คำคุณศัพท์ (Adjective)

Adjective Profile

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปเรียนรู้เรื่อง คำคุณศัพท์ หรือ
Adjective ในภาษาอังกฤษกันค่ะ พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย

 

ความหมายของคำคุณศัพท์

 

ความหมายคำคุณศัพท์

 

คำคุณศัพท์หรือ Adjective มีตัวย่อคือ Adj.  ทำหน้าที่ขยายคำนามหรือสรรพนามที่อยู่ในประโยค คำนามหรือสรรพนาม ณ ที่นี้ ก็คือ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ นั่นเองค่า นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ขยายในที่นี้เพื่อบอกให้รู้ว่าคำนามหรือสรรพนามเหล่านั้นมีลักษณะยังไง  และในบทนี้ครูจะพาไปดูชนิดของคำคุณศัพท์และหลักการใช้กันนะคะ

ชนิดของคำคุณศัพท์ 

https://7esl.com/types-of-adjectives/

11Types of Adjectives

  1. Descriptive Adjective

คือ คำคุณศัพท์บอกลักษณะ  หรือคุณภาพของ คนสัตว์ สิ่งของและสถานที่เพื่อให้รู้ว่า นามนั้นมีลักษณะเป็นยังไง  ซึ่งได้แก่คำว่า

good, bad, poor, rich, pretty, ugly, beautiful

ตัวอย่างการใช้

This Covid-19 is bad.
แปล โควิด19นี้แย่มาก

She is beautiful.
หล่อนสวยจัง

  1. Proper Adjective

คือ คุณศัพท์บอกสัญชาติ มีหน้าที่ขยายนามเพื่อบอกสัญชาติ ซึ่งอันที่จริงมีรูปเปลี่ยนมาจาก Proper noun นั่นเองค่ะทุกคน ได้แก่ Proper Adjective หรือ เป็นคุณศัพท์บอกสัญชาติ

ตัวอย่างเช่น
Muji is Japanese.
แปลว่า มูจิเป็นคนญี่ปุ่น

Daniel is American.
แปลว่า แดเนียลเป็นคนอเมริกัน

  1. Quantitative Adjective

คือ คำคุณศัพท์บอกปริมาณ หมายถึง คำที่ไปขยายนาม เพื่อบอกให้ทราบปริมาณ ของสิ่งเหล่านั้นว่า มีมากหรือน้อย (แต่ไม่บอกจำนวนแน่นอน)ได้แก่ much, many, little, some, any เป็นต้น

ตัวอย่าง

There is not much water in the river.
แปล มีน้ำไม่มากในแม่น้ำ

There is a little money left.
แปล มีเงินเหลือไม่มาก

 

  1. Numeral Adjective

คือ คำคุณศัพท์บอกจำนวนแน่นอน หมายถึง คำที่ไปขยายนาม เมื่อบอกจำนวนแน่นอนของนามว่ามีเท่าไหร่

ตัวอย่าง

Jenny is the first girl to be rewarded in this school.

= เจนนี่เป็นเด็กคนแรกที่ได้รับรางวัลในโรงเรียนนี้

 

  1. Demonstrative adjective

คือ คุณศัพท์ชี้เฉพาะ ที่ทำหน้าที่ชี้เฉพาะให้กับนามใดนามหนึ่ง ได้แก่ this, that ใช้กับนามเอกพจน์ ส่วน these ,those จะใช้กับนามพหูพจน์

ข้อควรจำ:

  • This, That ใช้กับนามเอกพจน์นะคะ
  • These, Those ใช้กับนามพหูพจน์นะคะ
  • This, These ใช้กับคำนามที่อยู่ใกล้เด้อ
  • That, Those ใช้กับคำนามที่อยู่ไกลเด้อ

ตัวอย่าง

Beam hated cat fur because that made her allergic.
แปล บีมเกลียดขนแมวเพราะมันทําให้เธอเป็นภูมิแพ้

 

  1. Interrogative adjective

คือ คุณศัพท์บอก คําถาม หมายถึง คุณศัพท์ที่ใช้ขยายนามเพื่อให้เป็นคําถามโดยจะวางไว้ต้นประโยคและมีคำนามตามหลังเสมอ ได้แก่ what, which, whose

ตัวอย่าง
Which school shall we study?
แปล เราจะไปเรียนที่โรงเรียนไหนกันดี

 

  1. Possessive adjective

หมายถึง คําคุณศัพท์ ที่ใช้ขยายนามเพื่อบอกความเป็นเจ้าของของนาม ได้แก่ my, our, your, his, her, its, their

ตัวอย่าง

This is my school bag.
= นี่มันกระเป๋านักเรียนของฉัน

 

  1. Distributive adjective

คือ คุณศัพท์แบ่งแยก  มีหน้าที่ขยายนามเพื่อแยก นามออกจากกันเป็น อันหนึ่ง

หรือส่วนหนึ่งได้แก่ each (แต่ละ), every (ทุกๆ), either (ไม่อันใดก็อันหนึ่ง), neither (ไม่ทั้งสอง)

ตัวอย่าง

Every student is studying hard.
= นักเรียนทุกคนกำลังเรียนอย่างหนักหน่วง

  1. Emphasizing Adjective

คือ คุณศัพท์ เน้นความ  มีหน้าที่ เน้นความให้มีนำหนักขึ้น เช่น very, real
(แปลว่า นั้น,นั้นเอง,นั้นจริงๆ, จริงๆ)

ตัวอย่าง
She is very cute.
แปล หล่อนน่ารักจริงๆ

He is real smart.

แปล เขาฉลาดของจริง

 

  1. Exclamatory Adjective

คือ คุณศัพท์ที่ใช้ขยายเพื่อให้เป็น คําอุทาน เช่น what

ตัวอย่าง

What a good moment!
แปล เป็นช่วงที่ได้จังหวะดีจริงๆ

 

  1. Relative Adjective

คือ คุณศัพท์สัมพันธ์ มีหน้าที่ขยายนามที่ตามหลังและในขณะเดียวกัน จะคล้ายๆกับ คำสันธาน

ที่เชื่อมความในประโยคของตัวเองกับประโยคข้างหน้าให้สัมพันธ์กันอีกด้วย เช่น

Whatever (อะไรก็ได้)

ตัวอย่าง

I’ll give you whatever you want.
ฉันจะให้ในสิ่งใดๆ ก็ตาม ที่คุณต้องการ

 

หลักการใช้คำคุณศัพท์ (Adjective usage)

 

หลักการใช้คำคุณศัพท์

  • วางขยายหน้าคำนามนั้น ๆ เช่น

They want a good grade from their teachers.

แปล พวกเขาอยากได้เกรดดีๆจากคุณครู

 

  • วางไว้หลัง Verb to be (be, is, am, are, was, were, been) เช่น

I am excited.
= ฉันตื่นเต้นจัง

 

I am bored.

= ฉันรู้สึกเบื่อ

จะต่างจาก I am boring. ที่แปลว่าฉันน่าเบื่อ

  • จะถูกวางไว้หลังกริยาเชื่อม (Linking Verbs) เช่น look, sound, feel
    เช่น

You look beautiful today.

= วันนี้คุณสวยจัง

                                                            

 

เทคนิคการเรียงคำคุณศัพท์

เทคนิคการท่องจำเรียงคำคุณศัพท์

 1)       opinion (ความคิดเห็น):        funny, bored, boring

2)       size(ขนาด):    little, huge, tiny, big, small, tall, short,

3)       shape (รูปร่าง): round, square, triangle, oval

4)       age (อายุ):    new, old, older, young, younger

5)       colour (สี):         brown, dark blue, white, black, green, red

6)       origin (สัญชาติ):   Japanese, Thai, English, Chinese, American

7)       material (วัสดุ, อุปกรณ์):       metal, diamond, cotton, wool,

8)       purpose (จุดมุ่งมาย):        selling, to sell, cleaning, walking,

มีสูตรท่องจำคือ:
โอ้ ใหญ่ เชพ หนุ่ม ขาว โอ้ป้ป้า ทอง ขาย ลองท่องแบบนี้ดูแล้วลองจินตนาการณ์ด้วยว่าเราเดินไปเจอหนุ่มโอ้ปป้าชาวเกาหลีหุ่นดีตัวใหญ่ผิวขาวกำลังยืนขายทอง
ลองหลับตาแล้วจินตนาการณ์ดูนะคะ เรียงลำดับเหตุการณ์ด้านล่างเลย (เวลาแปลภาษาอังกฤษให้แปลจากหลังมาหน้า)

 

โอ้ = Opinion แปลว่า ความเห็น เช่น สวย น่าเกลียด แย่ เยี่ยม

 

ใหญ่ =  Size แปลว่า ขนาด เช่น ใหญ่ เล็ก สูง เตี้ย

 

เชพ = Shape แปลว่า รูปร่าง เช่น กลม เหลี่ยม

 

หนุ่ม = Age แปลว่า อายุ เช่น แก่ หนุ่ม ใหม่ เก่า

 

ขาว = Colour แปลว่า สี เช่น  ขาว ดำ เขียว แดง

 

โอ้ปป้า= Origin แปลว่า แหล่งกำเนิด หรือถิ่นกำเนิด เช่น  ไทย อังกฤษ จีน เกาหลี

 

ทอง = Material แปลว่า วัสดุ เช่น เหล็ก ไม้ ทอง หิน

 

ขาย = Purpose แปลว่า วัตถุประสงค์ เช่น เพื่อซื้อขาย เพื่ออวดอ้าง เพื่อการดำรงชีวิต เพื่อการลงทุน

ประโยคบอกความรู้สึกในภาษาอังกฤษ 

 

ประโยคบอกความรู้สึก Adjective

คำศัพท์ภาษาอังกฤษกลุ่มนี้สามารถบอกความรู้สึก วลีความรู้สึก ประโยคบอกความรู้สึก ภาษาอังกฤษ Feeling หรือ Emotion ได้ ครูได้รวบรวมคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องไว้ด้านล่างลองนำไปใช้ดูเด้อ

รูปแบบที่ใช้อธิบายความรู้สึก

  • A: Subject + feel + adj.
    Ex: I feel amazing. =ฉันรู้สึกยอดเยี่ยมมาก
  • B: Subject + V.to be + adj.
    Ex: He is angry at me. = เขาโกรธให้ฉัน

เป็นยังไงกันบ้างคะ พอจะร้องอ๋อ เข้าใจเรื่องคำคุณศัพท์ขึ้นมาบ้างมั้ยคะ
เพื่อเป็นการทบทวน ครูขอแนะนำให้ดูวีดีโอทบทวนบทเรียนในหัวข้อเรื่อง เรียนรู้เกี่ยวกับคำคุณศัพท์ และการเรียงคำคุณศัพท์
ด้านล่างกับครูพี่กรีซเลยนะคะ

แล้วเจอกันในบทเรียนต่อไป See you again next time! Bye!

 

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การเขียนเรียงความ

เทคนิคการเขียนเรียงความง่าย ๆ ที่จะช่วยถ่ายทอดความคิดให้เป็นขั้นตอน

การเขียนเรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่มีสำคัญมาก เพราะเป็นการถ่ายทอดความคิดให้ออกมาอยู่ในรูปของตัวอักษร จะมีวิธีเขียนอย่างไรบ้างนั้น บทเรียนในวันนี้จะทำให้น้อง ๆ มีความรู้ความเข้าใจถึงวิธีการเขียนเรียงมากขึ้น จะเป็นอย่างไรนั้น ไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ     เรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่แสดงออกถึงความรู้สึกนึกคิด ความเห็น ความเข้าใจของผู้เขียน มีรูปแบบและวิธีการเขียนที่มีแบบแผน เพื่อถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นตัวอักษรให้น่าอ่าน และยังเป็นพื้นฐานของการเขียนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความหรือนวนิยายอีกด้วย โดยประเภทของการเขียนเรียงความมีดังนี้ 1. เรื่องที่เขียนเพื่อความรู้ 2. เรื่องที่เขียนเพื่อความเข้าใจ

Profile where + preposition P6

การใช้ประโยค Where’s the + (Building) + ? It’s + (Preposition Of Place)

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับ ประโยค การถามทิศทาง แต่เอ้ะ Where is the building? แปลว่า ตึกอยู่ที่ไหน ประโยคนี้เป็นการถามทางแบบห้วนๆ ที่ใช้กับคนที่เราคุ้นชินหรือคนที่เรารู้จัก แต่หากนักเรียนต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องถามกับคนแปลกหน้าโดยเฉพาะฝรั่ง คงต้องมาฝึกถามให้สุภาพมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการเกริ่นขึ้นก่อนที่เราจะถามนั่นเองค่ะ ซึ่งนักเรียนที่รักทุกคนได้เรียนรู้ในบทเรียนนี้นะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย รูปแบบการถามทิศทาง   โครงสร้างประโยคถามแบบตรงๆ (Direct Question) “

nokAcademy Profile_Asking and telling time by

การบอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Telling time in English)

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม. 1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวีการ “บอกเวลาในภาษาอังกฤษ หรือ Telling time in English กันค่ะ” ไปลุยกันเลย   บทนำ   ในบทเรียนนี้ครูขอยกตัวอย่างการบอกเวลาที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปใน 2 รูปแบบ ตามที่มาของ Native English หรือ ภาษาอังกฤษของเจ้าของภาษานะคะ 

NokAcademy_ม5 Relative Clause

การเรียนเรื่อง Relative Clause

สวัสดีค่ะนักเรียนม. 5 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปดู Relative clause หรือ อนุประโยคในภาษาอังกฤษ ที่ทำหน้าที่เหมือนกันกับคำคุณศัพท์ (Adjective) ซึ่งมีหน้าที่ขยายคำนามที่อยู่ข้างหน้า  และจะใช้ตามหลัง Relative Pronoun เช่น  who, whom, which, that, และ whose แต่สงสัยมั้ยคะว่าทำไมต้องเรียนเรื่องนี้ ลองดูตัวอย่างประโยคด้านล่างแล้วจะร้องอ๋อมากขึ้น พร้อมข้อสอบ Error

M5 Past Passive

Passive Voice ในอดีต

  Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.5 ทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง Past Passive กันค่ะ ก่อนอื่นจะต้องไปรู้ความหมายกันก่อนน๊าว่ามันคืออะไร พร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลด   ความหมาย Past หมายถึง อดีต ส่วน Passive มาจาก Passive voice หมายถึง ประโยคที่ประธานถูกกระทำ รวมแล้วหมายถึงการใช้ Passive

บทเสภาสามัคคีเสวก

บทเสภาสามัคคีเสวก ที่มาของกลอนเสภาอันทรงคุณค่า

บทเสภาสามัคคีเสวก   เมื่อเห็น บทเสภาสามัคคีเสวก ครั้งแรก เชื่อว่าต้องมีน้อง ๆ หลายคนต้องเผลออ่านคำว่า เสวก เป็น (สะ-เหวก) แน่ ๆ เลยใช่ไหมคะ แต่ที่จริงแล้วคำว่าเสวกนั้นต้องอ่านให้ถูกต้องว่า (เส-วก) ที่มีความหมายถึงผู้ใกล้ชิด เป็นยศของข้าราชการในราชสำนักนั่นเองค่ะ บทเรียนภาษาไทยในวันนี้ไม่เพียงแต่จะสอนอ่านให้ถูกต้อง แต่จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของเรื่องย่อวรรณคดีไทยอย่างบทเสภาสามัคคีเสวกกันอีกด้วย โดยจะเป็นเรื่องราวแบบไหน มีลักษณะคำประพันธ์และเรื่องย่ออย่างไรบ้าง เราไปศึกษาเรื่องนี้พร้อม

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1