การใช้ประโยคเกี่ยวกับอาชีพ สัญชาติ ข้อมูลส่วนบุคคล และอาชีพที่อยากทำในอนาคต

Picture of Krumaiyha
Krumaiyha

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

สวัสดีนักเรียนชั้นป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวิธีการบอกข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับตัวเราในภาษาอังกฤษกันค่ะ ได้แก่ ประโยคเกี่ยวกับอาชีพ สัญชาติ ข้อมูลส่วนบุคคล และอาชีพที่อยากทำในอนาคต พร้อมทั้งตัวอย่างสถานการณ์ใกล้ตัวกันค่ะ ไปลุยกันเลย

 

Profile general info

อาชีพ (Occupation)

 

Occupation:general info

 

ตารางคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาชีพ

คำศัพท์ แปล
engineer วิศวกร
actor นักแสดง
YouTuber นักยูทูบเบอร์
Gamer เกมเมอร์
air hostess, flight attendant พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
gardener คนสวน

 

photographer ช่างถ่ายรูป
pilot  นักบิน

 

singer

 

นักร้อง
soldier ทหาร

 

freelancer ฟรีแลนซ์/ ทำงานอิสระ

 

ตัวอย่างประโยคในการถามอาชีพเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้ได้บ่อย

Q: What do you want to be?

A:  I want to be + อาชีพ เช่น I want to be a doctor. ฉันอยากเป็นหมอ

 

ถาม:

What do you do? หรือ What do you do for a living?  
= คุณทำงานอะไร

ตอบ:

I’m a teacher.  = ฉันเป็นครู

I’m an engineer. = ฉันเป็นวิศวกร

 

ตามโครงสร้าง: I am a + อาชีพ แต่ถ้าอาชีพขึ้นต้นด้วยสระ a, e, I, o จะเปลี่ยนจาก a เป็น an

 

ปล. ในสถาณกาณ์ที่เราว่างงานอย่าใช้  I have no job. นะคะ ให้เปลี่ยนประโยคเป็น
I am waiting for a job. หรือ I am available now. แทนจะดูหรูกว่าเยอะเลยค่า

 

ตัวอย่างประโยคบอกสถานที่ทำงาน

Situation: Asking about work
ถาม: Where do you work?

= คุณทำงานที่ไหน

I work in a police station.

= ฉันทำงานในโรงพักแห่งหนึ่ง
หรือจะใช้  I work at the US embassy.

= ฉันทำงานที่สถานทูตอเมริกา (แต่ไม่ได้เจาะจงว่าทำงานตรงส่วนไหน)

 

การบอกสัญชาติ (Nationality)

 

Nationality: general info

 

นักเรียนทุกคนคะ โดยทั่วไปแล้วเราจะใช้คำคุณศัพท์บอกสัญชาติที่ลงท้ายด้วย -ese หรือ -ish ร่วมกับคำกิริยาพหูพจน์เพื่อบอกถึงผู้คนในสัญชาตินั้น ๆ คำคุณศัพท์ที่ถูกเขียนออกมานี้มักจะถูกนำมาใช้เพื่ออ้างถึงภาษาที่คนสัญชาตินั้น ๆ ใช้พูดด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถใช้ได้ทุกกรณีก็ตาม แต่มันก็เป็นสิ่งจำเป็นมากค่ะ

ศัพท์จำเป็น

Nationality (N.) สัญชาติ
Nation (N.) ประเทศ

ตัวอย่างเช่น

I work in Japan.
= ฉันทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น

He likes Japanese woman.
= เขาชอบผู้หญิงญี่ปุ่น

Miko is a Japanese person. Or She is from Japan.

ทั้งสองประโยคนี้บอกได้ว่ามิโกะเป็นคนญี่ปุ่น หรือ หล่อนมาจากประเทศญี่ปุ่น

We speak Japanese.
พวกเราพูดภาษาญี่ปุ่น

อธิบายเพิ่มเติม:

เราจะใช้คำคุณศัพท์ที่มีความหมายกลาง ๆ + “คน” หรือใช้คำว่า “คนจาก” + ชื่อประเทศ

 

 

การให้และขอข้อมูลส่วนบุคคล

(Giving and Asking for Personal Information)

 

ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal information)
การถามข้อมูลส่วนตัวจะต้องระบุจุดประสงค์และต้องดูสถานการณ์ที่เราใช้ด้วยนะคะ เพราะว่าในบางกรณีเรา
ไม่ควรถาม น้ำหนัก รอบอก หรือข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ เพราะว่ามันไม่สุภาพ (impoliteness)

 

 general info

คำถาม คำตอบ
How old are you?
= คุณอายุเท่าไร
I’m 12 years old.

=ผม/ฉัน อายุ 12 ขวบ

When is your birthday?

= คุณเกิดวันไหน

 

I was born on the 1st, January 1999.

= ผม/ฉันเกิดวันที่ 1 มกราคมปี 2542

How tall are you?

= คุณสูงเท่าไร

 

I’m 155 cm.
= ผม/ฉันสูง 155 ซม.
How much do you weigh?

= คุณหนักเท่าไร

ปล. ไม่ควรถามในชีวิตประจำวันเลยเพราะไม่สุภาพ

My weight is 40 kg.

= ฉัน/ผม หนัก 40 กก.

 

 

What’s your shoe size?

= รองเท้าคุณเบอร์ไหนคะ/ครับ

 

My shoe size is 9.

= ไซส์รองเท้าผม/ฉัน คือ 9

 

เพิ่มเติม:

ในประเทศสหรัฐอเมริกา (US) และประเทศอังกฤษ (UK) จะใช้ตัวเลขเดี่ยวๆบอกไซส์รองเท้า เช่น 8, 9
แต่ถ้าแถบประเทศยุโรปจะใช้ ตัวเลขสองหลักเช่น
41, 42

 

 ข้อมูลครอบครัว (Family information)

 

family giving and asking for general info

คำถาม คำตอบ
Do you have any siblings?
= คุณมีพี่น้องมั้ย
I don’t have any brothers or sisters.
= ผม/ฉันไม่มีพี่น้องเลย 
How many people in your family?

= ครอบครัวของคุณมีสมาชิกกี่คน

There are 7 people in my family.
ครอบครัวผมมี 7 คนด้วยกัน
Who do you live with?

= คุณอาศัยอยู่กับใคร

I live with my + สมาชิกในครอบครัว, เพื่อน

เช่น

I live with my mom. ฉันอาศัยอยู่กับแม่
I live with my roommate. ฉันอาศัยอยู่กับรูมเมท

What does your father do?
= คุณพ่อทำงานอะไร 
He works as a + อาชีพ.

ตัวอย่างอื่นๆ เช่น

I work as a writer.
ฉันทำงานเป็นนักเขียน

I work as an English teacher.

ฉันทำงานเป็นครูภาษาอังกฤษ

 

นักเรียนสามารถเอาคำศัพท์จากหมวดอาชีพมาลองฝึกแต่งประโยคเพื่อตอบข้อนี้ได้นะคะ หรือถ้าหากว่าไม่รู้จักคำศัพท์คำไหนก็สามารถโพสต์ถามด้านล่างได้เลยเด้อ

 

3 เทคนิคการใช้กริยาบอกอาชีพในอนาคต

 

3เทคนิคกริยาบอกอนาคต

 

เทคนิคที่1 พูดถึงอนาคตโดยใช้ will

 

I will be + ตามด้วยอาชีพที่อยากจะทำ+( in the future)

ตัวอย่างประโยคเช่น: I will be a teacher (in the future.)

= ฉันจะเป็นครูในอนาคตข้างหน้า

แต่พออนาคตมาถึงอาจจะไม่เป็นก็ได้ใครจะรู้

ตัวอย่างอื่นๆที่ใช้โครงสร้าง Subject + will + V. infinitive ยังสามารถใช้ได้ดังนี้

เช่น I will go to school tomorrow.
= ฉันจะกำลังเรียนอยู่พรุ่งนี้

แค่พูด ณ ตอนที่นึกได้ว่าจะไปโรงเรียน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่แน่ใจที่สุดว่าจะไปโรงเรียนจริงไหม

ใช้ในกรณที่ เราตัดสินใจที่จะทำ หรือกะจะทำ

เช่น

Situation: Your friend is asking you to hang out tonight.
Nanny: Let’s go out tonight.
Danny: I will.

แนนนี่ชวนแดนนี่ไปเที่ยวกลางคืนแต่แดนนี่ที่พูดแบบไม่ได้คิดดีๆ ก็ตอบกลับไปว่า I will. = ไปดิ

(ซึ่งเป็นการตัดสินใจแบบกะทันหัน ไม่ได้กะว่าจะไปแต่เพื่อนชวน ก็ตอบ ไปไว้ก่อน)

 

เทคนิคที่ 2 พูดถึงอนาคตโดย Present Continuous

โครงสร้างประโยค: Subject + V. to be (is, am, are)+ V.ing

ตัวอย่าง: I am preparing to be an engineer at the age of 27.

เมื่อฉันอายุ 27 ปี ฉันจะต้องเป็นวิศวกรให้ได้ บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นว่าจะทำงานเป็นวิศวกรแน่ๆ เพราะกำลังเตรียมตัวอย่างหนัก (preparing)

Present Continuous ในการบอกอนาคตนั้นมีข้อสังเกตที่ชัดเจนมากคือ มักมีคำบอกเวลาแนบบอกอนาคต มาด้วย
ตัวอย่าง next week, tomorrow, next moth, next year, จุดๆ หนึ่งของเวลาในอนาคต เช่น
at age of + อายุ
(เมื่ออายุ…)

เช่น We are having dinner tonight.

ประโยคนี้แปลว่า เราจะกินข้าวกันเย็นนี้ เพราะมีตัวกำกับเวลา ก็คือคำว่า tonight

 

เทคนิคที่ 3: ” เหตุการณ์ที่จำทำแน่ๆ ใช้ โครงสร้าง V. to be + going to V.”

เราก็ยังอยู่ในโครงสร้างของ Present Continuous แต่เน้นที่ going to จะทำจริงๆนะ

ตัวอย่างการใช้
เป็นการพูดถึงอนาคตที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด เป็นสิ่งที่ตัดสินใจ หรือวางแผนว่าจะทำอยู่แล้ว

I am going to work at the JYP tomorrow.

ฉันจะไปทำงานที่ JYP พรุ่งนี้

ตัวอย่างอื่นๆ เช่น

เช่น I am going to go to the concert next month.
= ฉัน/ผมจะไปดูคอนเสิร์ตสัปดาห์หน้า (วางแผนแล้วว่าจะไป มีความเป็นไปได้สูง)

นอกจากนี้ going to จะใช้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ

เช่น

 Situation: The sky’s overcast. ท้องฟ้ามืดครึ้ม    

Nanny: The sky’s overcast out there.
= ข้างนอกนั่นท้องฟ้ามืดครึ้มจัง
Tommy: “It is going to rain soon.”
= ฝนกำลังจะตกแน่ๆเลย (เพราะว่ามันครึ้มมาก)

 

เป็นอย่างไรบ้างคะ บอกแล้วว่าการพูดถึงอนาคตไม่ใช่จะใช้เพียงแค่ will กับ going to เท่านั้น ก็สามารถบอกอนาคตได้แล้ว (บอกตอนไหนเนี่ย) ขอให้นักเรียนที่น่ารักทุกคนมีความสุขในการเรียนนะคะ หากว่าเรายังค้นหาตัวเองหรือความฝันไม่เจอ ครูอยากให้ลองค้นหาต่อไปในสิ่งที่เราชอบทำอาจจะเป็นงานอดิเรก หรือ เกมที่เราชอบเล่นก็ได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องมีอาชีพเหมือนใคร แค่เราได้ทำในสิ่งที่รักและรักในสิ่งที่ทำ ครูเชื่อว่าเราจะมีอาชีพที่มีความสุขได้อย่างแน่นอนค่ะ

อย่าลืมดูวีดีโอทบทวนบทเรียนในหัวข้อ “การใช้ประโยคเกี่ยวกับอาชีพ สัญชาติ ข้อมูลส่วนบุคคล และอาชีพที่อยากทำในอนาคต”กันด้วยเด้อ

เลิฟๆ

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

รอบรู้เรื่องคำไทย คำศัพท์คำไหนภาษาไทยยืมมาจากต่างประเทศ

บทนำ สวัสดีน้อง ๆ ที่น่ารักทุกคน กลับมาพบกับบทเรียนภาษาไทยสนุก ๆ พร้อมสาระความรู้ดี ๆ ซึ่งวันก็เช่นเคยเราจะมาเข้าสู่เนื้อหาการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เพราะภาษาไทยที่เราใช้กันในปัจจุบันก็มีที่มาจากการยืมคำจากภาษาต่างประเทศมา และไม่ได้มีการยืมแค่ในภาษาบาลีหรือสันสกฤษเท่านั้น แต่ยัลมีภาษาอื่น ๆ อีก เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ทุกคนมาทำความรู้จักกับคำจากภาษาต่างประเทศที่เราใช่ในภาษาไทยกันให้ลึกขึ้นอีกระดับหนึ่ง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปเริ่มเรียนกันได้เลย     สาเหตุการยืมของภาษาไทย มาเริ่มกันที่จุดเริ่มต้น หรือสาเหตุที่ทำไมคนไทยจึงต้องหยิบยืมคำจากภาษาต่างประเทศมาใช้

ถอดคำประพันธ์ กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า พร้อมศึกษาคุณค่าในเรื่อง

  ในบทเรียนก่อนหน้าเราได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมา ลักษณะคำประพันธ์และเรื่องย่อกลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้าไปแล้ว บทเรียนภาษาไทยในวันนี้จะต่อเนื่องกับครั้งก่อนโดยการพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่องตัวบทเด่น ๆ ถอดคำประพันธ์ กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า พร้อมทั้งศึกษาคุณค่าที่แฝงอยู่ในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม เนื้อหา หรือด้านวรรณศิลป์ ถ้าน้อง ๆ พร้อมจะเรียนวรรณคดีเรื่องนี้ต่อไปแล้ว ก็ไปลุยพร้อมกันเลยค่ะ     ถอดคำประพันธ์ กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า   สกุลเอ๋ยสกุลสูง ชักจูงจิตชูศักดิ์ศรี อำนาจนำความสง่าอ่าอินทรีย์

P5 NokAcademy_การเรียนเกี่ยวกับทิศทางและการถามทาง

การเรียนเกี่ยวกับทิศทางและการถามทาง

สวัสดีค่ะนักเรียนป.5 ที่น่ารักทุกคน เคยมั้ยที่เราเจอฝรั่งถามทางแล้วตอบไม่ได้ ทำได้แค่ชี้ๆ แล้วก็บ๊ายบาย หากทุกคนเคยเจอปัญหานี้ ต้องท่องศัพท์และรู้โครงสร้างประโยคที่สำคัญในการถามทางแล้วล่ะ  หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย กับหัวข้อ การเรียนเกี่ยวกับทิศทางและการถามทาง   มาเริ่มกับการ “ถาม-ตอบเกี่ยวกับทิศทาง”   วิธีการถามตอบ: โครงสร้าง:  How can I get to…(name of the place)..? แปล

โจทย์ปัญหาเลขยกกำลัง

โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเลขยกกำลัง

โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเลขยกกำลัง          เราสามารถนำความรู้เกี่ยวกับเลขยกกำลังที่เรียนมาไม่ว่าจะเป็น การคูณ การหาร เลขยกกำลัง และการเขียนเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเลขยกกำลัง รวมทั้งไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้มากมาย  ในบทความนี้จะกล่าวถึงการนำความรู้เกี่ยวกับเลขยกกำลังไปใช้แก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ ตัวอย่างที่ 1 – 3 ตัวอย่างที่ 1  เด็กชายศิระนำแท่งลูกบาศก์ไม้ขนาด 5³ ลูกบาศก์เซนติเมตร  มาจัดวางในลูกบาศก์ใหญ่ที่มีความยาวของแต่ละด้านเป็น

กลอนบทละคร

กลอนบทละครอ่านอย่างไรให้ถูกต้อง และไพเราะ

บทนำ สวัสดีน้อง ๆ ที่น่ารักทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่เนื้อหาการเรียนรู้ภาษาไทยอีกครั้ง สำหรับใครที่กำลังรอคอย  บทเรียนเกี่ยวกับการอ่านบทอาขยานต้องมาทางนี้เลย เพราะว่าเราจะมาเรียนรู้หลักการอ่านอาขยานในประเภทบทละคร ซึ่งแน่นอนว่านอกจากน้อง ๆ จะได้เรียนรู้วิธีการอ่านที่ถูกต้องแล้ว ก็ยังจะได้สนุกไปกับเนื้อเรื่องของบทละครที่เราจะยกมาเป็นตัวอย่างในเนื้อหาวันนี้ด้วย ถ้าหากทุกคนพร้อมแล้วอย่ารอช้า เตรียมตัวไปเข้าสู่บทเรียนกันเลย     บทอาขยาน คืออะไร อาขยาน [อา – ขะ – หยาน] คือ

ระยะห่างของเส้นตรง

ระยะห่างของเส้นตรง

ระยะห่างของเส้นตรง ระยะห่างของเส้นตรง มีทั้งระยะห่างระหว่างจุดกับเส้นตรง และระหว่างเส้นตรงสองเส้นที่ขนานกัน ซึ่งจากบทความเรื่องเส้นตรง น้องๆพอจะทราบแล้วว่าเส้นตรงสองเส้นที่ขนานกันความชันจะเท่ากัน ในบทความนี้น้องๆจะทราบวิธีการหาระยะห่างของเส้นตรงที่ขนานกันด้วยซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ในการหาสมการเส้นตรงได้ด้วย ระยะห่างระหว่างเส้นตรงกับจุด จากรูปจะได้ว่า  โดยที่ A, B และ C เป็นค่าคงที่ และ A, B ไม่เป็นศูนย์พร้อมกัน ตัวอย่าง1  หาระยะห่างระหว่างจุด (1, 5) และเส้นตรง 2x

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1