สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ V. to do ในรูปแบบของ Present Simple Tense หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลดเด้อ Let’s go!
V. to do คืออะไร
ปรกติแล้วคำว่า do นั้นแปลว่าทำ แต่เมื่ออยู่ในประโยคแล้ว V. to do มีหน้าที่เพียงเน้นย้ำความสำคัญ ของกริยานั้นๆ หรือบอกเวลาในประโยคซึ่งถ้านักเรียนเจอ did ก็ให้รู้ไว้เลยว่า V. to do ตัวนี้ทำหน้าที่เน้นความเป็นอดีต ซึ่งกริยาที่ตามหลัง V. to do จะต้องเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ผัน
อย่าลืมน๊า ซึ่ง V. to do ถูกนำมาใช้ใน Present Simple Tense ได้ทั้งในประโยครูปแบบบอกเล่า คำถาม และปฏิเสธ ซึ่งเราจะได้เรียนรู้ในบทเรียนนี้น๊า
รู้จักกับ Present Simple Tense
Present แปลว่า ปัจจุบัน ดังนั้น Present Simple Tense จึงเป็นประโยคที่มี โครงสร้างแบบง่าย ๆ ธรรมดา ที่พูดถึงเหตุการณ์ในปัจจุบัน (Present) นั่นเองค่า
โดยมีลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
- ใช้เพื่อพูดถึงความเป็นจริงในชีวิตประจำวัน หรือความเป็นจริงตามธรรมชาติ กฎกติกา สูตรคณิตศาสตร์ เช่น
The earth moves around itself.
แปล โลกหมุนรอบตัวเอง
Two plus two equals four.
สองบวกสองเท่ากับสี่
Time flies.
เวลาผ่านไป
- ใช้เพื่อพูดถึงเหตุการณ์เกี่ยวกับลักษณะ นิสัย กิจวัตรประจำวัน เช่น
I eat rice every morning.
แปล ฉันกินข้าวทุกเช้า
Janny walks her dog to the park every weekend.
เจนนี่พาสุนัขไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะทุกๆ วันหยุดสุดสัปดาห์
การแต่งประโยคคำถามด้วย Verb to do
Verb to Do ขึ้นต้นประโยคแบบ Yes/No Questions หรือประโยคที่ต้องการคำตอบชัดเจนว่า Yes (ใช่) หรือ No (ไม่)
Verb to Do นั้นทำหน้าที่เป็นกริยาช่วย (Auxiliary Verb) โดยจะใช้ร่วมกับกริยาหลัก (Main Verb) เพื่อสร้างประโยคคำถาม
ประโยคปฏิเสธ หรือเพื่อเน้นย้ำความสำคัญของกริยาหลักนั้นๆ นั่นเองจร้า
โครงสร้างประโยคคำถาม:
Do/Does/Did + Subject + V .infinitive + Object/Complement?
- Simple Present Tense ใช้ Do / Does
Do you like playing a football?
= นายชอบเล่นฟุตบอลมั้ยDoes Jeena love Tom?
= จีน่ารักทอมมั้ย
- Past Tense ใช้ Did กับเหตุการณ์ที่เป็นอดีต
Did you go to school yesterday?
แปล เมื่อวานคุณไปโรงเรียนมั้ย
รูปประโยคของ Present Simple Tense
- ประโยคบอกเล่า
โครงสร้างของประโยคบอกเล่า : Subject + Verb.1 + Object + (คำบอกเวลา)
ทั้งนี้คำกริยาช่องที่ 1 นั้นจะมีการเติม s หรือ es ถ้าหากประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ (He, She, It) แต่ถ้าประธานเป็น I, You หรือประธานพหูพจน์ (You (หลายคน), We, They) ให้คงรูปคำกริยานั้น ๆ ไว้เช่นเดิม เช่น
I do like Lisa.
แปล ฉันชอบลิซ่าจริงๆ
***do like คือการนำ V. to do มาเน้นขยายกริยา like ให้มีความมายมากขึ้นในประโยค เพื่อให้รู้ว่า ชอบจริงๆนะ (“do like”)Tiffany wakes up at 5 a.m. every day.
แปล ทิฟฟานี่ตื่นนอนตอนตี 5 ทุกวัน
They play at the park every day.
แปล พวกเขาเล่นกันทุกวันที่สวนสาธารณะ
***They เป็นประธานเอกพจน์ กริยาที่ตามมาจึงไม่เติม s/es
ข้อสังเกต : หลักการเติม s,es นั้นง่ายนิดเดียว คือ คำกริยาที่ลงท้ายด้วย sh, ch, o, s, ss, x, z ให้เติม es
เมื่อประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ (He, She, It) เช่น
ตัวอย่างอื่นๆอีก เช่น
She washes the dishes every day.
แปล หล่อนล้างจานทุกวัน
- ประโยคคำถาม
โครงสร้างของประโยคคำถามใน Present Simple Tense มีสองรูปแบบคือ
- แบบที่ 1 : Verb to be + Subject + Object/Complement + (คำบอกเวลา) ? เช่น
ประโยคบอกเล่า: Namthip is my best friend.
น้ำทิพย์คือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันประโยคคำถาม: Is she your best friend?
แปล หล่อนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอเหรอ
- แบบที่ 2 : Verb to do + Subject + Verb.1 + Object + (คำบอกเวลา)?
ประโยคบอกเล่า:
We go walking at the park often.
พวกเราไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะบ่อยๆ
VS
ประโยคคำถาม: Do we go walking at the park often?
แปล พวกเราไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะบ่อยๆหรือเปล่าตอบ: Yes, we do. หรือ No, we don’t. นั่นเองจร้า
- ประโยคปฏิเสธ (Negative sentence)
- แบบที่ 1 : Subject + Verb to be + not + Object/Complement + (คำบอกเวลา)
Ex: I am not your girlfriend.
แปล ฉันไม่ใช่แฟนของคุณ
- แบบที่ 2 : Subject + Verb to do (do, does)not + Verb.1 + Object + (คำบอกเวลา)
Situation: At the coffee shop
Jane: What do you want to order Beam?
เจน : จะสั่งอะไรบีมBeam: I want to have a glass of orange juice please.
บีม: ขอน้ำส้มสักแก้วจร้าJane: Okay, can we have two pieces of cake and a grass of orange juice please please?
เจน: โอเค ขอเค้กสองชิ้นกับน้ำส้มคั้นได้ไหมThe waiter: Of course, please wait for 15 minutes.
พนักงานเสิร์ฟ: แน่นอนครับ กรุณารอ 15 นาทีนะครับ
คำบอกเวลาใน Present Simple Tense
Adverbs of Frequency
Hardly = แทบจะไม่เคย
Never= ไม่เคย
Rarely = แทบจะไม่เคย
Seldom= นาน ๆ ครั้ง
Sometimes= บางครั้ง
Always = สม่ำเสมอ, เป็นประจำ
Frequently = บ่อย ๆ
Often = บ่อย ๆ
Usually = โดยปกติ
ตัวอย่างการถาม-ตอบโดยใช้ V. to do
ตัวอย่างประโยคในการถามอาชีพเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้ได้บ่อย
Questions (ถาม):
What do you do? หรือ What do you do for a living?
= คุณทำงานอะไร
ตอบ:
I’m a student. = ฉันเป็นนักเรียน
I’m a teacher. = ฉันเป็นครู
เพิ่มเติม: ตามโครงสร้าง: I am a + อาชีพ แต่ถ้าอาชีพขึ้นต้นด้วยสระ a, e, I, o จะเปลี่ยนจาก a เป็น an
ตารางคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาชีพ
คำศัพท์ | แปล |
engineer | วิศวกร |
actor | นักแสดง |
YouTuber | นักยูทูบเบอร์ |
Gamer | เกมเมอร์ |
air hostess, flight attendant | พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน |
gardener | คนสวน
|
photographer | ช่างถ่ายรูป |
pilot | นักบิน
|
singer
|
นักร้อง |
soldier | ทหาร
|
freelancer | ฟรีแลนซ์/ ทำงานอิสระ |
ตัวอย่างเช่น
Q1: What country do you study?
แปล คุณเรียนที่ประเทศอะไร
B: I study in Thailand.
= ฉันเรียนที่ประเทศไทย
B: Why does he like a Thai woman?
แปล ทำไมเขาถึงชอบผู้หญิงไทย
He likes a Thai woman because a Thai woman is caring.
= เขาชอบผู้หญิงไทยเพราะผู้หญิงไทยเอาใจเก่ง
อย่าลืมดูวีดีโอทบทวนบทเรียนในหัวข้อ “การใช้ V. to do ในรูปแบบของ Present Simple Tense กันด้วยเด้อ” เลิฟๆ
สุดท้ายนี้ อย่าลืมกดปุ่มเพลย์แล้วไปเรียนให้สนุกกันได้ที่วีดีโอด้านล่างเด้อ
Have a wonderful day for all of you! ขอให้เป็นวันที่สุดยอดสำหรับทุกคนน๊า
See you next time! แล้วเจอกันใหม่