สวัสดีนักเรียนชั้นม.2 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวิธีการบอกข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับตัวเราในภาษาอังกฤษกันค่ะ ได้แก่ “ การบรรยายตนเอง + Present Simple “
พร้อมทั้งตัวอย่างสถานการณ์ใกล้ตัวกันค่ะ ไปลุยกันเลย
ทบทวน Present Simple Tense
ความหมาย:
Present แปลว่า ปัจจุบัน ดังนั้น Present Simple Tense จึงเป็นประโยคที่มี โครงสร้างแบบง่าย ๆ ธรรมดา ที่พูดถึงเหตุการณ์ในปัจจุบัน (Present) นั่นเองค่า
โดยมีลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
- ใช้เพื่อพูดถึงความเป็นจริงในชีวิตประจำวัน หรือความเป็นจริงตามธรรมชาติ เช่น
When the earth moves around itself, it makes both of the Day and Night.
แปล เมื่อโลกหมุนรอบตัวเอง มันทำให้เกิดทั้งกลางวันและกลางคืน
- ใช้เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ นิสัย เช่น
I eat rice every morning. หรือ I have rice every morning.
แปล ฉันกินข้าวทุกเช้า
รูปประโยคของ Present Simple Tense
- ประโยคบอกเล่า
โครงสร้างของประโยคบอกเล่า : Subject + Verb.1 + Object + (คำบอกเวลา)
ทั้งนี้คำกริยาช่องที่ 1 นั้นจะมีการเติม s หรือ es ถ้าหากประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ (He, She, It) แต่ถ้าประธานเป็น I, You หรือประธานพหูพจน์ (You (หลายคน), We, They) ให้คงรูปคำกริยานั้น ๆ ไว้เช่นเดิม เช่น
Jimmy goes to school everyday.
แปล จิมมี่ไปโรงเรียนทุกวัน
They enjoy walking their dog every evening.
แปล พวกเขาชื่นชอบการพาสุนัขไปเดินเล่นช่วงเย็นของทุกๆวัน
**ประโยคนี้ประธานคือ They เป็นพหูพจน์ กริยาคือ enjoy จึงไม่ต้องเติม s หรือ es ที่ท้ายกริยา
ข้อสังเกต : หลักการเติม s,es นั้นง่ายนิดเดียว คือ คำกริยาที่ลงท้ายด้วย sh, ch, o, s, ss, x, z ให้เติม es
เมื่อประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ (He, She, It) เช่น
He washes his motorbike every week.
เขา (ผู้ชาย) ล้างรถมอเตอร์ไซค์ทุกอาทิตย์จะเห็นว่า ประธานของประโยคคือ He ซึ่งเป็นเอกพจน์ คำกริยาคือ wash ที่ลงท้ายด้วย sh จึงต้องเติม es ต่อท้าย
- ประโยคคำถาม
โครงสร้างของประโยคคำถามใน Present Simple Tense มีสองรูปแบบคือ
- แบบที่ 1 : Verb to be + Subject + Object/Complement + (คำบอกเวลา) ? เช่น
ประโยคบอกเล่า: She is my best friend.
ประโยคคำถาม: Is she your best friend?
แปล หล่อนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอเหรอ
- แบบที่ 2 : Verb to do + Subject + Verb.1 + Object + (คำบอกเวลา)?
ประโยคบอกเล่า: We go dancing at the club every night.
Do we go dancing at the club every night?ประโยคคำถาม:
แปล พวกเราไปเต้นที่คลับทุกคืนหรือเปล่า
- ประโยคปฏิเสธ (Negative sentence)
- แบบที่ 1 : Subject + Verb to be + not + Object/Complement + (คำบอกเวลา)
Ex: I am not your girlfriend.
แปล ฉันไม่ใช่แฟนของคุณ
- แบบที่ 2 : Subject + Verb to do (do, does)not + Verb.1 + Object + (คำบอกเวลา)
Situation: Jenny is talking to Adam.
Jenny: I do not go to school.
แปล ฉันไม่ไปโรงเรียน (ไม่เรียนหนังสือ)
Adam: Why?
แปล ทำไมล่ะ
Jenny: I work at the convenient store because I don’t have any parents.
แปล ฉันทำงานที่ร้านขายของชำเพราะว่าฉันไม่มีพ่อแม่
Adam: Keep going.
แปล สู้ๆนะ
คำบอกเวลาใน Present Simple Tense
Adverbs of Frequency
Always = สม่ำเสมอ, เป็นประจำ
Frequently = บ่อย ๆ
Often = บ่อย ๆ
Usually = โดยปกติ
Hardly = แทบจะไม่เคย
Never= ไม่เคย
Rarely = แทบจะไม่เคย
Seldom= นาน ๆ ครั้ง
Sometimes= บางครั้ง
การบรรยาย:ให้และขอข้อมูลส่วนตัว
(Giving and Asking for Personal Information)
ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal information)
การถามข้อมูลส่วนตัวจะต้องระบุจุดประสงค์และต้องดูสถานการณ์ที่เราใช้ด้วยนะคะ เพราะว่าในบางกรณีเรา
ไม่ควรถาม น้ำหนัก รอบอก หรือข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ เพราะว่ามันไม่สุภาพ (impoliteness)
คำถาม | คำตอบ |
How old are you? = คุณอายุเท่าไร |
I’m 12 years old.
=ผม/ฉัน อายุ 12 ขวบ |
When is your birthday?
= คุณเกิดวันไหน
|
I was born on the 1st, January 1999.
= ผม/ฉันเกิดวันที่ 1 มกราคมปี 2542 |
How tall are you?
= คุณสูงเท่าไร
|
I’m 155 cm. = ผม/ฉันสูง 155 ซม. |
How much do you weigh?
= คุณหนักเท่าไร ปล. ไม่ควรถามในชีวิตประจำวันเลยเพราะไม่สุภาพ |
My weight is 40 kg.
= ฉัน/ผม หนัก 40 กก.
|
What’s your shoe size?
= รองเท้าคุณเบอร์ไหนคะ/ครับ
|
My shoe size is 9.
= ไซส์รองเท้าผม/ฉัน คือ 9
|
บรรยายข้อมูลครอบครัว (Family information)
คำถาม | คำตอบ |
Do you have any siblings? = คุณมีพี่น้องมั้ย |
I don’t have any brothers or sisters. = ผม/ฉันไม่มีพี่น้องเลย |
How many people in your family?
= ครอบครัวของคุณมีสมาชิกกี่คน |
There are 7 people in my family. ครอบครัวผมมี 7 คนด้วยกัน |
Who do you live with?
= คุณอาศัยอยู่กับใคร |
I live with my + สมาชิกในครอบครัว, เพื่อน
เช่น I live with my mom. ฉันอาศัยอยู่กับแม่ |
What does your father do? = คุณพ่อทำงานอะไร |
He works as a + อาชีพ.
ตัวอย่างอื่นๆ เช่น I work as a writer. I work as an English teacher. ฉันทำงานเป็นครูภาษาอังกฤษ
|
การบรรยายตนเองเกี่ยวกับอาชีพ (Occupation)
ตารางคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาชีพ
คำศัพท์ | แปล |
engineer | วิศวกร |
actor | นักแสดง |
YouTuber | นักยูทูบเบอร์ |
Gamer | เกมเมอร์ |
air hostess, flight attendant | พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน |
gardener | คนสวน
|
photographer | ช่างถ่ายรูป |
pilot | นักบิน
|
singer
|
นักร้อง |
soldier | ทหาร
|
freelancer | ฟรีแลนซ์/ ทำงานอิสระ |
ตัวอย่างประโยคในการถามอาชีพเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้ได้บ่อย
Questions (ถาม):
What do you do? หรือ What do you do for a living?
= คุณทำงานอะไร
ตอบ:
I’m a teacher. = ฉันเป็นครู
I’m an engineer. = ฉันเป็นวิศวกร
I’m a student. = ฉันเป็นนักเรียน
I’m a teacher. = ฉันเป็นครู
ตามโครงสร้าง: I am a + อาชีพ แต่ถ้าอาชีพขึ้นต้นด้วยสระ a, e, I, o จะเปลี่ยนจาก a เป็น an
ปล. ในสถาณกาณ์ที่เราว่างงานอย่าใช้ I have no job. นะคะ
ให้เปลี่ยนประโยคเป็น
I am waiting for a job. หรือ I am available now. แทนจะดูหรูกว่าเยอะเลยค่า
ตัวอย่างประโยคบอกสถานที่ทำงาน
Situation: Asking about work
ถาม: Where do you work?= คุณทำงานที่ไหน
I work in a police station.
= ฉันทำงานในโรงพักแห่งหนึ่ง
หรือจะใช้ I work at the US embassy.= ฉันทำงานที่สถานทูตอเมริกา (แต่ไม่ได้เจาะจงว่าทำงานตรงส่วนไหน)
บรรยายเกี่ยวกับสัญชาติ (Nationality)
นักเรียนทุกคนคะ โดยทั่วไปแล้วเราจะใช้คำคุณศัพท์บอกสัญชาติที่ลงท้ายด้วย -ese หรือ -ish ร่วมกับคำกิริยาพหูพจน์เพื่อบอกถึงผู้คนในสัญชาตินั้น ๆ คำคุณศัพท์ที่ถูกเขียนออกมานี้มักจะถูกนำมาใช้เพื่ออ้างถึงภาษาที่คนสัญชาตินั้น ๆ ใช้พูดด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถใช้ได้ทุกกรณีก็ตาม แต่มันก็เป็นสิ่งจำเป็นมากค่ะ
ศัพท์จำเป็น
Nationality (N.) สัญชาติ
Nation (N.) ประเทศ
ตัวอย่างเช่น
I work in Japan.
= ฉันทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น
He likes Japanese woman.
= เขาชอบผู้หญิงญี่ปุ่น
Miko is a Japanese person. Or She is from Japan.
ทั้งสองประโยคนี้บอกได้ว่ามิโกะเป็นคนญี่ปุ่น หรือ หล่อนมาจากประเทศญี่ปุ่น
We speak Japanese.
พวกเราพูดภาษาญี่ปุ่น
อธิบายเพิ่มเติม:
เราจะใช้คำคุณศัพท์ที่มีความหมายกลาง ๆ + “คน” หรือใช้คำว่า “คนจาก” + ชื่อประเทศ
อย่าลืมดูวีดีโอทบทวนบทเรียนในหัวข้อ “การบรรยายตนเอง + Present Simple”กันด้วยเด้อ เลิฟๆ
คลิกที่ปุ่มเพลย์แล้วไปเรียนให้สนุกกันจร้า