การใช้ Passive Voice และ Active Voice ในรูปปัจจุบัน 

Passive voice + Active Voice

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูการใช้ Passive Voice และ Active Voice ในรูปปัจจุบัน กัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลดเด้อ

 

ความแตกต่างของ Passive Voice VS Active Voice

 

Passive voice + Active Voice (2)

 

 

Passive Voice คือประโยคที่เน้นกรรม เน้นว่าใครถูกทำ 

Active Voice คือประโยคที่เน้นประธาน เน้นว่าใครทำอะไร

Active voice

 

Passive voice + Active Voice(1)

 

ความหมาย

คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยา  เช่น

Dr. James vaccinates a boy.
หมอเจมส์ฉีดวัคซีนให้เด็กหนุ่ม

Daniel and Jonathan often bike to school.
แดเนียลกับโจนาธานมักขี่จักรยานไปโรงเรียน


Jessica and Jennifer buy second-handed shoes.
เจสสิกาและเจนนิเฟอร์ซื้อรองเท้ามือสอง

การสร้างประโยค Passive Voice

 

  1. เปลี่ยนกรรม ของประโยค Active ไปเป็นประธานของประโยค Passive
  2. ผัน V. to be ตามประธาน ในบทนี้เราจะเน้นที่ เวลาในรูปปัจจุบัน  ตามโครงสร้าง S + V. to be  (is, am, are) S. = I, you, we, they ใช้ “are”/
    S. = He, She, It ใช้ “is”/ S. = I ใช้กับ “am”
  3.  เปลี่ยน คำกริยาแท้ ให้เป็น Past Participle (V.3) อันนี้ต้องไปท่องกริยา3 ช่อง เพิ่มเติมจร้า
  4. นำประธานของ Active ไปเป็นกรรมของ Passive โดยวางไว้หลัง by เพื่อเน้นผู้กระทำ แต่เราสามารถละไว้ได้

ตัวอย่าง
Active: A chef slashes salmons into pieces.
แปล เชฟแล่ปลาแซลมอนเป็นชิ้นๆ

Passive: Salmons are slashed into pieces.
แปล แซลมอนถูกแล่เป็นชิ้นๆ

 

ถ้าในประโยคมีกรรมสองตัวคือ กรรมตรง (Direct Object) เป็นสิ่งของ และ กรรมรอง (Indirect Object) เป็นคน เมื่อเปลี่ยนเป็นประโยค Passive มักนำกรรมรอง (คน) มาเป็นประธาน แต่ถ้าจะนำกรรมตรง (สิ่งของ) มาเป็นประธานจะต้องใส่ to ที่หน้ากรรมรอง (คน) ท่องว่า
กรรมตรงของ ต้อง (กรรม)รองคน”

ตาราง: Active Voice VS Passive Voice

 

Passive voice + Active Voice (4)

 

Passive voice เป็นเรื่องที่เจอบ่อยมากทั้งในชีวิตประจำวันและในข้อสอบในส่วนของ Error และเติมคำก็มักนำมาออกเยอะมากๆ ถ้าเราจำโครงสร้างประโยค Passive Voice ได้ และนำมาใช้อย่างถูกต้องก็จะทำให้ภาษาอังกฤษของเราปังมากๆจร้า

Tense and Voice

Structure

 Present simple   Active   S + V1 (-s, -es)
  Passive   S +  is/am/are + V.3
 Present continuous   Active   S + V. to be + V.ing
  Passive   S + is/am/are + being + V.3
  Present perfect   Active   S + have/has + V.3
  Passive   S + have/has+ been + V.3
  Present perfect continuous   Active   S + have/has + been + V.ing
  Passive   S + have/has + been + being + V.3
  Past simple   Active   S + V.2
  Passive   S + was/were + V.3
  Past continuous   Active   S + was/were + V.ing
  Passive   S + was/were + being + V.3
  Past perfect   Active   S + had + V.3
  Passive   S + had + been + V.3
  Past perfect continuous   Active   S + had + been + V.ing
  Passive   S + had + been + being + V.3
  Future simple   Active   S + will +V. Infinitive
  Passive   S + will + be + V.3
  Future continuous   Active   S + will + be + V.ing
  Passive   S + will + be + being + V.3
  Future perfect   Active   S + will + have + V.3
  Passive   S + will + have been + V.3
  Future perfect continuous   Active   S + will have + been + V.ing
  Passive   S + will have + been + being + V.3

Passive Voice

 

Passive voice + Active Voice (6)

 

Passive Voice (แพ็ซซิฝ ว็อยซ) หมายถึงประโยคที่เน้นกรรม โดยการนำโครงสร้างผู้ถูกกระทำขึ้นต้นประโยค และหากว่าต้องการเน้นผู้กระทำให้เติม  “by + ผู้กระทำ” ท้ายประโยค แต่ว่าเราสามารถละ by ไว้ได้น๊า

หลักการใช้ Passive Voice

 

  1. เน้นไปที่ผู้รับผลของการกระทำนั้นๆ ก็คือประธานของประโยคนั่นเอง เช่น

Active: Joey washes the dishes.
โจอี้ล้างจาน

VS 

Passivce: The dishes are washed by Joey.

จานถูกล้างโดยโจอี้

 

  1. ไม่เน้นผู้กระทำเพราะไม่รู้ว่าผู้กระทำคือใคร

Active: Someone delivers a Papaya Salad to the customers.

ใครบางคนส่งส้มตำให้ลูกค้า

VS

Passive: A Papaya Salad is delivered to the customers.

ส้มตำถูกส่งลูกค้า
***จะเห็นได้ว่า ไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งเพราะว่าประธานเดิมของประโยค คือ  “Someone”

3. เน้นผู้กระทำด้วยการเติม by + ชื่อผู้กระทำ เช่น

Active: Tommy cooks a homemade pizza.
ทอมมี่ทำพิซซ่าโฮมเมด

VS

Passive: A homemade pizza is cooked by Tommy.
พิซซ่าโฮมเมดถูกทำโดยทอมมี่

 

ทริคดีๆ:

นอกจากนี้เราสามารถใช้  “Passive voice” ในการเขียนแบบวิชาการทางการหรืองานเขียนทางด้านวิทยาศาสตร์
ซึ่งพบได้ในบทความ หนังสือพิมพ์ วิจัย และผลงานทางด้านวิชาการเป็นส่วนใหญ่ ครูขอยกตัวอย่างเช่น

There have been more confirmed cases of COVID-19 with 68,219 deaths, are reported to WHO.

แปล: WHO ได้รับรายงานผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น เสียชีวิต 68,219 ราย
***ประธาน “cases” กริยา “are” กริยาช่อง3 “reported”

 

Passive Modals

Passive voice + Active Voice (7)

 

ตัวอย่างการใช้ Passive voice กับ โครงสร้าง “Modal verb + be +V.3”

Daniel wants to be massaged.
แดเนียลอยากนวด

Tom may be called for a shift.
ทอมอาจถูกเรียกให้เข้ากะ

 

เป็นยังไงกันบ้างคะ พอจะเข้าใจ เรื่อง การใช้ Passive voice และ Active voice” มากขึ้นมามั้ยเอ่ย ถ้าเกิดว่านักเรียนยังมีข้อสงสัยสามารถทบทวนบทเรียนเพิ่มเติมได้ที่วีดีโอด้านล่างเลยนะคะ  และที่สำคัญเมื่อเราใช้รูปแบบปัจจุบัน V. to be จะต้องเป็น is, am, are เท่านั้นน๊า

กดปุ่มเพลย์เพื่อทบทวนบทเรียนกันโลดจร้า

Take care guys!

ดูแลตัวเองด้วยน๊า

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

Let Me Introduce Myself: พูดเกี่ยวกับตัวเองแบบง่าย

พี่เชื่อว่าพอเปิดเทอมทีไรสิ่งที่เราต้องทำนั่นก็คือ การแนะนำตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นทั้งในวิชาภาษาอังกฤษ หรือวิชาอื่นๆ นอกจากการแนะนำตัวเองแล้ว น้องๆ อาจจะต้องพูดบรรยายเกี่ยวกับตัวเองอีกด้วย วันนี้เราจะมาดูกันว่าเราจะสามารถพูดและบรรยายเกี่ยวกับตนเองให้น่าสนใจได้อย่างไรบ้าง

wh-questions + was, were

การใช้ Wh-questions  with  was, were

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง “การใช้ Wh-questions  with  was, were (Verb to be in the past)” ไปลุยกันเลยจร้า Sit back, relax, and enjoy the lesson! —นั่งพิงหลังชิวๆ ทำใจสบายๆ แล้วไปสนุกกับบทเรียนกันจร้า—  

ตัวอย่างโจทย์ปัญหาสัดส่วน

บทความนี้เราจะได้เรียนรู้วิธีการในการหาค่าตัวแปรในการใช้สัดส่วน สามารถมารถนำไปประยุกต์ใช้กับการแก้โจทย์ปัญหาในชีวิตจริงได้ พิจารณาสิ่งที่ต้องการแสดงการเปรียบเทียบโดยการเขียนเป็นอัตราส่วนสองอัตราส่วนอย่างเป็นลำดับและหาค่าของตัวแปรได้

โจทย์ปัญหาการหารทศนิยม

บทความนี้เป็นเรื่องการวิเคราห์โจทย์ปัญหาการหารทศนิยม ซึ่งโจทย์ที่นำมาเป็นตัวอย่างจะประกอบด้วยการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา การเขียนประโยคสัญลักษณ์ รวมไปถึงการสดงวิธีทำ หวังว่าน้องๆจะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ได้จริงกับโจทย์ปัญหาในห้องเรียน

ความสัมพันธ์ที่ “รู้จักฉัน รู้จักเธอ” ของเศษส่วนและทศนิยม

เศษส่วนและทศนิยมมีความสัมพันธ์กันคือสามารถเขียนเศษส่วนให้อยู่ในรูปของทศนิยมหรือเขียนทศนิยมให้อยู่ในรูปของเศษส่วนได้โดยค่าของเศษส่วน และทศนิยมนั้นจะมีค่าเท่ากัน บทความนี้จะอธิบายหลักการความสัมพันธ์ของเศษส่วนและทศนิยมพร้อมวิธีคิดที่เห็นภาพ ดังนั้นสิ่งที่น้อง ๆจะได้รับจากบทความนี้ คือการเปลี่ยนเศษส่วนให้เป็นทศนิยมและการเปลี่ยนทศนิยมให้เป็นเศษส่วนแล้วยังมีเทคนิคการสังเกตง่ายๆที่จะสามารถทำให้เราทำได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องยิ่งขึ้น

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1