เรียนรู้และทำความเข้าใจการใช้คำในภาษาไทยอย่างง่ายๆ

การใช้คำ

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

การใช้คำในภาษาไทย มีความสำคัญมาก แม้ว่าน้อง ๆ จะคุ้นเคยกับภาษาไทยดีในระดับหนึ่งแล้ว แต่แน่ใจหรือเปล่าคะว่าใช้คำกันได้อย่างถูกต้องแล้ว เพราะการใช้คำให้ถูกก็ถือเป็นเรื่องสำคัญค่ะ ดังนั้นบทเรียนหลักภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่องการใช้คำต่าง ๆ ได้ถูกต้องกันค่ะ จะมีอะไรบ้างไปเรียนรู้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ

 

การใช้คำ

 

การใช้คำในภาษาไทย

 

การใช้คำกำกวม

 

คำกำกวม คือ การใช้คำหรือภาษาที่มีความหมายไม่ชัดเจน เป็นเหตุให้การสื่อสารผิดพลาด มีลักษณะสำคัญดังนี้

– ใช้คำขยายผิดที่

– ใช้กลุ่มคำหรือคำประสมที่อาจเป็นประโยคได้

– ใช้คำที่มีหลายความหมาย (พ้องรูปพ้องเสียง)

– เว้นวรรคไม่ถูกต้อง

 

การใช้คำในภาษาไทย

 

เกร็ดน่ารู้ เกี่ยวกับการใช้คำขยายผิดที่ วิธีที่สังเกตกันอย่างง่าย ๆ ว่าประโยคนี้เป็นการใช้คำกำกวมหรือไม่ ให้ดูว่าผู้ ที่ ซึ่ง อัน อยู่หลังคำไหน เพราะเมื่อคำเหล่านี้ไปหลังคำไหนก็มักจะขยายคำนั้น ถ้าไปขยายแล้วไม่เข้าใจ อ่านแล้วสับสน หมายความว่าวางคำขยายผิดนั่นเองค่ะ

 

การใช้คำฟุ่มเฟือย

 

เป็นการใช้คำที่เกินความจำเป็น ความหมายไม่กระชับรัดกุม บางครั้งเป็นการใช้คำผิดความหมาย หรือผิดหลักการใช้ภาษา อาจทำให้ประโยคมีความยืดเยื้อจนผู้ฟังจับใจความได้ยาก เช่น การติดพูดว่า ทำการ, มีการ, ทำความ, มีความ, แบบว่า, ในส่วนนี้ และคำเชื่อมต่าง ๆ ที่บางครั้งก็เผลอใช้ติด ๆ กันโดยไม่รู้ตัว เช่น ที่, ซึ่ง, อัน, แล้ว เป็นต้น

 

การใช้คำในภาษาไทย

 

เกร็ดน่ารู้ วิธีแก้ไขคำฟุ่มเฟือยอย่างง่าย คือลองตัดคำออก ถ้าตัดคำไหนออกแล้วประโยคยังเข้าใจได้อยู่ ความหมายไม่เปลี่ยนแปลง แสดงว่านั่นเป็นคำฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็น

 

การใช้คำให้ถูกตามหลักภาษา

 

การใช้คำบุพบท กับ,แก่,แด่,ต่อ ให้ถูกต้อง มีลักษณะดังนี้

กับ มีความหมายว่า รวมกัน ใช้เชื่อมคำหรือความเข้าด้วยกัน

แก่ มีความหมายว่า สำหรับ ใช้นำหน้านามฝ่ายรับ ผู้ที่มีศักดิ์เสมอกันหรือต่ำกว่าผู้ให้

แด่ มีความหมายว่า สำหรับ เพื่อ อุทิศ ใช้นำหน้านามฝ่ายรับ ซึ่งมีศักดิ์สูงกว่าผู้ให้

ต่อ มีความหมายว่า เฉพาะ ใช้เพื่อแสดงความหมายของการมอบสิ่งของให้ต่อหน้า หรืออยู่ในบริบทของการประจันหน้า

 

 

สำนวนต่างประเทศ

 

โครงสร้าง โครงสร้างภาษาไทยจะเป็นแบบ ประธาน + กริยา + กรรม แต่ถ้าขึ้นต้นด้วยกรรมก็เป็นสำนวนต่างประเทศ

ต่อการ หนังสือเล่มเหมาะสมต่อการเป็นแบบเรียน ถ้าตัดต่อการออกความหมายยังเหมือนเดิม

การใช้ลักษณนาม ภาษาไทยมีลักษณะนามของแต่ละคำ เช่น ผู้ชาย 2 คน คือการเรียกลักษณนามแบบไทย แต่ถ้าเรียกว่า 2 หนุ่ม เป็นสำนวนต่างประเทศ

การใช้คำว่า ให้ความ มีความ ในความ ทำความ เป็นคำฟุ่มเฟือย และเป็นสำนวนต่างประเทศอีกด้วย

ในอนาคตอันใกล้ – ฉันจะไปเรียนต่างประเทศในอนาคตอันใกล้

นำมาซึ่ง – การแสดงความคิดเห็นจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ยังมีคำที่เป้นสำนวนต่างประเทศอีก อย่างเช่นคำว่า เต็มไปด้วย, มันเป็นอะไรที่, เป็นที่, ในความคิดของฉัน, มันเป็นการยากที่, รักษาไว้ซึ่ง, ก่อให้เกิด เป็นคำที่เรามักเห็นกันได้บ่อย ๆ ในประโยคภาษาอังกฤษ เวลาแปลก็เลยมักจะแปลตามตัว ซึ่งไม่ควรเอามาใช้ในทั่วไป เพราะผิดหลักเรื่องการใช้คำ

 

 

เห็นไหมคะน้อง ๆ ว่าคำที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เพราะความเคยชิน ทำให้เราแทบไม่สังเกตและดูไม่ออกเลยว่าใช้กันถูกหรือไม่อย่างไร ดังนั้นเพื่อการใช้คำในภาษาไทยในถูกต้อง อย่าลืมหมั่นทบทวนความรู้และดูคลิปบทเรียนเรื่องการใช้คำในภาษาไทยระหว่างทำแบบฝึกหัดนะคะ ไปชมกันเลยค่ะ

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

ประโยคปฏิเสธรูปแบบอดีต

สวัสดีค่ะนักเรียน ม.2 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปทบทวนเรื่อง ประโยคปฏิเสธรูปแบบอดีต ซึ่งเมื่อเล่าถึงเวลาในอดีตส่วนใหญ่แล้วเรามักเจอคำว่า yesterday (เมื่อวานนี้), 1998 (ปี ค.ศ. ที่ผ่านมานานแล้ว), last month (เดือนที่แล้ว)  และกลุ่มคำอื่นๆ ที่กำกับเวลาในอดีต ซึ่งเราจะเจอ Past Time Expressions ในกลุ่ม Past Tenses หรือ อดีตกาล

สำนวนนี้มีที่มา เรียนรู้ความหมายและที่มาของ สำนวนไทย

สำนวนไทย เป็นสิ่งที่คนรุ่นก่อนใช้ความคิดและประสบการณ์สั่งสอนลูกหลาน เกิดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมด้านคติธรรมที่แสดงถึงความรุ่งเรืองทางภาษาของประเทศไทย บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้สำนวนไทยที่เห็นกันบ่อย ๆ แต่หลายคนอาจจะใช้ไม่ถูกต้อง ไม่รู้ความหมายที่ถูกต้อง พร้อมทั้งเรียนรู้ที่มาของสำนวนด้วย ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้กันเลยค่ะ   สำนวนไทย   สำนวนไทย หมายถึง ถ้อยคำที่คมคายซึ่งเป็นถ้อยคำที่ใช้พูดสื่อสารกันโดยมีความหมายที่กว้างและลึกซึ้ง เป็นความหมายโดยนัย ไม่ได้แปลตรงตัวเพื่อใช้เป็นคำพูดในเชิงสั่งสอน เตือนสติ มุ่งสอนใจหรือชี้แนะให้ประพฤติปฏิบัติตาม   ที่มาของสำนวนไทย   สำนวนไทยมีมูลเหตุและที่มาของการเกิดหลายประการ

ลิลิตตะเลงพ่าย

ถอดความหมายตัวบทเด่นใน ลิลิตตะเลงพ่าย

ลิลิตตะเลงพ่าย เป็นวรรณคดีเรื่องดังที่มีตัวบทเด่น ๆ มากมาย สำหรับการถอดคำประพันธ์ในวันนี้เราได้คัดเลือกบทเด่น ๆ มาให้น้อง ๆ ได้เรียนกันถึง 13 บทเลยทีเดียว แต่เพราะเนื้อหาที่สนุก ภาษาที่สละสลวย รับรองว่าน้อง ๆ จะไม่มีทางเบื่อวรรณคดีเรื่องนี้แน่นอน ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนความหมายของแต่ละบทพร้อมกันเลยนะคะ ตัวบทเด่น ๆ ใน ลิลิตตะเลงพ่าย   บทที่ 1  

การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง

การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง คือ การนำเสนอข้อมูลที่ได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลไว้โดยใช้รูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก ซึ่งเเต่ละรูปมีความกว้างเท่ากัน เเละใช้ความสูงหรือความยาวเเสดงปริมาณของข้อมูล เเต่จุดเริ่มต้นจะต้องเริ่มในระดับเดียวกันเสมอ อาจอยู่ในเเนวตั้งหรือเเนวนอนก็ได้ การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่งเปรียบเทียบ คือ การนำเสนอข้อมูลโดยเปรียบเทียบข้อมูลตั้งเเต่ 2 ชุดขึ้นไปในแผนภูมิเดียวกัน โดยมีเเท่งสี่เหลี่ยมที่เเสดงข้อมูลชนิดเดียวกันอยู่ด้วยกันเป็นชุดๆ เเละมีสีหรือเเรเงาในเเท่งสี่เหลี่ยมต่างกัน เเละระบุไว้บนเเผนภูมิด้วยว่าสีหรือเเรเงานั้น ๆ เป็นข้อมูลของอะไร ตัวอย่างของแผนภูมิเเท่งเปรียบเทียบ ส่วนประกอบของเเผนภูมิแท่ง: 1. ชื่อแผนภูมิ 2. จำนวน 3.

Profile Linking Verbs

มาทำความรู้จักกับ Linking Verbs ให้มากขึ้น

สวัสดีค่ะนักเรียนม.1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปรู้จักกับ Linking Verbs ให้มากขึ้น แต่ก่อนอื่นไปดูความหมายของ Linking Verbs กันก่อนนะคะ ไปลุยกันเลย มาทำความรู้จักกับ Linking Verbs     Linking verbs คืออะไรกันนะ Linking แปลว่า การเชื่อม มาจากรากศัพท์ link ที่เป็นกริยาเติมด้วย

เรียนรู้ตัวบทเด่นของบทละครพูดคำฉันท์เรื่องดัง มัทนะพาธา

มัทนะพาธา เป็นบทละครพูดคำฉันท์ที่ประพันธ์โดยรัชกาลที่ 6 ซึ่งพระองค์ทรงคิดขึ้นเองไม่ได้แปลหรือดัดแปลงมาจากเรื่องใด จากการศึกษาความเป็นมาในบทเรียนคราวที่แล้วทำให้เราได้รู้ที่มา ลักษณะคำประพันธ์รวมไปถึงเรื่องย่อของเรื่องกันไปแล้ว บทเรียนในวันนี้เราจะศึกษาตัวบทเด่น ๆ ของเรื่องกันนะคะว่ามีบทใดที่ได้ชื่อว่าเป็นวรรคทอง ถอดความ พร้อมทั้งเรียนรู้คุณค่าของานประพันธ์ชิ้นนี้อีกด้วย ถ้าน้อง ๆ อยากรู้แล้วเราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ   ตัวบทเด่น ๆ ใน มัทนะพาธา     ถอดความ บทนี้เป็นคำพูดของฤษีกาละทรรศินที่กำลังอธิบายให้ศุภางค์ แม่ทัพของท้าวชัยเสนว่าเหตุใดพระฤษีจึงเห็นว่าการห้ามปรามความรักระหว่างพระชัยเสนกับมัทนาเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ โดยบอกว่า

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1