Definite & Indefinite Articles

NokAcademy_Definite & Indefinite Articles M1

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

 

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ม.1 ที่น่ารักทุกคนวันนี้ครูได้สรุปเรื่อง  Articles: a/an/the พร้อมเทคนิคการนำไปใช้ มาฝากกันค่ะ หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย

 

Articles คืออะไร

 

NokAcademy_Definite & Indefinite Articles M1 (2)

Articles เป็นคำคุณศัพท์อย่างหนึ่ง การเรียน เรื่อง Articles นี้ที่มีหน้าที่หลักคือ ใช้นำหน้าคำนาม เราต้องทำความเข้าใจควบคู่ไปกับเรื่องนามนับได้ ( Countable Nouns ) และนามนับไม่ได้ ( Uncountable Nouns ) ในบทนี้เราจะไปทำความรู้จักกับ Articles ทั้งสามรูปแบบ อันได้แก่ a, an, the แต่ในบทเรียนนี้เราจะมาดู Articles ในอีกรูปแบบที่เพิ่มขึ้นมาจากตอนที่เราเรียนเมื่อตอนประถม

 

ชนิดของ Articles

 

NokAcademy_Definite & Indefinite Articles M1 (3)

Articles แบ่งเป็น 2 ชนิดคือ

 

  1. Indefinite Article ได้แก่ a  และ an ใช้นำหน้านามนับได้ ( Countable Nouns ) เอกพจน์ทั่วๆไป ( Singular )

 

  1. Definite Article ได้แก่ the  ซึ่งใช้นำหน้าคำนามนับได้ ( Countable Nouns ) และนามนับไม่ได้ ( Uncountable Nouns ) ทั้งรูปเอกพจน์ (Singular) และพหูพจน์ ( Plural ) เพื่อให้นามนั้นมีความหมายเฉพาะเจาะจง

 

 Indefinite Article

 

NokAcademy_Definite & Indefinite Articles M1 (4)

 

 Indefinite Article ได้แก่  a, an มีหลักการใช้ดังนี้

1) a และ an ใช้นำหน้านามทั่วทั่วไป  แปลว่า หนึ่งคน หนึ่งตัว หนึ่งอัน หนึ่งแห่ง หรือบางทีไม่ต้องแปลก็ได้ เป็นการกล่าวถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งแบบลอยๆ ไม่รู้ว่าอันไหนกันแน่ โดยมีหลักการใช้ดังนี้

 

  • an นำหน้าคำนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ (a e i o u) และเสียงสระผสมอื่นๆ เช่น ea, ae, ei, ou เป็นต้น เช่นตัวอย่างดังต่อไปนี้

an aisle ทางเดิน
an ice-cream ไอศกรีมหนึ่งแท่ง

an orange ส้มหนึ่งผล
an umbrella ร่มหนึ่งคัน

 

2) a นำหน้าคำนามที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะที่เหลือทุกตัว เช่น

a teacher ครูหนึ่งคน

a bird นกหนึ่งตัว

a car รถหนึ่งคัน

Definite Article

 

_NokAcademy_Definite & Indefinite Articles M1


The นำหน้าคำนามได้ทั้งทั้งสระ พยัญชนะ และ
“นำหน้าคำนามเฉพาะเจาะจง”

เช่น สิ่งที่มีหนึ่งเดียวในโลก

  • moon พระจันทร์ ไม่ว่าจะเป็นพระจันทร์ดวงไหน ก็ให้เรียกว่า The moon
  • Pyramids ที่อยู่อียิปต์ ให้เรียกว่า The Pyramids

นอกจากนี้ The ยังใช้กับการพูดคำนามคำนั้นๆซ้ำอีก เพื่อย้ำความหมาย และเน้นที่คำนั้นเช่น a wall (กำแพง)
แล้วกำแพงไหนล่ะ…ก็กำแพงนั่นไง The wall (หากมีการกล่าวถึงนามนั้นซ้ำอีกหนึ่งรอบจะใช้ The wall)

 

  • การใช้ article a an ใช้กับนามทั่วๆไป กล่าวแบบลอยๆทั่วไป
  • การ ใช้ article the ใช้กับนามเฉพาะเจาะจง หรือ คำนามที่กล่าวซ้ำ

 

ข้อยกเว้น:

  • ถ้ามีคำขยาย ( modifier ) อยู่ระหว่าง article และคำนาม article นั้นจะยังคงรูปไม่เฉพาะเจาะจง เช่น

“I want a beautiful dress for a party.” ( มี beautiful อยู่ระหว่าง a ( article ) และ dress
( นาม ) แปลว่า ฉันอยากได้ชุดสวยๆ สำหรับงานปาร์ตี้จัง

“I want a nice pair of jeans. ยังคงใช้ a ซึ่งเป็นรูปไม่เฉพาะเจาะจง แปลว่า ฉันอยากจะได้กางเกงยีนส์ดีๆซักตัวนึงจังเลย เป็นการพูดขึ้นมาลอยๆไม่ได้เจาะจงว่าเป็นยีนส์ตัวไหน

 

  • ใช้ The เมื่อเป็นการพูดถึงในครั้งต่อมา เป็นการต่อเนื่อง ปรกติจะเป็นการกล่าวถึงคำนามนั้นซ้ำอีกรอบ (The + Noun) เช่น

I ate noodle at lunch. The noodle was very delish.
แปล ฉันทานก๋วยเตี๋ยวมาเมื่อช่วงเที่ยง ก๋วยเตี๋ยว แซ่บมาก

 

 

 

  • ใช้ The กับนามเอกพจน์นับได้ที่มีความหมายลักษณะเป็นนามธรรม ( abstract ) หรือ กลุ่มๆ คำนามกลุ่มนี้ได้แก่ animal (สัตว์ เช่น หมู สุนัข เป็ด แมว เป็นต้น)

ตัวอย่างประโยค:

The dog is a generous animal.
แปล
สุนัขเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์ ( สุนัขโดยความหมายทั่วๆไป ซึ่งเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ซื่อสัตย์)

 

A dog is a generous animal.
แปล สุนัขไม่ว่าตัวไหนก็ตามเป็นสัตว์ซื่อสัตย์ (ไม่เจาะจงเท่าการใช้ The นำหน้า)

 

 

The กับหลักการใช้ง่ายๆ 7 ข้อ

 

NokAcademy_Definite & Indefinite Articles M1 (6)

  1. ใช้กับคำนามนับได้เอกพจน์และพหูพจน์ที่เป็นการชี้เฉพาะเจาะจงลงไปว่าคนไหน อันไหน สิ่งไหน
  2. ใช้ the นำหน้าคำนามที่มีสิ่งเดียว หรืออันเดียว the world, the sun, the moon, the universe
  3. ใช้ the นำหน้าชื่อ-สกุล (และเป็นพหูพจน์เสมอ) หมายถึง ครอบครัว เช่น The Beckhams
  4. The + ชื่อเฉพาะ สังเกตว่าหลัง The จะตามด้วยตัวพิพม์ใหญ่ The Future Park Rangsit
  5. ใช้the นำหน้าชื่อเครื่องดนตรี the guitar, the violin, the piano
  6. ใช้the + คำคุณศัพท์เมื่อกล่าวถึงกลุ่มบุคคล เชื้อชาติ สีผิว เช่น the rich, the Japanese, the African-American

 


ทบทวนคำนามนับได้/นามนับไม่ได้กันสักนิด

NokAcademy_Definite & Indefinite Articles M1 (7)

 

  • Countable Nouns นามนับได้ มีทั้งรูปเอกพจน์และพหูพจน์

เอกพจน์:  เช่น  Covid-19, pandemic, dog, country, day, year

พหูพจน์:   เช่น  Viruses, dogs, countries, days, years

  • Uncountable Nouns นับนับไม่ได้มีรูปเดียวคือ รูปเอกพจน์   และเมื่อกล่าวถึงเป็นการทั่วๆไป หรือ ไม่ได้กล่าวถึงมาก่อน ไม่ต้องนำด้วย articles  เช่น
    water, salt, hair, rice, and etc.

 

ข้อควรรู้:

คำนามขึ้นต้นด้วยสระให้ใช้ an   เช่น เราไม่ใช้ a apple แต่จะใช้ an apple
ยกเว้น: คำที่ข้นต้นด้วยตัว “h” ในคำว่า hour (เอาร์รฺ), hair (แอร์รฺ)
เราจะใช้ an hour แปลว่า ชั่วโมงหนึ่ง และ an heir ที่แปลว่า รัชทายาท เนื่องจากเวลาออกเสียง เราจะออกเสียงเหมือนไม่มี h อยู่ เสียงเลยตกอยู่ที่ตัวอักษรที่สอง ซึ่งเป็นสระ “ou” สระ เ-า กับ  “ei” สระแอ แทน ดังนั้น เวลาใช้คำนำหน้า เราจึงใช้ an

***An hour นะคะ ไม่ใช้ a hour อย่าลืมเด้อ

…………………………………………………………

ส่วนคำนามขึ้นต้นด้วยพยัญชนะให้ใช้ a เช่น a Covid-19 ,
a horse เป็นต้น แต่ The นั้นจะสามารถนำหน้าคำนามได้ทุกอย่าง 

 สรุปข้อสังเกต: 2 กลุ่มคำที่เราจะไม่ใช้กับ a/an

 

NokAcademy_Definite & Indefinite Articles M1 (8)

  1. ไม่ใช้ a /an กับคำนามที่นับไม่ได้ (uncountable nouns) เช่น water, salt, rice, and etc.
  2. ไม่ใช้ a/ an นำหน้าชื่อเฉพาะ เช่น ชื่อวิชา ชื่อประเทศ ชื่อเมือง ชื่อจังหวัด อำเภอ ชื่อมหาวิทยาลัย
    ชื่อมื้ออาหาร ชื่อดาราดังๆ ชื่อนักร้องเกาหลี เป็นต้น (เพราะว่าส่วนใหญ่เราจะใช้กับ The)

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะนักเรียนที่รักทุกคน ครูหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นักเรียนจะได้รับความรู้ และประโยชน์จากการอ่านบทความนี้นะคะ อย่าลืมทบทวนเนื้อหาที่เคยเรียนเมื่อครั้งป.6 เรื่อง Articles กับทีชเชอร์กรีซ ได้ที่วีดีโอด้านล่างเลยนะคะ Have a good day guys! Take care!

 

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

ฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่ง

ฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่ง ฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่ง เป็นการส่งสมาชิกจากของเซตหนึ่งเรียกเซตนั้นว่าโดเมน ส่งไปให้สมาชิกอีกเซตหนึ่งเซตนั้นเรียกว่าเรนจ์ จากบทความก่อนหน้าเราได้พูดถึงฟังก์ชันและการส่งสมาชิกในเซตไปแล้วบางส่วน ในบทความนี้เราจะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่งมากขึ้น จากที่เรารู้ว่าเซตของคู่อันดับเซตหนึ่งจะเป็นฟังก์ชันได้นั้น สมาชิกตัวหน้าต้องไปเหมือนกัน แต่ฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่งเป็นการกำหนดขอบเขตให้ฟังก์ชันนั้นแคปลงกว่าเดิม เช่น {(1, a), (2, b), (3, a), (4, c)}  จากเซตของคู่อันดับเราสมารถตอบได้เลยว่าเป็นฟังก์ชัน เพราะสมาชิกตัวหน้าไม่เหมือนกัน แต่ฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่ง คือการที่เรามีเซต 2 เซต แล้วเราส่งสมาชิกในเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่ง

การบรรยายตนเอง + Present Simple

สวัสดีนักเรียนชั้นม.2 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวิธีการบอกข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับตัวเราในภาษาอังกฤษกันค่ะ ได้แก่ “ การบรรยายตนเอง + Present Simple “ พร้อมทั้งตัวอย่างสถานการณ์ใกล้ตัวกันค่ะ ไปลุยกันเลย   ทบทวน Present Simple Tense     ความหมาย: Present แปลว่า ปัจจุบัน ดังนั้น Present

ฟังก์ชันผกผัน

ฟังก์ชันผกผัน ฟังก์ชันผกผัน หรืออินเวอร์สฟังก์ชัน เขียนแทนด้วย เมื่อ เป็นฟังก์ชัน จากที่เรารู้กันว่า ฟังก์ชันนั้นเป็นความสัมพันธ์ ดังนั้นฟังก์ชันก็สามารถหาตัวผกผันได้เช่นกัน แต่ตัวผกผันนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นฟังก์ชันเสมอไป เพราะอะไรถึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นฟังก์ชัน เราลองมาดูตัวอย่างกันค่ะ ให้ f = {(1, 2), (3, 2), (4, 5),(6, 5)}  จะเห็นว่า f เป็นฟังก์ชัน

กราฟแสดงคำตอบของอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

บทความนี้ได้แนะนำการเขียน กราฟแสดงคำตอบของอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว  ซึ่งจะเชื่อมโยงกับสัญลักษณ์ของอสมการทั้ง 5 สัญลักษณ์ คือ มากกว่า (>), น้อยกว่า (<), มากกว่าหรือเท่ากับ (≥), น้อยกว่าหรือเท่ากับ (≤) และ ไม่ท่ากับ(≠) โดยเขียนแสดงบนเส้นจำนวน จุดทึบและจุดโปร่ง เราจะเลือกใช้จุดทึบ (•) และจุดโปร่ง (°) แทนสัญลักษณ์อสมการ ดังนี้ มากกว่า

เรียนรู้และเข้าใจเรื่องคำซ้อนในภาษาไทย

คำซ้อน เป็นหนึ่งในบทเรียนหลักภาษาไทยเรื่องการสร้างคำ น้อง ๆ หลายคนอาจจะเคยสับสนกับวิธีสร้างคำซ้อน ไม่รู้ว่าแบบไหนกันแน่ที่เรียกว่าคำซ้อน เพราะภาษาไทยเรานั้นก็มีคำมากมายเหลือเกิน วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่องคำซ้อนให้มากขึ้น รับรองว่าไม่ยากแน่นอนค่ะ   คำซ้อน     ความหมายของคำซ้อน   คำซ้อน คือ คำที่เกิดจากการนำคำตั้งแต่ 2 คำ ขึ้นไปมาเรียงต่อกัน โดยคำที่นำมาซ้อนกันจะต้องเป็นคำที่มีความหมายเหมือนกัน ใกล้เคียงกัน ตรงข้ามกัน หรืออาจมีเสียงที่คล้ายกัน

เรียนรู้เรื่อง ส่วนประกอบของประโยค

​ประโยค คือถ้อยคำต่าง ๆ ที่นำมาเรียงกันแล้วมีใจความสมบูรณ์ว่าใครกำลังทำอะไร ที่ไหน และเมื่อไหร่ บทเรียนในวันนี้ น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เรื่อง ส่วนประกอบของประโยค เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นว่าประโยคที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ประกอบด้วยอะไรบ้าง ไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ   ส่วนประกอบของประโยค   โดยทั่วไปประโยคจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ภาค คือ ภาคประธานและภาคแสดง     ภาคประธาน คือ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1