การออกเสียงสระในภาษาอังกฤษ: English Vowel Sounds

สวัสดีน้องๆ ป. 6 ทุกคนนะครับ อาทิตย์ที่แล้วพี่ได้อธิบายเรื่องการออกเสียงพยัญชนะในภาษาอังกฤษกันไปแล้ว คราวนี้เราจะมาลองดูเสียงสระในภาษาอังกฤษกันครับว่ามีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
vowel sounds

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

English Vowels

น้องๆ คงทราบกันดีอยู่แล้วใช่มั้ยครับว่าสระในภาษาอังกฤษนั้นมีทั้งหมด 5 ตัวด้วยกัน คือ a, e, i, o และ u โดยที่พยัญชนะ y ก็จะใช้เป็นเสียงสระได้เช่นกันครับ

ที่นี่พี่จะแบ่งประเภทของเสียงสระออกเป็น 3 ประเภทง่ายๆ คือ

1) Long vowels (สระเสียงยาว)

2) Short vowels (สระเสียงสั้น)

3) Other vowels (สระเสียงอื่นๆ) *โดยส่วนใหญ่จะเป็นสระเสียงผสมครับ

โดยพี่จะให้สระแต่ละตัวมีทั้งเสียงยาว (Long vowels) และเสียงสั้น (Short vowels) และเสียงอื่นๆ อีก 5 เสียง ดังนั้นเราจะได้เสียงสระทั้งหมด 15 เสียงที่จะมาเรียนรู้กันในวันนี้ครับ

 

Vowel Sounds of ‘A’

สระตัวแรกนั่นก็คือตัว ‘a’ นั่นเองครับ

เสียง long a /eɪ/ จะเหมือนเสียงตัว a เลย ออกเสียงว่า “เอ” เช่น

long a /eɪ/

 

เสียง short a /æ/ จะออกเสียงว่า “แอะ” เช่น

short a /æ/

Vowel Sounds of ‘E’

ตัวต่อมาก็คือตัว ‘e’ ครับ

เสียง long e /i/ จะออกเสียงเหมือนตัว e เลย ออกเสียงว่า “อี” เช่น

long e /i/

 

เสียง short e /ɛ/ จะออกเสียงว่า “เอะ” เช่น

short e /ɛ/

 

Vowel Sounds of ‘I’

ต่อมาคือตัว ‘i’ ครับ

เสียง long i /ɑɪ/ จะออกเสียงเหมือนตัว i เลย ออกเสียงว่า “ไอ” เช่น

long i /ɑɪ/

 

เสียง short i /ɪ/ จะออกเสียงว่า “อิ” เช่น

short i /ɪ/

 

Vowel Sounds of ‘O’

สระตัวต่อมาคือ ‘o’ ครับ

เสียง long o /oʊ/ จะออกเสียงว่า “โอว” (ห่อปากตอนท้าย) เช่น

long o /oʊ/

 

เสียง short o /ɑ/ จะออกเสียงว่า “เอาะ” เช่น

short o /ɑ/

 

Vowel Sounds of ‘U’

ตัวสุดท้ายคือตัว ‘u’ ครับ

เสียง long u /yu/ จะออกเสียงเหมือนตัวมันเลยครับ ออกเสียงว่า “ยู” เช่น

long u /yu/

 

เสียง short u /ʌ/ จะออกเสียงว่า “อะ” เช่น

short u /ʌ/

 

Vowel Sounds of ‘Y’

เราลองมาดูเสียงตัว ‘y’ กันครับ ซึ่งมีความพิเศษที่มันสามารถเป็นได้ทั้งสระและพยัญชนะ โดยถ้าเป็นเสียงสระจะออกเสียงเหมือนเสียง long e /i/ “อี” และเสียง long i /ɑɪ/ “ไอ” ครับ เช่น

y long e /i/

 

y long i /ɑɪ/

Other Vowels

สำหรับเสียงอื่นๆ จะมีทั้งหมด 5 เสียงดังนี้ครับ

เสียง other u /ʊ/ จะออกเสียงว่า “อุ” เช่น

other u /ʊ/

 

เสียง oo sound /u/ จะออกเสียงว่า “อู” เช่น

oo sound /u/

 

เสียง aw sound /ɔ/ จะออกเสียงว่า “ออ” เช่น

aw sound /ɔ/

 

เสียง oi sound /ɔɪ/ จะออกเสียงว่า “ออย” เช่น

oi sound /ɔɪ/

 

เสียง ow sound /aʊ/ จะออกเสียงว่า “อาว” (ห่อปากตอนท้าย) เช่น

ow sound /aʊ/

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับ Vowel Sounds หรือเสียงสระในภาษาอังกฤษ เรื่องนี้เป็นพื้นฐานแต่ก็จำเป็นมากๆ ในทักษะการฟังและการพูดในชีวิตประจำวัน สำหรับน้องๆ ป. 6 สามารถฝึกได้โดยเริ่มจากดูการ์ตูนภาษาอังกฤษง่ายๆ ก่อนก็ได้ครับ เรื่องที่พี่ชอบมากก็คือ Peppa Pig ครับ พี่ขอแนะนำ 🙂 แล้วถ้าอยากรู้ว่าคำไหนออกเสียงอย่างไร อย่าลืมใช้ Dictionary หรือ Google ช่วยด้วยนะครับ

อย่าลืมทบทวนเสียงพยัญชนะได้ที่ เสียงพยัญชนะภาษาอังกฤษ

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การใช้ There is และ There are ในประโยคคำถาม

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ม.2 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง “การใช้ There is There are ในประโยคคำถาม ” กันจ้า ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยเด้อ   There is/There are คืออะไร   There is และ There are แปลว่า

เส้นตรง

เส้นตรง

เส้นตรง เส้นตรง มีสมการรูปแบบทั่วไปคือ Ax + By + C = 0 และสมการรูปแบบมาตรฐานของเส้นตรงจะเขียนอยู่ในรูป y = mx + C ซึ่งจะอยู่ในหัวข้อ “สมการเส้นตรง” เส้นตรงหนึ่งเส้นประกอบไปด้วยจุดหลายจุด ซึ่งจุดเหล่านี้จะทำให้เราสามารถหาความชันได้ และเมื่อเราทราบความชันก็จะสามารถหาสมการเส้นตรงได้นั่นเอง ความชันของเส้นตรง ความชันของเส้นตรง ส่วนใหญ่นิยมใช้ m

การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร

การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร  โดยการเลือกกำจัดตัวแปรใดตัวแปรหนึ่ง(x) เมื่อเลือกกำจัด x จะได้ค่า y แล้วนำค่าของตัวแปร(y) มาแทนค่าในสมการเพื่อหาค่าของตัวแปรอีกหนึ่งตัวแปร (x) ซึ่งก่อนที่จะเรียนเรื่องนี้ น้องๆสามารถศึกษาเรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร โดยใช้กราฟ เพิ่มเติมได้ที่  ⇒⇒ การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร โดยใช้กราฟ ⇐⇐ ให้ a, b, c, d, e และ

แยกให้ออก บอกให้ถูกสำนวน สุภาษิต คำพังเพยแตกต่างกันอย่างไร?

บทนำ สวัสดีน้อง ๆ ที่น่ารักทุกคนกลับมาเข้าสู่เนื้อหาการเรียนภาษาไทยกันอีกเช่นเคย สำหรับวันนี้จะเป็นบทเรียนที่ทั้งสนุก มีสาระ และเป็นเนื้อหาที่เราต้องได้เจอบ่อย ๆ ในการเรียนภาษาไทยอย่างเรื่องสำนวน สุภาษิต และคำพังเพย น้อง ๆ อาจจะเคยได้ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างเพราะเป็นบทเรียนที่ได้เริ่มเรียนตั้งแต่ช่วงประถมศึกษาแล้ว แต่วันนี้เราจะมาเรียนรู้ในเชิงลึกขึ้นไปอีกเกี่ยวกับวิธีการสังเกตระหว่างสำนวน สุภาษิต และคำพังเพยนั้นมีความเหมือน หรือแตกต่างกันอย่างไร มีตัวอย่างประกอบให้ทุกคนได้ดูด้วย ถ้าน้อง ๆ คนไหนพร้อมแล้วก็ไปลุยกับเนื้อหาของวันนี้ได้เลย   สำนวน สำนวน

การเขียนเรียงความ

เทคนิคการเขียนเรียงความง่าย ๆ ที่จะช่วยถ่ายทอดความคิดให้เป็นขั้นตอน

การเขียนเรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่มีสำคัญมาก เพราะเป็นการถ่ายทอดความคิดให้ออกมาอยู่ในรูปของตัวอักษร จะมีวิธีเขียนอย่างไรบ้างนั้น บทเรียนในวันนี้จะทำให้น้อง ๆ มีความรู้ความเข้าใจถึงวิธีการเขียนเรียงมากขึ้น จะเป็นอย่างไรนั้น ไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ     เรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่แสดงออกถึงความรู้สึกนึกคิด ความเห็น ความเข้าใจของผู้เขียน มีรูปแบบและวิธีการเขียนที่มีแบบแผน เพื่อถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นตัวอักษรให้น่าอ่าน และยังเป็นพื้นฐานของการเขียนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความหรือนวนิยายอีกด้วย โดยประเภทของการเขียนเรียงความมีดังนี้ 1. เรื่องที่เขียนเพื่อความรู้ 2. เรื่องที่เขียนเพื่อความเข้าใจ

การพูดรายงานหน้าชั้น พูดอย่างไรให้ได้ใจผู้ฟัง

การพูดรายงานหน้าชั้น เป็นการแสดงผลงานศึกษาค้นคว้าโดยนำมาบอกเล่า ชี้แจง นำเสนอให้ผู้อื่นได้ทราบด้วย การพูดรายงานจึงมีความสำคัญในฐานะที่เป็นการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้ความคิด บทเรียนในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้กันว่าหลักในการพูดรายงานหน้าชั้นนั้นมีอะไรบ้าง พูดอย่างไรจึงจะดึงดูดผู้ฟัง รวมไปถึงมารยาทขณะที่ออกไปพูดด้วย จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันเลยค่ะ   หลักการพูดรายงานหน้าชั้น     1. กล่าวทักทายผู้ฟัง แนะนำผู้ร่วมงาน หัวข้อ จุดประสงค์ การทักทายถือเป็นการสร้างความประทับใจแรกให้แก่ผู้ฟัง ไม่ว่าหัวข้อที่เราจะนำมาพูดหน้าชั้นคืออะไร แต่หากเราพูดเนื้อหาขึ้นมาเลยแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ก็อาจจะทำให้ผู้ฟังไม่อยากฟัง หรือคิดว่าการพูดหน้าชั้นของเราเป็นเรื่องน่าเบื่อ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1