woman lived in a big house.
มีผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่

เราใช้ the นำหน้า woman ในประโยคที่สอง เพราะเรารู้แล้วว่ากำลังพูดถึง woman คนเดิมในประโยคก่อนหน้านั่นเองครับ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับน้องๆ สำหรับพื้นฐานเรื่อง Article ในวันนี้ จริงๆ แล้วเรื่องนี้ยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมาย ไว้เราจะมาลงรายละเอียดกันในคราวหน้านะครับ สำหรับวันนี้น้องๆ ก็อย่าลืมทบทวนและดูวิดีโอจากช่อง Nock Academy กันด้วยนะครับ

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

Question Tag

การใช้ Tag Questions หรือ Question Tag ในการถาม – ตอบ เกี่ยวกับประเทศและสัญชาติ

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป. 6 ที่น่ารักทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้ในหัวข้อเรื่อง การใช้ Tag Questions หรือ Question Tag ในการถาม – ตอบ เกี่ยวกับประเทศและสัญชาติ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย ความหมาย Question แปลว่า คำถาม ส่วนคำว่า Tag จะแปลว่า วลี ที่นำมาใช้ต่อท้ายประโยค เพื่อทำให้เป็นประโยคคำถาม ดังนั้น

E6 This, That, These, Those

This, That, These, Those

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนเรื่อง This, That, These, Those กันค่ะ พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจ้า   เข้าสู่บทเรียน   ก่อนที่นักเรียนจะไปเรียนเรื่อง การใช้  This, That, These, Those ครูอยากจะให้ลองดูตัวอย่างของการใช้ This, That, These, Those (Determiners) และ This,

some any

การใช้ Some และ Any ตามด้วยคำนาม

สวัสดีน้องๆ ม. 2 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้การใช้ some และ any กันแบบเข้าใจง่ายๆ ถ้าพร้อมแล้วลองไปดูกันเลยครับ

การใช้ไวยากรณ์ Past Simple ในการตั้งคำถาม

เกริ่นนำ เกริ่นใจ อดีต ปัจจุบันและอนาคต ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วได้รับความสำคัญในหลักไวยากรณ์ของภาษาอังกฤษ เอาเข้าจริง ภาษาไทยของเราเองก็มีอะไรในลักษณะนี้เหมือนกันนะ แต่จะไม่เด่นชัดในรูปประโยคจนรู้สึกว่าซับซ้อนเหมือนภาษาอังกฤษที่เรากำลังเรียน ตัวอย่างเช่น เมื่อวานไปไหนมา….หรือ ฉันไป…มา ในขณะที่ภาษาอังกฤษจะต้องมีการปรับโครงสร้างให้เป็นรูปอดีตด้วยการเปลี่ยนคำกริยาเป็นช่องที่ 2 ตัวอย่างเช่น Where “did” you go yesterday? หรือ I “went to…” เป็นต้น อย่างไรก็ดี

การเก็บรวบรวมข้อมูล

การเก็บรวบรวมข้อมูล

การเก็บรวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นขั้นตอนหนึ่งที่มีความสำคัญมากทางสถิติ เพื่อใช้ในการตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ โดยข้อมูลที่ได้มีหลากหลายรูปแบบ อาจจะเป็นตัวเลข ข้อความ หรือรูปภาพ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ตอบสนองวัตถุประสงค์หรือเป็นเรื่องที่เราสนใจ โดยสามารถจำแนกข้อมูลได้ตามลักษณะและแหล่งที่มาของข้อมูล ได้แก่ จำแนกตามลักษณะของข้อมูล แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative Data) คือ ข้อมูลที่วัดค่าได้ แสดงเป็นตัวเลข ซึ่งสามารถนำมาใช้เปรียบเทียบกันได้โดยตรง เช่น จำนวนบุตรในครอบครัว,

การใช้รูปประโยคคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ ที่ใช้ในการเรียน

การใช้รูปประโยคคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ ที่ใช้ในการเรียน + การใช้ Can/ Could/ Should

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม. 1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาเรียนรู้เกี่ยวกับ การใช้รูปประโยคคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ ที่เจอบ่อยและการใช้ Can, Could, Should กันนะคะ ไปลุยกันเลย   มารู้จักกับประโยคคำสั่ง (Imperative sentence)     รูปแบบและโครงสร้างประโยคคำสั่ง Imperative sentence Imperative sentence ในรูปแบบประโยคบอกเล่าจะ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1