สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ V. to be + ร่วมกับ Who/ What/Where + -Like + infinitive ซึ่งเป็นโครงสร้างที่สับสนบ่อย แต่ที่จริงแล้วง่ายมากๆ
ไปลุยกันเลยจ้า Let’s go
ความหมาย
Verb to be แปลว่า เป็น อยู่ คือ
- ถ้าหลัง verb to be เป็นสถานที่ แปลว่า อยู่
- ถ้าหลัง verb to be เป็นคำนามทั่วไป แปลว่า เป็น, คือ
- ถ้าหลัง verb to be เป็นคำคุณศัพท์จะไม่มีความหมายค่า
ประเภทของ Verb to be
เจ้า Verb to be สามารถแปลงร่างออกได้เป็น 7 คำด้วยกันนะคะ
ได้แก่
be, is, am, are
was, were
been
Verb to be ทั้ง 7 ตัวนี้ แปลว่า เป็นอยู่คือเหมือนกัน แต่หลักการใช้ไม่เหมือนกันซึ่งจะขึ้นอยู่กับ tense นะคะ
ลองดูประโยคต่อไปนี้
× Lisa be an artist.
√ Lisa is an artist.
ลิซ่าเป็นศิลปิน
หรือ การใช้ was, were ดังนี้
× I be just a little girl in 1998.
√ I was just a little girl in 1998.
ฉันเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ในปี 1998
การใช้ is/ am/ are
นักเรียนสามารถใช้ is/ am/ are ในประโยค Present simple tense และ
Present continuous tense (ปัจจุบันกาล) ได้เลยค่ะ
แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องใช้ให้สอดคล้องกับประธานของประโยคด้วยนะคะ
ตัวอย่างเช่น
I am a girl.
ฉันเป็นเด็กผู้หญิงJack is a singer.
แจ็คเป็นนักร้องWe are swimming.
พวกเรากำลังว่ายน้ำWe are just friends.
พวกเราเป็นแค่เพื่อนกัน
การใช้ was/ were
นักเรียนสารมารถใช้ กริยา was และ were ในประโยค Past simple tense และ Past continuous tense (อดีตกาล) ได้เลยค่า โดยต้องคำนึงถึงความสอดคล้องของประธานกับกริยาด้วยนะคะ เช่น
I went to England last year.
ฉันไปอังกฤษเมื่อปีที่แล้ว
She was in the car when he called her.
เธออยู่ในรถเมื่อเขาโทรหาเธอ
Jennie was singing a song while her mother was calling her.
เจนนี่กำลังร้องเพลงขณะที่แม่ของเธอกำลังโทรหาเธอ
Daniel was driving a car when the accident happened.
แดเนียลกำลังขับรถอยู่ตอนที่เกิดอุบัติเหตุ
ตัวอย่างประโยค
ประโยคบอกเล่า: Lisa is singing at the concert right now.
ลิซ่ากำลังร้องเพลงที่คอนเสิร์ตตอนนี้
ประโยคคำถาม: Is Lisa singing at the concert right now?
ตอนนี้ลิซ่าร้องเพลงที่คอนเสิร์ตหรือเปล่าคะอธิบายเพิ่มเติม: Lisa เป็นประธาน, is เป็น V. to be, singing มาจาก sing + ing แปลว่า กำลังร้องเพลง
ทบทวนคำนาม
คำนามในภาษาอังกฤษจะมี 2 รูป คือเอกพจน์และพหูพจน์
คำนามเอกพจน์ (singular noun) คือคำนามที่แสดงถึงสิ่งที่มีจำนวนหนึ่งหน่วย ซึ่งก็คือคำนามรูปปกติทั่วไป เช่น a book, a pencil, a girl ส่วนคำนามพหูพจน์ (plural noun) คือคำนามที่แสดงถึงสิ่งที่มีจำนวนมากกว่าหนึ่งหน่วย หรือพูดอีกแบบก็คือคำนามที่แสดงถึงสิ่งที่มีจำนวนตั้งแต่สองสิ่งขึ้นไปนั่นเองค่ะ
การใช้ Who/What/Where
ทบทวน Wh-Questions เมื่อต้องถามคำถามอะไรก็ตามที่ไม่ต้องการคำตอบ Yes หรือ No แบบตรงประเด็น เราจะเรียกคำถามประเภทนี้ว่า Question words หรืออีกชื่อในวงการคือ Wh-Questions ซึ่งได้แก่คำถามที่มักจะขึ้นต้นด้วย Wh- เช่น What, When, Where , Why, Whose, Which, Whom, Who
***เป็นกลุ่มคำถามที่ต้องการ คำตอบ เจาะจงอธิบาย ขยายความ
- Who = ใคร
นักเรียนสามารถใช้โครงสร้าง Who + do+ you + like to + V.inf ได้ค่ะ
จะแปลว่า ใครที่คุณต้องการ…
เช่น
Who do you like to travel with?
คุณต้องการจะไปเที่ยวกับใคร
- What = อะไร
ใช้ขึ้นต้นคำถามที่ต้องการถามใช้ถามเกี่ยวกับสิ่งของ ชื่อ วันที่ เวลา สิ่งที่รักที่ชอบ ใช้ถามได้ทั้ง
อดีต ปัจจุบัน และอนาคต
What’s the weather like today?
อากาศวันนี้เป็นยังไงบ้าง
- Where = ที่ไหน
ใช้ขึ้นต้นคำถามที่ต้องการถามใช้ถามเกี่ยวกับสถานที่
Where do you like to go?
คุณต้องการจะไปที่ไหน
การใช้ Like VS Likely
like กับ likely ความหมายไม่ได้เหมือนกันนะคะนักเรียน การใช้แตกต่างไปกับหน้าที่ของคำค่ะ ลองไปดูความหมายกันจ้า
- ในความเป็น Adjective หรือคำคุณศัพท์ จะขยาย Noun อยู่หน้า noun / หลัง v.to be
- ในความเป็น Adverb หรือคำวิเศษณ์ จะขยาย Verb จะสามารถอยู่ได้หลายที่ในประโยคนะคะ
ดังตัวอย่างเช่น
It is likely to rain.
มันมีแนวโน้มว่าฝนจะตก(likely เป็น Adj. ตามหลัง v.to be)
She is like my mother.
หล่อนเป็นเหมือนแม่ของฉัน(like เป็น Adj. แปลว่า เหมือน)
Like to + V.inf
To + infinitive แปลว่า เพื่อที่จะ ส่วนหน้าที่ของ To+ Infinitive นั้นมีเยอะมากค่ะ เช่น สามารถทำหน้าที่เป็นคำนาม มักเจอในตำแหน่งประธานของประโยค กรรมของประโยค หน้าที่อื่นๆ เช่น ทำหน้าที่เป็นคำขยาย ขยายคำนาน (Noun) หรือ คำคุณศัพท์ (Pronoun) ทำหน้าที่เป็นคำขยายกริยา (adverb)
แต่ถ้าจะบอกว่า like+V.ing จะแปลว่า ชอบการ…ค่ะ
ดังตัวอย่างเช่น
I like travelling.
ฉันชอบการท่องเที่ยวShe likes cooking.
เธอชอบการทำอาหาร
เมื่อเราใช้ร่วมกับ who จะสามารถแต่งประโยคได้ดังนี้ค่ะ
Who likes to play football?
ใครชอบเล่นฟุตบอลเหรอI like to go to the mall.
ฉันชอบไปห้าง
She likes to sing a song.
หล่อนชอบร้องเพลง
การใช้ Like หลัง V. to be จะแปลว่า ลักษณะ ค่ะ มักใช้ร่วมกับ to
ครูขอยกตัวอย่าง การใช้ Wh-Questions ร่วมกับ กริยา Verb to be เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพและความแตกต่าง ของการถามคำถามตระกูล “Wh-Questions” เมื่อจะต้องนำไปใช้ในบริบทที่แตกต่างกันนะคะ ดังตัวอย่างด้านล่างเลยจ้า
- What is … like?
เพื่อขอคำอธิบายสิ่งต่างๆ หรือคนเกี่ยวกับ รูปลักษณ์ ลักษณะและ พฤติกรรม
Jane: What’s her new house like?
เจน: บ้านใหม่ของเธอมีลักษณะยังไงTom: It’s modern white house.
ทอม: เป็นบ้านสีขาวทรงโมเดิร์นครับ
อธิบายเพิ่มเติม:
เราจะไม่ใช้ How is like…มีใช้ขอข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ
Alisa: Have you ever had Pad Thai?
คุณเคยกินผัดไทยหรือเปล่าJennie: No. What’s it like?
ไม่เลย มันเป็นยังไงอ่ะAlisa: Well, it’s a fried noodle in a special Thai sauce.
มันคือเส้นผัดปรุงซอสแบบไทยๆสูตรพิเศษจ้าผิด: How is it like?
ส่วน Who และ where เมื่อใช้ร่วมกับ like to เราจะสามารถแต่งประโยคได้ดังนี้ค่ะ
- Who + V. to be + likely + to…?
ใครมีแนวโน้มที่จะ
เช่น
Who is likely to come with us?
ใครน่าจะไปกับเราด้วย (บอกแนวโน้ม)
Where do you like to…?
คุณอยาก…ที่ไหนWhere do you like to go?
คุณอยากไปที่ไหนWhere would you like to go?
คุณต้องการจะไปที่ไหนคะ
***ใช้ would เพื่อถามแบบสุภาพ นะคะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ พอจะเข้าใจ การใช้ V. to be + ร่วมกับ Who/ What/Where + -Like + infinitive กันขึ้นมาบ้างมั้ยเอ่ย
นักเรียนสามารถรับชมคลิปวิดีโอเรียนภาษาอังกฤษฟรีๆย้อนหลังได้ที่ลิงค์ด้านล่างเลย
คลิกปุ่มเพลย์เพื่อรับชมคลิปวิดีโอได้ที่ด้านล่างเลยจ้า
Have fun!