เพลงพื้นบ้าน เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนในอดีตผ่านบทเพลง

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

ในอดีตประเทศไทยจัดว่าเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ประชาชนมีชีวิตที่สุขสบาย เมื่อมีเวลาว่างก็มักรวมตัวกันในชุมชนเพื่อร้องรำทำเพลง เล่นกันสนุกสนาน หรือในงานเทศกาลต่าง ๆ บทเพลงที่ใช้ร้องเล่นกันนั้นเรียกว่า เพลงพื้นบ้าน ซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ท้องถิ่น บทเรียนในวันนี้เราจะไปพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของเพลงพื้นบ้านในแต่ละถิ่นของประเทศไทยกันว่าจะมีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ

 

เพลงพื้นบ้าน

 

เพลงพื้นบ้าน หมายถึง เพลงของชาวบ้านในท้องถิ่นต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละท้องถิ่นจะมีการร้องเล่นที่แตกต่างกันออกไปตามสภาพของท้องถิ่นนั้น ๆ นิยามเล่นกันในเทศกาลต่าง ๆ หรืองานที่มาร่วมรื่นเริงกัน หรือแม้แต่ในขณะทำงานและยามว่างจากการทำงานด้วย เป็นเพลงที่มีทำนองง่าย ๆ ถ้อยคำภาษาที่ใช้ในเพลงก็เป็นคำที่เรียบง่าย แต่ฟังแล้วกินใจ

 

เพลงพื้นบ้าน

 

เพลงพื้นบ้านแต่ละภาค

 

เพลงพื้นบ้านในแต่ละท้องถิ่นจะมีบทร้องและท่วงทำนองแตกต่างกันไปตามสภาพธรรมชาติ ความเป็นอยู่ ความนิยม ละสำเนียงที่ใช้พูดกันในท้องถิ่นนั้น ๆ

 

เพลงพื้นบ้าน

 

เพลงพื้นบ้านภาคกลาง

เพลงเรือ เป็นเพลงพื้นบ้านของชาวไทยภาคกลางที่อยู่ตามริมลำน้ำ มีการร้องตอบโต้ระหว่างชาย-หญิง มีตั้งแต่บทไหว้ครู บทเกี้ยว และบทลา นิยมเล่นในงารประเพณีต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตทางน้ำ

เพลงเกี่ยวข้าว เพลงเกี่ยวข้าว เป็นชื่อเพลงพื้นบ้านเพลงหนึ่งทางภาคกลางของไทย นิยมร้องในเวลาลงแขกเกี่ยวข้าวหรือเสร็จจากการทำงาน เพื่อให้เกิดความสนุกสนาน ผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าระหว่างการทำงาน สิ่งที่สำคัญของการร้องเพลงเกี่ยวข้าวคือ ทำให้เกิดความสามัคคีระหว่างเพื่อนบ้านที่ทำงานร่วมกัน การร้องเพลงเกี่ยวข้าวที่มักจะร้องถามถึงการทำนา และการเกี้ยวพาราสีกันบ้างตามประสาเพลงพื้นบ้าน

เพลงฉ่อย เพลงฉ่อย เป็นเพลงพื้นเมืองที่มีการแสดงท่าทาง และการร้องคล้ายกับลำตัด โดยมีผู้แสดงประกอบด้วย ฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ฝ่ายละประมาณสองถึงสามคน ในขณะที่พ่อเพลงแม่เพลงร้องโต้ตอบกันผู้เล่นคนอื่นๆ จะทำหน้าที่เป็นลูกคู่ เนื้อหาที่ร้องส่วนใหญ่มีทั้งเรื่อง ทางโลก ทางธรรม ชิงชู้ และมักจะมีถ้อยคำ ที่มีความหมายสองแง่สองง่าม การแสดงเพลงฉ่อยจะไม่มีเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ แต่จะใช้การตบมือเป็นจังหวะแทน

 

 

ลำตัด เป็นการละเล่นที่มีผู้แสดงเป็นชายและหญิงว่าเพลงร้องแก้กัน มีลูกคู่และรำมะนาประกอบ การเล่นลำตัดดัดแปลงมาจากการแสดงดิเกหรือจิเกของชาวมลายู ซึ่งเป็นการขับร้องเพลงสวดบูชาพระอัลเลาะห์ประกอบจังหวะรำมะนาของชาวมุสลิม

 

เพลงภาคเหนือ

เพลงค่าว เป็นบทขับร้องที่มีทำนองสูงต่ำ ไพเราะ เป็นฉันทลักษณ์ของชาวล้านนาที่ระบุจำนวนคำในวรรคและสัมผัสระหว่างวรรคคือ “สามตัวเหลียว เจ็ดตัวเตียว บาทหลัง บาทหน้า”

เพลงจ๊อย เป็นวิธีขับลำนำ มักดำเนินท่วงทำนองไปอย่างช้า ๆ มีการเอื้อน และอาจมีเครื่องดนตรีบรรเลงคลอประกอบหรือไม่มีก็ได้

เพลงซอ เป็นการขับร้องที่มีซอเป็นเครื่องดนตรีที่ให้ทำนอง ซอจะต้องขับร้องด้วยถ้อยคำที่สัมผัสคล้องจองกัน ตามท่วงทำนองของเพลงซอ นั้น ๆ ซอแต่ละทำนองนั้นจะส่งคำสัมผัสและคำรับสัมผัสที่ไม่เหมือนกัน “คำซอ” หรือบทขับร้องซอนั้น จะไม่ส่งสัมผัสเหมือนบทค่าวหรือบทกวีเลย แต่จะสัมผัสโยงถ้อยคำ ในทำนองแต่ละเพลงนั้นโดยเฉพาะเท่านั้น

 

เพลงพื้นบ้านภาคใต้

เพลงเรือ เพลงพื้นเมืองภาคใต้ ทำนองเป็นกลอนเพลง สำหรับให้จังหวะในการพายเรือคล้ายภาคกลางแต่ภาษาที่ใช้ร้องเป็นภาษาถิ่นใต้

เพลงบอก คือบทร้อยกรองประเภทหนึ่ง ที่ร้องกันตามงานบุญประเพณี ทั้งงานบวช งานศพ หรืองานบุญทอดผ้าป่า ทอดกฐิน โดยเฉพาะ ช่วงวันสงกรานต์ จะมีคณะเพลงบอก จะเดินไปตามบ้าน ร้องเพลงบอกยกย่อง ชื่นชมเจ้าของบ้าน แล้วจบลงด้วยการบอกบุญ เรี่ยไรเงินทองเข้าวัด

เพลงนา เป็นการละเล่นกลอนโต้ตอบระหว่างหนุ่มสาวในท้องนา งานวัดหรืองานมงคลต่าง ๆ เพื่อใช้สื่อความรักเกี้ยวพาราสีขณะหนุ่มไปเยือนสาวที่บ้าน การเล่นจะมีแม่เพลงซึ่งมีไหวพริบ รอบรู้ และท้ายไฟ (คนคอยเสริม) ด้วย

 

เพลงพื้นบ้านภาคอีสาน

เพลงเซิ้ง เพลงที่ร้องประกอบพิธีกรรมต่างๆ ตามความเชื่อของคนอีสาน ร้องเพื่อให้คนที่ร่วมงานเกิดความสนุกสนานและเป็นการสนุกสนานร่วมกันระหว่างคนร้องและคนดูด้วย โดยการร้องเพลงเซิ้งจะมีคนขับกาพย์นำและจะมีลูกคู่คอยร้องรับด้วย เพลงเซิ้งจะมีลักษณะเป็นการด้นกลอนสด

เพลงหมอลำ เป็นรูปแบบของเพลงลาวโบราณในประเทศลาวและภาคอีสานของประเทศไทย สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายอย่าง ตามลักษณะทำนองของการลำ

 

 

ตัวอย่างเพลงพื้นบ้านภาคกลาง

 

 

เพลงพื้นบ้านเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของวัฒนธรรมไทย ที่ทำให้เราสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย คติชาวบ้าน คำประพันธ์ ภาษาถิ่น และวิถีชีวิตของผู้คนในอดีตผ่านบทเพลงที่สนุกสนานและไพเราะ แม้ว่าในปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยจะทำให้หลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไปทำให้เพลงบางเพลงสูญหายไปเพราะไร้คนสืบทอด ดังนั้นเราจึงควรช่วยกันรักษาเพลงพื้นบ้านของไทยไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ความงดงามทางภาษาและวัฒนธรรมอันดีงามเช่นเดียวกันกับเราด้วยนะคะ สุดท้ายนี้น้อง ๆ สามารถติดตามความรู้ดี ๆ ได้จากการคลิปการสอนของครูอุ้ม โดยในบทเรียนเรื่องเพลงพื้นบ้านนี้ครูอุ้มก็ได้ยกตัวอย่างเพลงเรือของภาคกลางมา ไปดูกันเลยค่ะเพลงนี้มีการร้องและเล่นกันอย่างไรบ้าง

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

ขั้นตอนของการแก้โจทย์ปัญหา บทความนี้จะทำให้น้องๆ มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ซึ่งได้รวบรวมตัวอย่างไว้อย่างหลากหลาย แต่ก่อนที่น้องๆจะเรียนเรื่องนี้อย่าลืมทบทวน การแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว กันก่อนนะคะ ถ้าน้องๆพร้อมแล้วเรามาศึกษาขั้นตอนของการแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการ ดังนี้               ขั้นที่ 1 วิเคราะห์โจทย์ว่ากำหนดอะไรให้บ้าง และให้หาอะไร               ขั้นที่ 2 กำหนดตัวแปรแทนสิ่งที่โจทย์ให้หาหรือแทนสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่โจทย์ให้หา               ขั้นที่ 3 เขียนสมการตามเงื่อนไขของโจทย์               ขั้นที่

การสร้างตารางค่าความจริง

บทความนี้เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการสร้างตารางค่าความจริงของประพจน์ เป็นเนื้อหาที่ไม่ยากมากหลังจากน้องๆได้อ่านบทความนี้แล้ว น้องๆจะสามารถสร้างตารางค่าความจริงได้ สามารถบอกได้ว่าประพจน์แต่ละประพจน์เป็นจริงได้กี่กรณีและเป็นเท็จได้กี่กรณี และจะทำให้น้องเรียนเนื้อหาเรื่องต่อไปได้ง่ายยิ่งขึ้น

เทคนิคการใช้ Yes, No Questions M.1

เทคนิคการใช้ Yes, No Questions ในภาษาอังกฤษ

  สวัสดีค่ะนักเรียน ม.  1 ที่น่ารักทุกคนวันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิคและวิธีการอย่างง่ายในการใช้ประโยค Yes/No questions กันค่ะไปลุยกันเลยค่า Yes, No Questions คืออะไร คือ ประโยคคำถามที่ต้องการคำตอบรับ (Yes) หรือปฏิเสธ (No) เป็นการถามที่ผู้ถามอาจจะมีข้อมูลอยู่บ้างว่า ว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หรือผู้ถามอาจจะถามเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นจริงตามที่เข้าใจหรือเปล่า ในที่นี้ครูจึงแยกออกเป็น 3 ชนิดค่ะ คือ ประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย

can could

การตั้งคำถามโดยใช้ Can และ Could

สวัสดีน้องๆ ป. 6 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการใช้กริยาช่วยคือ Can และ Could กันครับ ถ้าพร้อมแล้วเราลองไปดูกันเลย

should have

I Should Have Done It! โครงสร้างประโยค “รู้งี้”

สวัสดีน้องๆ ม. 6 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับหลักไวยากรณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่ได้ใช้ประโยชน์มากๆ นั่นคือเรื่องการใช้ should have + past participle นั่นเองครับ จะเป็นอย่างไรลองไปดูกันเลยครับ

วัฒนธรรมกับภาษา

วัฒนธรรมกับภาษา ความสัมพันธ์ของสองสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น

มนุษย์ก่อให้เกิดภาษา และภาษาก็ก่อให้เกิดวัฒนธรรม น้อง ๆ สงสัยกันหรือไม่คะว่ามนุษย์ วัฒนธรรมกับภาษา เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกันได้อย่างไร บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเจาะลึกถึงเรื่องราวที่ว่านี่กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้กันเลยค่ะ   มนุษย์ วัฒนธรรมกับภาษา   วัฒนธรรม คืออะไร วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น รากศัพท์ในภาษาละตินมีความหมายว่าการเพาะปลูก แต่ไม่ได้ใช้แค่ในเชิงเกษตรกรรม แต่จะรวมไปถึงการปลูกฝังในด้านต่าง ๆ ทั้งให้การศึกษา ความเคารพ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่มนุษย์เปลี่ยนแปลง

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1