สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม. 1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาเรียนรู้เกี่ยวกับ การใช้รูปประโยคคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ ที่เจอบ่อยและการใช้ Can, Could, Should กันนะคะ
ไปลุยกันเลย
มารู้จักกับประโยคคำสั่ง (Imperative sentence)
รูปแบบและโครงสร้างประโยคคำสั่ง Imperative sentence
- Imperative sentence ในรูปแบบประโยคบอกเล่าจะ ใช้ Verb base form (V.1) ขึ้นต้นประโยคแล้วตามด้วยสิ่งที่จะสั่งให้ทำ หรืออาจใช้ Verb แค่คำเดียวก็ได้ เช่น
Speak English.
แปลว่า พูดภาษาอังกฤษสิ
Watch out!
แปลว่า ระวังListen up.
แปล ฟังนะSit here.
แปลว่า นั่งตรงนี้
- ใช้ Verb ‘be’ ขึ้นต้นประโยค เช่น
Be on time.
แปลว่า ตรงเวลาด้วยBe a good boy.
แปลว่า จงเป็นเด็กดี
- Imperative sentence ในรูปแบบประโยคปฏิเสธ หากต้องการทำให้เป็นรูปแบบประโยคปฏิเสธ เพียงแค่วาง do not (don’t) หน้าคำกริยา จะได้โครงสร้าง Don’t + V.1 เช่น Don’t eat. = อย่ากิน
- Imperative sentence ที่ขึ้นต้นด้วยกริยา ‘be’ ก็เช่นเดียวกัน เพียงวาง don’t หน้ากริยา be เช่น Don’t be silly. = อย่างี่เง่า
Imperative sentence
ในเชิงขอร้อง
เราสามารถใช้ Imperative sentence ในเชิงขอร้องได้ โดยเพียงเติม Please (กรุณา)
เข้าไปวางไว้หน้าหรือท้ายประโยคก็ได้ เพื่อให้ดูสุภาพขึ้น เช่น
Please give me a chance.
= กรุณาให้โอกาสฉันด้วย
Walk faster, please.
= กรุณาเดินเร็วขึ้นด้วย
ประโยคคำสั่ง(แบบชักชวน)
ประโยคคำสั่งที่ใช้ไนความหมายแบบชักชวนนี้ มีอยู่รูปเดียวคือ Let’s (Let us) เป็นการชักชวน แบบเป็นกันเอง เช่น เพื่อนชวนเพื่อนออกไปกินข้าว พี่ชวนน้องไปเที่ยว เป็นต้น โดยที่ผู้ถามอาจจะไม่ต้องการคำตอบแต่เป็นเพียงการชวนไปทำอะไรบางอย่าง อย่างมีจุดมุ่งหมาย จะเรียกว่าสั่งแบบชวนแบบนั้นก็ได้ค่ะ ซึ่ง มีโครงสร้าง ดังนี้นะคะ
โครงสร้างประโยคคำสั่ง (แบบชักชวน)
” Let’s + V. infinitive…”
|
ตัวอย่าง
Let’s go to the canteen.
ไปโรงอาหารกันเถอะ
เพิ่มเติม: บางประโยคอาจจะมีคำว่า Shall we? ต่อท้ายด้วยเพื่อเป็นการชักชวน
แปลว่า ไปกันเถอะ(ป้ะ) เข้ามาด้วย ซึ่งใช้กับเพื่อนหรือการชวนคนสนิท
ประโยคแนะนำ
ประโยคคำแนะนำส่วนใหญ่แล้วจะเจอในรูปแบบของประโยคบอกเล่าซึ่งจะมีความหมายในทางเสนอแนะมากกว่า บางครั้งก็เป็นการให้ความคิดเห็นและแนะว่าควรทำหรือไม่ควรทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งถือเป็นการเสนอแนะโดยตรงมีโครงสร้างดังนี้ค่ะ
ตัวอย่าง
I suggest that you should study more.
ฉันขอเสนอแนะว่า เธอควรเรียนให้มากกว่านี้นะ
I advise we should go to school more early.
ฉันขอแนะนำว่า เราควรไปโรงเรียนเช้ากว่านี้
I propose that we should not skip school.
ฉันขอเสนอว่า เราไม่ควรโดเรียนนะคะ
I ought to help my friend’s homework.
ฉันควรจะ ช่วยเพื่อนของฉันทำการบ้าน
ประโยคคำถามที่ใช้บ่อยในการชักชวน
การชักชวน และการเสนอแนะที่ใช้เป็นรูปแบบคำถามนั้นถือเป็นการเสนอแนะชักชวนทางอ้อมเพื่อแสดงถึงการเกรงใจซึ่งเป็นนิสัยที่คนไทยส่วนใหญ่มีอยู่แล้ว ต้องการคำตอบหรือการตกลงไม่ตกลงจากอีกฝ่ายหนึ่งด้วย ประโยคคำถามที่ใช้มีดังนี้
- ถามแบบรูปประโยค Yes/No Question :
Shall we…………?
เรา………กันดีมั้ย
- ถามแบบรูปประโยค Wh- Questions :
Why don’t we………..?
เรา .. … กันมั้ย
How about……….?
…………….ดีมั้ย
- ถามแบบรูปประโยค Indirect Questions :
I wonder if we…
ฉันไม่ทราบว่า เรา………….มั้ย
ตัวอย่าง:
Shall we catch a bus to school now?
เราไปขึ้นรถบัสไปโรงเรียนกันเถอะ
Shall we read books at the library?
เราไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดกันเถอะ
Why don’t we walk to school?
ทำไมเราไม่เดินไปโรงเรียนกันนะ (หรือ เดินไปโรงเรียนกันดีกว่า)
How about playing a football after school?
เย็นนี้ เล่นฟุตบอลกันเถอะ
I wondered if we should sit with them?
ฉันว่าเราควรไปนั่งกับพวกเขากันเถอะ
การตอบรับ (Accepting)
I’d be delighted to (go).
ฉันเต็มใจที่จะไปมากThat’s a good/ great idea/ What a good idea.
เป็นความคิดที่ดีมากๆThat’s interesting.
น่าสนใจดีYes/ Of course/ Certainly/Absolutely/ Surely
ไปแน่นอน
การตอบปฏิเสธ (Refusing):
I’m afraid I won’t be able to come.
ดิฉันเกรงว่าคงจะไปไม่ได้นะคะSorry, I’d love to but I already had an appointment.
ขอโทษที ฉันก็อยากไปนะ แต่บังเอิญว่าดันฉันมีนัดแล้วอะI really don’t think I can go, and I must say sorry.
ฉันคิดว่าฉันคงจะไปไม่ได้จริงๆค่ะ ต้องขอโทษนะคะ
การใช้ Can VS Could และ Shall VS Should
Can VS Could
- can (V.1) บอกความสามารถในปัจจุบัน ส่วน could บอกความสามารถในอดีต (V.2)
Daniel can fix a bike.
= แดเนียลสามารถซ่อมจักรยานได้Nanny could eat like a horse when she was younger.
= แนนนี่สามารถกินจุได้ตอนที่เธอยังเล็ก
- ใช้ถามเพื่อขออนุญาต ร้องขอบางสิ่งบางอย่าง หรือ เสนอการช่วยเหลือ
แต่ว่า could จะมีความสุภาพมากกว่า can
Can you open the door please?
กรุณาเปิดประตูให้ด้วยCould you please fill in this information?
รบกวนช่วยกรอกข้อมูลนี้ได้ไหมคะ/ครับ?
- ใช้บอกสิ่งที่เป็นไปได้หรือเกิดขึ้น โดย could บอกสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต
มีโครงสร้าง คือ could + have + past participle (V.3)
It can be very easy for him.
= มันง่ายมากสำหรับเขาI could have studied better.
= ฉันสามารถเรียนให้เก่งกว่านี้ได้
Shall/Should
การใช้: ใช้ในการ เสนอแนะ ชี้แนะ เสนอความช่วยเหลือ
- Excuse me teacher, shall I carry your bags for you?
= ขอโทษนะคะครู ให้หนูถือกระเป๋าช่วยมั้ยคะ
อธิบายเพิ่มเติม: ในปัจจุบันไม่ค่อยมีการใช้ shall แล้ว ส่วนใหญ่จะเจอ Shall I …หรือ Shall we…ในประโยคแบบสุภาพ หรือ ในประโยคชักชวน
Should แปลว่า ควรจะ… ใช้ในการแนะนำ
- Should we take a taxi to school?
พวกเราควรจะไปโรงเรียนด้วยแท็กซี่ดีมั้ย
ครูหวังเป็นอย่างยิ่งว่านักเรียนที่น่ารักทุกคนจะได้รับประโยชน์และความรู้จากการอ่านบทความนี้นะคะ ขอให้สนุกและมีความสุขกับการเรียนนะคะทุกคน
อย่าลืมทบทวนบทเรียนจากวีดีโอด้านล่างนี้กับทีชเชอร์กรีซด้วยนะคะ
เลิฟๆ