การใช้คำคุณศัพท์และการเรียงคำคุณศัพท์

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

การใช้คำคุณศัพท์และการเรียงคำคุณศัพท์

คำคุณศัพท์ (Adjective) คืออะไร?

ก่อนเราจะเริ่มเข้าเนื้อหา ทางผู้เขียนก็อยากจะพูดถึงความหมายและความสำคัญของคำคุณศัพท์ (Adjective) กันก่อน

คำคุณศัพท์ (Adjectives) มักจะุถูกใช้ในการอธิบายลักษณะรูปร่างทางกายภาพของทั้งสิ่งของและสิ่งมีชีวิตที่รวมถึงตัวของมนุษย์เอง โดยที่เราจะมาเรียนกันวันนี้คือการที่บางครั้ง คำคุณศัพท์ (Adjective) นั้นจะมีลักษณะที่ถูกใช้อธิบายลักษณะทางกายภาพที่มากกว่าหนึ่งอย่าง ในภาษาไทยของเรา ก็มีการเรียกคำคุณศัพท์ หรือที่เรียกว่า order of adjective ด้วยเหมือนกัน

จากศึกษาและพูดคุยกับนักศึกษาศาสตร์ พบว่า การใช้ภาษาไทยในปัจจุบันไม่ได้มีการกำหนดการเรียงลำดับคำคุณศัพท์แบบภาษาอังกฤษที่ชัดเจน แต่หากสังเกตโดยคร่าว ๆ จะพบว่า ภาษาไทยของเราจะมีการเรียงจากซ้ายไปขวา(right branching) คือคำหลักจะอยู่คำแรกแล้วคำขยายจะต่อออกไปทาง เช่น จะใช้ “เสื้อตัวใหญ่สีแดง” หรือ “เสื้อสีแดงตัวใหญ่” ก็ได้

ปัญหาที่เจอสำหรับคนไทยคือ การที่เราจะต้องเข้าใจการเรียงคำคุณศัพท์ที่ตรงกับเจ้าของภาษา เพราะถ้าเราเรียงเองมั่ว ๆ อาจจะส่งผลต่อการสื่อสารของเราได้ ในภาษาอังกฤษเองจำเป็นต้องเรียงคำคุณศัพท์ไว้หน้าคำนามให้ถูกต้องตามหลักทางภาษา

หลักการเรียงคำคุณศัพท์ (Order of Adjective)

เรามาดูหลักการเรียงคำคุณศัพท์ (Order of Adjectives) ในภาษาอังกฤษกันด้วยทริคง่าย ๆ คือ มี 10  ลำดับที่ต้องเรียงตามนี้เท่านั้น ห้ามสลับลำดับเด็ดขาดเพื่อความปังปุริเย่ คือ

Opinion > Size > Physical > Shape > Age > Color > Origin > Material > Type > Purpose ตบท้ายด้วยคำนามที่เราต้องการอธิบาย มีเทคนิควิธีการจำแบบง่ายๆ คือ OSPSACOMTP “โอซาซคอมมมมมมมมมมมมม”

No Adjective order Vocabularies
1 Opinion (ความคิดเห็น) Beautiful, Ugly, Cute, Kind, Friendly
2 Size (ขนาด) Big, Small, Tall
3 Physical quality Thin, rough, tidy, Fat
4 Shape (รูปร่าง) Round, Square, Penta, Rectangular
5 Age (อายุ) Old, New, Young
6 Color (สี) อย่างสีเหลือง Yellow!!
7 Origin (เชื้อชาติ ที่มา) Thai, Singaporean, Indonesian, Western, Asian, Ancient
8 Material (วัสดุ) Metal, Wood, Plastic, Silver
9 Type (ชนิด) Four-sided, General-purpose, U-shaped
10 Purpose (วัถุตประสงค์) Cleaning, Hammering, Cooking

คำเตือน ไม่ใช่ทุกอย่างที่เราจะต้องเรียงให้หมดทีเดียวทั้ง 8 ลำดับขั้น เพราะจากที่เจอมา มีนักเรียนหลายคนพยายามใช้ทุกคนทีเดียวซึ่งดีที่จะได้ฝึก แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีใครมานั่งอธิบายเรียงทั้ง 8 ลำดับหรอก สิ่งที่เราทำได้คือรู้ว่าหากจะพูดอธิบายลักษณ์ทางกายภาพหรือนิสัยของคนเราก็ควรที่จะมีหลักการเรียงที่ถูกต้อง ปล. เรียงข้ามหน้าข้ามตากันก็ได้ แต่ขอให้เรียงตามเลขนาจาาาา

ตัวอย่างการใช้

ด้วยความที่เรากำลังอยู่ในหัวข้อเพื่อนฉัน ( My friend) มันดี ผู้เขียนจึงจะยกตัวอย่างการอธิบายเจ้าเพื่อนรักของเราแบบปัง ๆ ปั้ว ๆ ไปเลย

Example 1: My friend is a cute (1), tall (2), skinny (3), young (5), Thai (7)girl.

แปล: เพื่อนของชั้นเป็นผู้หญิงที่น่ารักคนไทยที่ยังเด็กผอมสูง

Example 2: Her school bag is made of a strange (1), yellow (6), and wool material (8).

แปล: กระเป๋านักเรียนของเธอทำมาจากผ้าวูลสีเหลืองแปลกตา

Example 3: I have an amazing (1), big (2), new (5), Italian (7) cup.

แปล: ฉันมีแก้วอิตาลี่ถ้วยใหม่อันใหญ่

ด้วยความที่ภาษาอังกฤษมีหลักการเรียงคำศัพท์และประโยคที่ไม่เหมือนกับภาษาไทยของเรา ทำให้การแปล การเขียน และการพูดเพื่อการสื่อสารนั้นจะต้องอาศัยเวลาในการปรับตัวเพื่อทำความเข้าใจ แต่โดยรวมแล้ว จากการพูดคุยกับนักแปล และเจ้าของภาษาเมื่อเทียบกับภาษาที่มีการเรียงของไทยแล้วก็ได้รับคำแนะนำมาว่า หากเจอกันเรียงตัวของคำคุณศัพท์ก็ให้เรียงตามที่แนะนำตามลำดับตาราง และหากต้องการจะแปลก็แนะให้แปลจากหลังมาหน้าเพื่อความเข้าใจที่คุ้นเคยตามภาษาของเรามากขึ้น

คำคุณศัพท์กับคำว่า And

การที่เราจะใช้ AND ระหว่างคุณศัพท์จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเรามีคำคุณศัพท์มากกว่าหนึ่งคำเกิดขึ้นหลังคำกริยาเช่น be (กริยาเชื่อมโยง) คำคุณศัพท์สุดท้ายที่สองมักจะเชื่อมต่อกับคำคุณศัพท์สุดท้ายโดยคำว่า AND

  • Our school is always a warm, welcoming place.

อย่างไรก็ดี คำว่า AND มักพบได้น้อยเมื่อมีคำคุณศัพท์มากกว่าหนึ่งคำนำหน้าคำนาม (เช่น a warm, welcoming place) อย่างไรก็ตาม เราสามารถใช้คำว่า AND เมื่อมีคำคุณศัพท์ประเภทเดียวกันตั้งแต่สองคำขึ้นไป หรือเมื่อคำคุณศัพท์อ้างอิงถึงส่วนต่างๆของสิ่งเดียวกัน:

  • She has a pink and purple cotton bag.
  • My house is a sad, dark and cold place.

Adjective หลัง Linking Verbs

อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ มันก็ไม่ใช่ว่าทุก Adjective จะสามารถใช้แบบเพื่ออธิบายคน สัตว์ สิ่งของ ได้เลยในทันที มันยังมีข้อยกเว้นในบางกรณี หรือบางคำที่ต้องใช้หลังคำกริยาเชื่อมโยง (Link verb)

คำศัพท์ที่เราต้องจำให้ขึ้นใจว่าจะต้องใช้ตามหลังเหล่า Link verbs เท่านั้น มีดังต่อไปนี้

Vocabulary Sentence example
Afraid She was very afraid of a ghost when she heard something weird at night แต่เราจะไม่พูดว่า When she heads something weird at night she is a very afraid person.
Glad My uncle was very glad when he saw his grandchildren แต่เราจะไม่พูดว่า When he saw his grandchildren he was a very glad uncle.
Ill My friend is ill แต่เราจะไม่พูดว่า I have an ill friend

คำศัพท์อื่น ๆ อาทิ Alive, Alone, Asleep, Content, Ready, Sorry, Sure, Unable, Well.

นอกจากนี้ การเรียงคำคุณสมบัติยังมีเรื่องของการใช้คำศัพท์ว่าด้วยเรื่องของทิศทางด้วยที่ต้องใช้ให้ถูก

โดยคำศัพท์เหล่านั้นก็จะมี North, Northern, South, Southern, East, Eastern, West, Western

ตัวอย่างการใช้ง่าย ๆ ก็เช่น

My friend lives in the northern village แต่เราจะไม่พูดว่า The village she lives in is northern.

He lives in the eastern district. เป็นต้น

แล้วเราก็มาถึงช่วงท้ายของเนื้อหา Adjective order กันแล้ว เป็นไงกันบ้างละจะทุกคน ปังมั้ย? ต้องปังแล้วละถ้าสามารถอ่านมาถึงตรงนี้ได้ เอาเข้าจริงเรื่องนี้ไม่ยากถ้าเราใช้เวลาไปกับมันมากพอ คงเหมือนกับที่ฝรั่งเจ้าของภาษาที่จะต้องมาเรียนภาษาไทย และรู้วิธีการเรียงคำในภาษาไทย ขอแค่เราตั้งใจ ยังไงก็ทำได้ พี่เองก็ขอเป็นกำลังใจให้นาจาาาา แล้วพบกันใหม่เด้อ ขอบคุณและสวัสดีครับบบบ

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

Profile Telling Time

“บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Time in English) ”

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวิธีการ “บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Telling Time in English) ” กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย  บทนำ ในบทเรียนนี้ครูขอยกตัวอย่างการบอกเวลาที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปใน 2 รูปแบบ ตามที่มาของ Native English หรือ ภาษาอังกฤษของเจ้าของภาษา นะคะ  ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้

เพลงพื้นบ้าน เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนในอดีตผ่านบทเพลง

ในอดีตประเทศไทยจัดว่าเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ประชาชนมีชีวิตที่สุขสบาย เมื่อมีเวลาว่างก็มักรวมตัวกันในชุมชนเพื่อร้องรำทำเพลง เล่นกันสนุกสนาน หรือในงานเทศกาลต่าง ๆ บทเพลงที่ใช้ร้องเล่นกันนั้นเรียกว่า เพลงพื้นบ้าน ซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ท้องถิ่น บทเรียนในวันนี้เราจะไปพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของเพลงพื้นบ้านในแต่ละถิ่นของประเทศไทยกันว่าจะมีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ   เพลงพื้นบ้าน   เพลงพื้นบ้าน หมายถึง เพลงของชาวบ้านในท้องถิ่นต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละท้องถิ่นจะมีการร้องเล่นที่แตกต่างกันออกไปตามสภาพของท้องถิ่นนั้น ๆ นิยามเล่นกันในเทศกาลต่าง ๆ หรืองานที่มาร่วมรื่นเริงกัน

การหารเลขยกกำลัง

การหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก

การหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก บทความนี้ ได้รวบรวมตัวอย่าง การหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก ซึ่งทำได้โดยการใช้สมบัติการหารของเลขยกกำลัง ก่อนจะเรียนรู้ ตัวอย่างการหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก น้องๆจำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่อง การคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่  ⇒⇒ การคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก ⇐⇐ สมบัติของการหารเลขยกกำลัง  am ÷ an  = am – n     (ถ้าเลขยกกำลังฐานเหมือนกันหารกัน ให้นำเลขชี้กำลังมาลบกัน)

โจทย์ปัญหาสัดส่วน 2

บทความนี้น้องๆจะได้เรียนรู้หลักการที่ใช้ในการแก้โจทย์ปัญหาสัดส่วนด้วยวิธีการที่หลากหลายและเข้าใจง่าย สามารถนำไปช่วยในแก้โจทย์ปัญหาในห้องเรียนของน้องๆได้

วิธีพูดสรุปความจากเรื่องที่ฟังและดูอย่างง่ายๆ

การพูดสรุปความสำคัญอย่างไร ? น้อง ๆ หลายคนคงจะเคยประสบปัญหาเวลาที่ต้องออกไปนำเสนองานหน้าชั้นเรียนแล้วไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรให้เพื่อนกับครูเข้าใจ เพราะเนื้อหาที่เราจำมามันก็เยอะเสียเหลือเกิน บทเรียนภาษาไทยวันนี้จะช่วยให้น้อง ๆ รับมือกับปัญหาเหล่านั้นได้ เพียงแค่น้อง ๆ มีความเข้าใจในเรื่องการพูดสรุปความ วันนี้เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยนะคะว่าการพูดสรุปความจากเรื่องที่ฟังหรือดูจะมีวิธีใดบ้าง   การพูดสรุปความจากเรื่องที่ฟังและดู   การพูดคืออะไร   องค์ประกอบของการพูด   ผู้พูด คือผู้ที่มีจุดมุ่งหมายสำคัญที่จะนำเสนอความรู้ความคิดเห็นให้ผู้ฟังได้รับรู้และเข้าใจ เนื้อเรื่อง

สมมูลและนิเสธ

สมมูลและนิเสธของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ

“สมมูลและนิเสธ” ของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ สมมูลและนิเสธ เราเคยเรียนกันไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่เป็นของประพจน์ p, q, r แต่ในบทความนี้จะเป็นสมมูลและนิเสธของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ ซึ่งก็จะเอาเนื้อหาก่อนหน้ามาปรับใช้กับประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ สิ่งที่เราจะต้องรู้และจำให้ได้ก็คือ การสมมูลกันของประพจน์ เพราะจะได้ใช้ในบทนี้แน่นอนน ใครที่ยังไม่แม่นสามารถไปอ่านได้ที่ บทความรูปแบบของประพจน์ที่สมมูลกัน  นิเสธของตัวบ่งปริมาณ เมื่อเราเติมนิเสธลงไปในประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ ข้อความต่อไปนี้จะสมมูลกัน กรณี 1 ตัวแปร ∼∀x[P(x)] ≡ ∃x[∼P(x)] ∼∃x[P(x)]

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1