การเรียนเกี่ยวกับทิศทางและการถามทาง

Picture of Krumaiyha
Krumaiyha
P5 NokAcademy_การเรียนเกี่ยวกับทิศทางและการถามทาง

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

สวัสดีค่ะนักเรียนป.5 ที่น่ารักทุกคน เคยมั้ยที่เราเจอฝรั่งถามทางแล้วตอบไม่ได้ ทำได้แค่ชี้ๆ แล้วก็บ๊ายบาย หากทุกคนเคยเจอปัญหานี้ ต้องท่องศัพท์และรู้โครงสร้างประโยคที่สำคัญในการถามทางแล้วล่ะ  หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย กับหัวข้อ การเรียนเกี่ยวกับทิศทางและการถามทาง

 

มาเริ่มกับการ “ถาม-ตอบเกี่ยวกับทิศทาง”

 

P5 NokAcademy_การเรียนเกี่ยวกับทิศทางและการถามทาง (2)

วิธีการถามตอบ:

โครงสร้าง:  How can I get to…(name of the place)..?
แปล ไม่ทราบว่าจะไป …ชื่อสถานที่…. ได้อย่างไร

 

NokAcademy_Direction

Examples:
Excuse me,
How can I get to the UK embassy building?
= ขอโทษนะคะ/ครับ
ฉัน/ผมขอถามทางไปตึกสถานทูตอังกฤษหน่อย

ตอบ: You can go ahead on the 3rd road.
แปล คุณสามารถมุ่งไปทางถนนสายสามนะ

 

Excuse me. หรือ Pardon me.
แปลว่า ขอโทษค่ะ/ครับ เป็นภาษาพูดแบบสุภาพ ใช้กับคนที่เราไม่คุ้นเคย หรือ การพูดทั่วไปที่ต้องเกริ่นก่อนที่จะถาม

 

P5 NokAcademy_การเรียนเกี่ยวกับทิศทางและการถามทาง (3)

Do you know…

Do you know where …(destination)..?
แปล คุณรู้ไหมว่า ……. อยู่ที่ไหน

Do you know where the toilet is?
แปล คุณรู้ไหมว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน (อเมริกัน)

Do you know where the bathroom is?
แปล คุณรู้ไหมว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน (บริติช)

 

 

คำขึ้นต้นประโยคที่ใช้บ่อยเวลาถามทาง

 

NokAcademy_Profile DirectionP5 (3)

 Could you tell me..?
= ช่วยบอกได้ไหมว่า…
Do you know..?
= คุณรู้จัก…
May I ask…?
= ขอถามหน่อยว่า…
Do you mind if I ask…?
= จะเป็นอะไรไหมถ้าจะขอถามว่า…
I’d like to know…
= ฉัน หรือ ผมต้องการทราบว่า…
I’m interested to know…

= ฉันหรือผมอยากรู้ว่า…

 

 

 

ถามทางแบบสุภาพกับการถามทางแบบอ้อมๆ

 

P5 NokAcademy_การเรียนเกี่ยวกับทิศทางและการถามทาง (7)

Indirect Question คือ รูปแบบประโยคคำถามทางอ้อม จะไม่ถามตรงๆแบบรูปแบบประโยคทั่วไป (Direct Questions)  เรามักจะเจอ ประโยคคำถามแบบ Indirect Questions
ในสถานการณ์ที่เป็นทางการ  หรือ ในสถานการณ์ที่ต้องใช้ความสุภาพ เช่น การถามทาง เป็นต้น

 

  • Direct Questions คือ คำถามที่ถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อม แบบห้วนๆเลย ตัวอย่างเช่น
    Which is the best way to school? แปลว่า ทางไปโรงเรียนที่ดีที่สุดคือทางไหน
  • Indirect Questions คือคำถามแบบอ้อม  ตัวอย่างเช่น
    Do you know which is the best way to school? แปลว่า คุณพอจะทราบ ทางไปโรงเรียนที่ดีที่สุดมั้ยคะ/ครับ

 

***ในกรณีของผู้ตอบ หากไม่รู้ก็มีวิธีปฏิเสธแบบสุภาพก็สามารถ พูดแบบตรงๆ หรืออ้อม เพื่อรักษาน้ำใจผู้ถามได้เหมือนกัน ดังตัวอย่างประโยคด้านล่างเช่น

Sorry, I’m also new here.
= ขอโทษด้วย ผม/ฉันก็ใหม่กับที่นี่เหมือนกัน

Let me find it on Google map for you.
= เดี๋ยวผม/ฉันช่วยหาบนกูเกิลแมพให้นะ

Sorry, I don’t know it.
=ขอโทษด้วยนะ ผม/ฉันไม่รู้จริงๆ

Let me ask my friend for you first.
= ขอถามเพื่อนให้ก่อนนะ

ตารางสรุป (Asking for direction)

 

NokAcademy_Direction (3)

 

เมื่อต้องมีการถามเส้นทาง เราสามารถถามคำถามได้ทั่วไป และถามแบบสุภาพ โดยการใช้ตัวอย่างประโยคด้านล่างนะคะ

ประโยคถามเส้นทาง

(Asking for direction)

แปล

(Translation)

Could you tell me how to get to..?

(get to = go to)

 

กรุณาบอกหน่อยได้ไหมครับว่าจะไป…ได้อย่างไร?
How do I find…?

 

ฉันจะหา….ได้อย่างไร? (ทางไป…)
What is the best way to…?

 

ทางไหนดีที่สุดที่จะไป…?
Pardon me, I’m lost, how do I get to…?

 

 

ขอโทษนะคะ/ครับ
ฉันหลงทาง ไม่ทราบว่าจะไป….อย่างไร?
How do I get to…?

 

ฉันจะไปที่…ได้อย่างไร?
Which way do I go to get to..?

 

ฉันจะไป…ทางไหน?
What’s the best way to..?

 

วิธีไหนที่ดีที่สุดในการไป…คือวิธีไหน
Could you direct me to…?

 

คุณสามารถบอกทางไป…ฉันหน่อยได้มั้ย?
Excuse me, How can I go to…?

 

ขอโทษนะคะ ฉันจะไปที่…ได้ยังไง?
Can you tell me the way to..?

 

ช่วยบอกทางไป…ได้มั้ย

คำบุพบทบอกตำแหน่ง (Preposition of direction)

 

NokAcademy_Direction (4)

เมื่อจะต้องบอกทาง เราต้องรู้จักกลุ่มคำศัพท์หนึ่งที่เรียกว่า Preposition หรือคำบุพบท คือ คำที่ใช้เชื่อมคำนามกับคำนาม หรือเชื่อมคำนามกับ วลี/ประโยค ซึ่ง Preposition ที่สำคัญและพบกันอยู่บ่อยๆ ในการบอกทิศทาง ได้แก่ go straight (เดินตรงไป), in(ใน), on (บน), toward (ไปยัง), form (จาก), in (ใน), after (หลังจาก), among (ระหว่าง), at (ที่), move to the left (เดินไปทางซ้าย)

 

คู่คำบุพบทบอกสถานที่สับสนบ่อย

 

สำเนาของ มารู้จักกับการถามทางในภาษาอังกฤษ Asking for Direction in English (2)

 On VS On top

โดยปกติแล้ว ‘On’ จะถูกใช้กับที่ปกติที่ใช้ในการวางสิ่งของ เช่น

 The books are on the bookshelf.
แปล หนังสืออยู่บนหิ้ง

ส่วน ‘On top’ จะถูกใช้กับที่ที่ไม่ปกติในการวางสิ่งของ เช่น

 The pillows are on top of the bed.
แปล หมอนวางอยู่บนหัวเตียง

 

 Between VS Beside

– ‘Between’ เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีวัตถุหนึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 วัตถุ ส่วน ‘Beside’ มีความหมายเหมือนกับ ‘Next to’ แต่ว่า ‘Beside’ จะมีความเป็นทางการมากกว่า ทั้งคู่จะถูกใช้เมื่อวัตถุ หนึ่ง อยู่ข้างๆ วัตถุ หนึ่ง

 

ตัวอย่างสถานการณ์

 

Situation: Daniel is asking for a parking lot.

NokAcademy_Daniel DirectionP5

Daniel: Where did you park your car?
แดเนียล: คุณจอดรถไว้ไหน
Jessica: It’s next to the 5th Avenue Street.
เจสสิกา: ฉันจอดไว้ที่ถนนฟิฟต์เอเวนนิว
Daniel: Is it between the coffee shop and the convenient store?
แดเนียล: ใช่ถนนที่อยู่ระหว่างร้านกาแฟกับร้านขายของชำมั้ย
Jessica: Exactly!
เจสสิกา: ใช่เลย

 

Under VS  Below

  • ใช้ ‘Under’ เมื่อวัตถุหนึ่งถูกปกคลุมด้วยวัตถุอื่น ส่วนเราจะใช้ ‘Below’ เมื่อวัตถุหนึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าวัตถุอื่น

Situation: Tourist is asking Dao for a direction.

NokAcademy_DaoDirectionP5

Tourist: Excuse me, how can I go to Thai Food Restaurant?
นักท่องเที่ยว: ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าร้านอาหารไทยไปทางไหนครับ
Dao: I think it is below this 3rd floor.
ดาว: ฉันคิดว่ามันอยู่ใต้ ชั้นสามนี่แหละค่ะ
Tourist: I see. And where is the nearest toilet please?
นักท่องเที่ยว: เข้าใจแล้วครับ แล้วห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดอยู่ตรงไหนครับ
Dao: You can go straight. The toilet is about 10 meters away.
ดาว: ให้คุณเดิน ตรงไป นะคะ ห้องน้ำอยู่ไกลจากตรงนี้อีกประมาณ 10 เมตร

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน ขอให้นักเรียนที่รักเดินทางไปไหนแล้วไม่หลง หรือถ้าหลงอย่างน้อยก็ต้องกล้าที่จะถามทางกันนะคะ
Dont’ be afraid to ask for a direction! จงอย่ากลัวที่จะถามทาง

ขอให้เป็นวันที่ดีค่า Have a good day guys!

***คลิกที่ปุ่มเพลย์พร้อมรับชมวีดีโอทบทวนบทเรียนเรื่องการถามทางได้ที่ปุ่มด้านล่างเลยนะคะ

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

จำนวนตรงข้ามและค่าสัมบูรณ์

จำนวนตรงข้ามและค่าสัมบูรณ์

       บทความนี้ ได้รวบรวมเนื้อหาเรื่อง จำนวนตรงข้ามและค่าสัมบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการบวกลบจำนวนเต็ม โดยก่อนหน้านี้น้องๆได้เรียนเรื่องการเปรียบเทียบจำนวนเต็มมาแล้ว ต่อไปจะพูดถึงค่าสัมบูรณ์ของจำนวนเต็มใดๆ จะหาได้จากระยะที่จำนวนเต็มนั้นอยู่ห่างจาก 0 บนเส้นจำนวน แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับจำนวนตรงข้ามกันก่อนนะคะ จำนวนตรงข้าม       “หากค่าของจำนวนที่อยู่ห่างจาก 0 เท่ากัน แต่อยู่ต่างทิศทางกันมีค่าเท่ากันหรือไม่” (ค่าไม่เท่ากัน)           

ป.6 Possessive pronoun โดยใช้ Whose_ Which ร่วมด้วย

การใช้ Possessive pronoun โดยใช้ Whose/ Which ร่วมด้วย

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคนค่ะ วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ Possessive pronoun โดยใช้ Whose/ Which ร่วมด้วย Let’s go! ไปลุยกันเลยจ้า   Possessive pronoun คืออะไร     What’s mine is yours, my dear.

แนะนำอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

แนะนำอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

บทความนี้จะเป็นการ แนะนำอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ซึ่งอสมการ เป็นประโยคที่แสดงถึงการไม่เท่ากัน โดยมีวิธีการหาคำตอบคล้ายๆกับสมการ น้องๆสามารถศึกษาบทความเรื่องโจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เพื่อศึกษาวิธีการแก้สมการและนำมาประยุกต์ใช้กับการแก้อสมการเพิ่มเติมได้ที่  ⇒⇒โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว⇐⇐ แนะนำอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว        อสมการ (inequality) เป็นประโยคที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของจำนวนโดยมีสัญลักษณ์  <, >, ≤, ≥ หรือ ≠  แสดงความสัมพันธ์         อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

โคลงอิศปปกรณำ

โคลงอิศปปกรณำ วรรณคดีร้อยแก้วที่แปลมาจากนิทานตะวันตก

ในบทเรียนก่อนหน้า น้อง ๆ ได้เรียนรู้เรื่องโคลงโสฬสไตรยางค์กับโคลงนฤทุมนาการกันไปแล้ว แต่โคลงสุภาษิตที่น้อง ๆ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จะได้เรียนไม่ได้หมดแค่นั้นนะคะ เพราะยังมีอีกหนึ่งโคลงสุภาษิตที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือ โคลงอิศปปกรณำ นั่นเองค่ะ โคลงสุภาษิตที่ชื่อดูอ่านยากเรื่องนี้จะมีที่มาอย่างไร สอนเรื่องอะไรเราบ้าง มีเนื้อหาอย่างไร ให้ข้อคิดแบบไหน ไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ   ความหมายของ โคลงอิศปปกรณำ     โคลงอิศปปกรณำ อ่านว่า โคลง-อิด-สะ-ปะ-ปะ-กะ-ระ-นำ

การหารเลขยกกำลัง

การหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก

การหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก บทความนี้ ได้รวบรวมตัวอย่าง การหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก ซึ่งทำได้โดยการใช้สมบัติการหารของเลขยกกำลัง ก่อนจะเรียนรู้ ตัวอย่างการหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก น้องๆจำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่อง การคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่  ⇒⇒ การคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก ⇐⇐ สมบัติของการหารเลขยกกำลัง  am ÷ an  = am – n     (ถ้าเลขยกกำลังฐานเหมือนกันหารกัน ให้นำเลขชี้กำลังมาลบกัน)

บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก

ศึกษาตัวบทและคุณค่าที่อยู่ใน บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก

บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก เป็นบทละครพูดเรื่องแรกของไทยที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นผู้ประพันธ์ โดยมุ่งหวังให้ละครเป็นตัวช่วยกล่อมเกลาจิตใจประชาชน แต่นอกจากตัวบทจะมีความโดดเด่นจนได้รับความนิยมอย่างมากแล้ว ยังแฝงแนวคิดมากมายไว้ในเรื่อง จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปเรียนรู้เรื่องพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   ตัวบทเด่น ๆ ใน บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก     ตัวบทที่ 1    พระยาภักดี : ใครวะ อ้ายคำ : อ้างว่าเป็นเกลอเก่าของใต้เท้า

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1