Comparison of Adjectives การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ในภาษาอังกฤษ

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

 

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป. 5 ที่น่ารักทุกคน ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่บทเรียนเรื่องคำคุณศัพท์กันนะคะ วันนี้ครูได้
สรุปเรื่อง Comparison of Adjectives หรือ การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ในภาษาอังกฤษ มาฝาก ไปลุยกันเลย

ความหมาย

Comparison of Adjectives คือ การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ ที่ใช้ในการเปรียบเทียบคน สัตว์ สิ่งของ หรือ อื่นๆ ในภาษาอังกฤษได้มีการเปรียบเทียบอยู่ 3 ขึ้น คือ

การเปรียบเทียบขั้นคำคุณศัพท์เปรียบเทียบ

1)   ขั้นธรรมดา (Positive Degree)

2)    ขั้นกว่า (Comparative Degree)

3)    ขั้นสูงสุด (Superlative Degree)

 

ขั้นธรรมดา (Positive Degree)

 

ขั้นธรรมดา


เป็นการเปรียบเทียบความเท่าเทียมกัน ของสองสิ่ง โครงสร้างประโยคดังนี้

As + adjectives + as
แปลว่า …เท่าที่

เช่น
As long as you love me, I won’t go anywhere.

= ตราบเท่าที่เธอรักฉัน ฉันจะไม่ไปไหน

 

As soon as possible หรือ ASAP คำย่อในภาษาอังกฤษแปลว่า เร็วเท่าที่…

Ex. Please call me back ASAP you reach home.
= กรุณาติดต่อกลับเร็วที่สุดทันทีที่ถึงบ้าน

 

ตัวอย่างอื่นๆ เช่น

Marry is as tall as Jenny.
= แมร์รี่สูงเท่ากันกับเจนนี่


Tina is as diligent as Lukas.
= ติน่าขยันเท่ากันกับลูคัส

 

แบบฝึกหัด: Rearrange the words in correct order. (จงเรียงคำให้ถูกต้อง)

 

แบบฝึกหัดขั้นธรรมดา

 

1. As/he/for/waits/her/long
2.They/will/there/as/possible/soon/as
3. long/As/as/love/him/you

 

 

ขั้นกว่า (Comparative Degree)

 

04Types-of-comparativeADJ.


การใช้คำคุณศัพท์ในการเปรียบเทียบมีอยู่ 3 ขั้น แต่ในบทเรียนนี้เราจะเจาะจงไปที่การเปรียบเทียบขั้นกว่า หรือ
Comparative Adjectives กันนะคะ 

  • โครงสร้างประโยคแบบที่ 1 : S + V. to be + adj. +er + than
     รูปแบบแรกจะมีการเติม -er ท้ายคำคุณศัพท์ (adjective)  และตามด้วย than ประโยคนั้นจะมีความหมายว่า สิ่งหนึ่ง … กว่าอีกสิ่งหนึ่ง  เช่น ตัวอย่างด้านล่าง

    Nanny is younger than Lisa.
    = นีน่าอายุน้อยกว่าลิซ่า

  • โครงสร้างประโยคแบบที่ 2 : S + V. to be + more + adj. + than
    รูปแบบนี้เราจะเติมคำว่า  more ไว้ด้านหน้า แล้วตามด้วยคำคุณศัพท์ (adjective) และวาง than ในลำดับต่อมา เพื่อที่จะเปรียบเทียบว่า
    สิ่งหนึ่ง … กว่าอีกสิ่งหนึ่ง

    เช่น
    English is more fun than Math.
    = ภาษาอังกฤษสนุกกว่าคณิตศาสตร์

    A dog is more playful than a cat.
    = สุนัขขี้เล่นกว่าแมว

หากเป็นความคิดเห็นมักจะเจอคำที่แสดงความคิดเห็นด้านหน้าประโยคเช่น

In my opinion,…..
= ในความคิดเห็นของฉันนั้น…..

Personally, I think that…..
= โดยส่วนตัวแล้ว ฉันคิดว่า…….

If you ask me, I think that…..
= ถ้าถามฉัน ฉันคิดว่า…….

ตัวอย่างประโยคที่แสดงความคิดเห็น

In my opinion, a cat is more cute than a dog.

= ฉันคิดว่าสุนัขน่ารักกว่าแมวเยอะเลย

Comparative aDJ Example

 

มาลองอ่านบทสนทนาระหว่างนักเรียนจากประเทศไทยและนักเรียนจากประเทศอังกฤษ

 

Situation: There is a conversation between Nan and David below.

Nan: Hi David, what’s the weather like in England?
แนน: สวัสดีเดวิด อากาศวันนี้เป็นไงบ้าง

David: Hi Nan, it’s colder than Thailand I think.
เดวิด: สวัสดีแนน มันหนาวกว่าที่ไทยนะผมว่า

Nan: I couldn’t agree more. Thailand is hotter than England during summer.

แนน: เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ ประเทศไทยร้อนกว่าประเทศอังกฤษเยอะเลยโดยเฉพาะหน้าร้อน
David: I see. I still prefer Thailand to England because I love the beaches.

เพิ่มเติม:

ถ้าหากว่าเราไม่ต้องการใช้โครงสร้าง more…than…เราก็สามารถใช้โครงสร้าง prefer something/someone to something/someone
ซึ่งแปลว่า ชอบ…มากกว่า …นั่นเองค่า


เช่น I prefer swimming to running.
= ฉันชอบว่ายน้ำมากกว่าวิ่งซะอีก

 

แบบฝึกหัดการใช้ Comparative Adjectives

**อย่าพึ่งเปิดดูเฉลยด้านล่างนะคะทุกคน ลองทำแบบฝึกหัดด้วยตัวเองดูก่อนนะคะเพื่อความปังปุริเย่

 

Comparative ADJ Practice

 

1.I am ________ my sister.

a) taller than

b) the tallest

C) taler then

 

2.Tina is ________other students in the class.

a) younger than

b) the younger

c) the youngest

 

3. Lisa is______________than ____________other firends.

a) the smarter than

b) smarter than

c) the smartest

 

4.David is ________ sincere than Tina.

a) more

b) most

c) the most

 

5.My mother is ________ caring than my father.

a) more caring

b) most caring

c) the most caring

 

ขั้นสูงสุด (Superlative Degree)

 

Superlative ADJ

 

เป็นการเปรียบเทียบขั้นสูงสุด ใช้ในการเปรียบเทียบที่มากกว่า 2 สิ่งขึ้นไป นิยมใช้ the นำหน้า ADJ. ซึ่งมีรูปประโยคดังนี้

The + คำคุณศัพท์ (Adjectives) เติม –est

Ex. The richest man in the world is in the USA.
แปล ผู้ชายที่รวยที่สุดในโลกอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา

 The + most + คำคุณศัพท์ (Adjectives)
Ex. The most handsome man in the world is Robert Pattinson right now.
แปล: โรเบิร์ต แพททินสันคือผู้ชายที่หล่อที่สุดในโลก ณ ตอนนี้

แบบฝึกหัด Superlative adjectives

Superlative adjectives Practice

  1. What’s the ______important thing to do when you were young?
    a) more
    b) most
    c) the most
  2.  Tony is ______in his class.
    a) as crazy as
    b) crazier
    c) the craziest
  3.  Jemmy  runs___________in the class.
    a) the fastest
    b) faster
    c) the most fast
  4. Kraig is____________in the school.
    a) the tallest
    b) tallest
    c) the most tall
  5. Crony and Lucy are_________________in the room.
    a) the cutest
    b) cuter
    c) very cute

 

 

เทคนิค การเติม Suffix “-er” ในขั้นกว่า และ Suffix “-est” ในขั้นสุด

 

  1. คำคุณศัพท์พยางค์เดียว ให้เติม –er ในขั้นกว่า และเติม –est ในขั้นสูงสุด
  2. คำคุณศัพท์พยางค์เดียว และมีเพียงสระตัวเดียว ให้เพิ่มพยัญชนะท้ายอีกหนึ่งตัว จากนั้นต้องเติม –er ในขั้นกว่า และเติม –est ในขั้นสูงสุด
  3. คำคุณศัพท์ที่ลงท้ายด้วย e อยู่แล้วให้เติมเฉพาะ –r และ –st
    หรือตัด -e เดิมออกแล้วเติม-er ในขั้นกว่า และ –est ในขั้นสุด
  4.   คำคุณศัพท์ที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยนเป็น i แล้วเติม –er และเติม –est ในขั้นสุด

คำคุณศัพท์ที่มีหลายพยางค์ให้เติม more ในขั้นกว่าและเติม most ในขั้นสุด

08Comparative ADJ

 

 

เฉลยแบบฝึกหัดขั้นธรรมดา

 

as___as

1. As long as he waits for her
2. They will be there as long as possible.
3. As long as you love him

 

 

เฉลยแบบฝึกหัดขั้นกว่า

เฉลยComparison of Adjectives


1. a) taller than
2. a) younger than
3. b) smarter than
4. a) more
5. a) more caring

 

superlative adj

 

เฉลยแบบฝึกหัดขั้นสุด

1. b
2. c
3. a
4. a
5. a

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะนักเรียนทุกคน ทำแบบฝึกหัดกันได้ไหมเอ่ย ถ้าเกิดว่าเรายังไม่ค่อยเข้าใจ หรือต้องการที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับคำคุณศัพท์เพิ่มเติมก็สามารถคลิกปุ่ม Play ที่วีดีโอด้านล่างได้นะคะ อย่าลืมทบทวนบทเรียนกันนะคะ แล้วเจอกันใหม่ See you again next time! เลิฟๆ

 

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การชักชวน และแนะนำในภาษาอังกฤษ

วิธีการพูดเสนอแนะ ชักชวน และแนะนำในภาษาอังกฤษ

  สวัสดีค่ะนักเรียน ม.1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปดูวิธีการพูดให้ข้อเสนอแนะ ชักชวน และแนะนำกันค่ะซึ่งในการเสนอแนะ หรือชักชวนนั้น ผู้พูดจะแสดงความคิดเห็นเสนอแนะ เพื่อให้กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยกัน มีการใช้ภาษาหลายระดับ และใช้รูปประโยคหลายชนิด เช่นเดียวกับการพูดในความหมายต่างๆ ที่ผ่านมาเราจึงต้องใช้รูปประโยคต่างๆ เช่นประโยคบอกเล่า คำสั่ง ชักชวน เพื่อให้ผู้ฟังทำตาม รวมถึงเทคนิคการตอบรับและปฏิเสธ ดังในตัวอย่างรูปแบบประโยคด้านล่างนะคะ   1. ประโยคบอกเล่า (Statement)  

คำเชื่อม Conjunction

การใช้คำสันธาน (Conjunctions) เช่น and/ but/ or/ before/ after and etc.

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ที่รักทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้กันเรื่อง “การใช้คำสันธาน (Conjunctions) เช่น and/ but/ or/ before/ after and etc.” กันนะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลด คำสันธาน(Conjunctions)คืออะไร   คำสันธาน (Conjunctions) คือ คำที่ใช้เชื่อมระหว่างประโยคต่อประโยค คำต่อคำ หรือระหว่างกริยาต่อกริยา และอื่นๆ เช่น and/

who what where

Who What Where กับ Verb to be

สวัสดีน้องๆ ม. 2 ทุกๆ คนนะครับ วันนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ Who/What/Where ร่วมกับ Verb to be กันครับ ไปดูกันเลย

like_dislike + การเขียนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง

การเขียนบรรยายความรู้สึกของตนเอง like/dislike + การเขียนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การเขียนบรรยายความรู้สึกของตนเอง like/dislike + การเขียนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลดเด้อ Let’s go! ถาม-ตอบก่อนเรียน หากมีคนถามว่า What do you like doing? หรือ What do you dislike doing? (คุณชอบหรือไม่ชอบทำอะไร) นักเรียนสามารถแต่งประโยคเพื่อตอบคำถาม

เทคนิคการใช้ Yes, No Questions M.1

เทคนิคการใช้ Yes, No Questions ในภาษาอังกฤษ

  สวัสดีค่ะนักเรียน ม.  1 ที่น่ารักทุกคนวันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิคและวิธีการอย่างง่ายในการใช้ประโยค Yes/No questions กันค่ะไปลุยกันเลยค่า Yes, No Questions คืออะไร คือ ประโยคคำถามที่ต้องการคำตอบรับ (Yes) หรือปฏิเสธ (No) เป็นการถามที่ผู้ถามอาจจะมีข้อมูลอยู่บ้างว่า ว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หรือผู้ถามอาจจะถามเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นจริงตามที่เข้าใจหรือเปล่า ในที่นี้ครูจึงแยกออกเป็น 3 ชนิดค่ะ คือ ประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย

ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์

ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เรื่อง ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ ซึ่งได้กล่าวถึงขั้นตอนและวิธีการหาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ และยกตัวอย่างประกอบ อธิบายอย่างละเอียด ซึ่งก่อนจะเรียนเรื่อง ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์น้องๆสามารถทบทวน การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ ได้ที่  ⇒⇒ การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ ⇐⇐ ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ (probability) คือ  อัตราส่วนระหว่างจำนวนเหตุการณ์ที่สนใจ (n(E)) กับจำนวนแซมเปิลสเปซ (n(S)) ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้พร้อม ๆ กัน ใช้สัญลักษณ์ “P(E)”  แทนความน่าจะเป็นของการเกิดเหตุการณ์ที่สนใจ โดยที่ 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1