การใช้คำสันธาน (Conjunctions) เช่น and/ but/ or/ before/ after and etc.

Krumaiyha
Krumaiyha
คำเชื่อม Conjunction

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ที่รักทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้กันเรื่อง “การใช้คำสันธาน (Conjunctions) เช่น and/ but/ or/ before/ after and etc. กันนะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลด

คำสันธาน(Conjunctions)คืออะไร

 

ม.2การใช้คำสันธาน (Conjunctions) เช่น and but or before after and etc.

คำสันธาน (Conjunctions) คือ คำที่ใช้เชื่อมระหว่างประโยคต่อประโยค คำต่อคำ หรือระหว่างกริยาต่อกริยา และอื่นๆ เช่น and/ but/ or/ before/ after and etc. ดังตัวอย่างด้านล่างเลยจ้า

ประเภทของ Conjunctions

ก่อนที่จะไปดูการใช้ and/ but/ or/ before/ after นั้น เราจะต้องรู้จัก ประเภทของ Conjunction กันก่อน ซึ่งเราสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ด้านล่างจ้า

คำเชื่อม Conjunction (3)

Coordinating conjunctions

 

Coordinating conjunction มีหลายตัวอยู่เหมือนกันนะคะ แต่ทั้งหมดก็ทำหน้าที่เป็นคำสันธานเชื่อมประโยค 2 ประโยค ที่มีความสำคัญไปในทิศทางเหมือนกัน(and) หรือขัดแย้ง (but, yet)สรุป (so) ครูขอยกตัวอย่างบางตัวที่สำคัญๆ เช่น

คำเชื่อม Conjunction (4)

And (และ) ใช้เชื่อมประโยคที่มีความหมายไปในทางเดียวกัน (คล้อยตามกัน)

เช่น
I like raining, and he likes snowing.
ฉันชอบฝนและเขาชอบหิมะ

I like listening to a K-pop music, and he likes to dance.
ฉันชอบฟังเพลงเคป็อป และเขาชอบเต้น

yet / but  (แต่) ใช้เชื่อมประโยคที่มีความหมายขัดแย้งกัน

เช่น

Fon loves swiming, but she dislikes getting wet.
ฝนชอบว่ายน้ำ แต่เธอไม่ชอบเปียก

 

or  (หรือ) ใช้กับประโยค ให้เลือก อย่างใดอย่างหนึ่ง

เช่น

Please call me Tom or Timothy.
แปลโปรดเรียกผมว่าทอมหรือทิโมธี

Would you like a dessert or an ice cream?
แปล คุณต้องการของหวานหรือไอศกรีมดีคะ

เทคนิคการจำ:ให้ท่องว่า FANBOYS

F for เพราะว่า
A and และ
N nor ไม่ทั้งสอง
B but แต่
O or หรือ
Y yet แต่
S so ดังนั้น

 

Subordinating conjunctions

คำเชื่อม Conjunction (5)

หากเราจะใช้ before และ after ให้ถูกต้องนั้น เราจะต้องรู้ก่อนว่า มันอยู่ในกลุ่มของ Subordinating conjunction  ซึ่งก็คือคำสันธานใช้เชื่อมประโยคใจความรองเข้ากับประโยคใจความหลัก 

ดังตัวอย่าง เช่น

คำเชื่อม Conjunction (8)

  • Before: “ก่อน” ดังตัวอย่างการใช้ เช่น

I used to work in a hotel before I went to England.
ฉันเคยทำงานในโรงแรมก่อนที่จะไปอังกฤษ
เพิ่มเติม: การใช้ before จะตามด้วยเหตุการณ์ที่เกิดทีหลัง

  • After: “หลัง” ดังตัวอย่างการใช้ เช่น

คำเชื่อม Conjunction (9)

After I graduated, I moved to  Australia.
หลังจากที่ฉันเรียนจบ ฉันก็ย้ายไปออสเตรเลีย

เพิ่มเติม: After จะตามด้วยเหตุการณ์ที่เกิดก่อน

 


ตัวอย่างอื่นๆ เช่น

After I had moved to Canada, I suddenly got married. หลังจากที่ฉันย้ายไปแคนาดา ฉันก็แต่งงานทันที

 

***จะเห็นได้ว่า ย้ายไปก่อน จึงแต่งงาน ตามโครงสร้างประโยค
Past Perfect ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดก่อน (After I had moved to Canada,) และมี Past Simple แทรกเข้ามาทีหลัง (I suddenly got married.)

 

  • Because : เพราะ + S. +V.

เช่น

I moved to Canada because I wanted to do my MA.
ฉันย้ายไปแคนาดาเพราะฉันต้องการเรียนปริญญาโท

 

  • Although/Though/Even though : ถึงแม้ว่า + S. +V.

ตัวอย่างเช่น

แบบมี (,): Although I want to move to another country, I am still working in Thailand because of my students.

แปล แม้ว่าฉันจะอยากย้ายไปต่างประเทศ แต่ฉันก็ยังทำงานที่ประเทศไทยเพราะนักเรียนของฉัน

แบบไม่มี (,): My brother is still working outside even though it is snowing.
แปล พี่ชายของฉันยังคงทำงานอยู่ข้างนอกแม้ว่าหิมะจะตก

 

  • Since :เพราะว่า/เหตุเพราะว่า/ในเมื่อ
    ตัวอย่างเช่น

I broke up with John since he has an affair.
ฉันเลิกกับจอห์นเพราะว่าเขามีชู้

***since ณ ที่นี้เมื่อเชื่อมประโยคกับประโยคจะมีความหมายเหมือนกับ because (เพราะว่า)

นอกจากนี้ยังมี Subordinating conjunctions ที่น่าสนใจอีก เช่น as if, in a way that, where, wherever,  when, so that, so, although, whereas, etc.

Correlative conjunctions

คำเชื่อม Conjunction (6)

Correlative conjunction คือ คำสันธานที่ต้องใช้คู่กันเสมอ เช่น

  • Not only…but also : ไม่เท่านั้น…แต่อีกด้วยการใช้ not only but also เชื่อมประธานนั้น มันจะมีประธานสองตัว และกริยาแค่ตัวเดียว  ให้อิงประธานตัวที่อยู่หลัง but also เสมอนะคะ

เช่น

Not only my mother but also my father wants to have a new house.
ไม่เพียงแต่แม่เท่านั้นแต่พ่อของฉันต้องการบ้านใหม่ด้วย

  • Both…and… : ทั้ง… และ…

เช่น

We are on both Facebook and Instagram.
พวกเราเล่นทั้ง เฟสบุค และ อินสตาแกรม

 

สรุปการใช้ Conjunctions ง่ายๆ

 

  • ใช้เชื่อมนามกับนาม หรือ Gerund กับ Gerund
    (V.ing ที่ทำหน้าที่เหมือนคำนาม)
    ตัวอย่างเช่น
    คำเชื่อม Conjunction (11)

Noun VS Noun:

I like eating avocados and oranges.
ฉันชอบกินอะโวคาโดและส้ม

Gerund VS Gerund:

Jogging, swimming, and hiking are my hobbies.
จ็อกกิ้ง ว่ายน้ำ และเดินป่าเป็นงานอดิเรกของฉัน

 

 

  • ใช้เชื่อมคำกริยากับคำกริยาตัวอย่างเช่น
    คำเชื่อม Conjunction (10)

They eat and sleep  here every day.
พวกเขากินและนอนที่นี่ทุกวัน

They dance and jump at the same time.
พวกเขาเต้นและกระโดดพร้อมกัน

  • ใช้เชื่อมนามกับสรรพนามตัวอย่างเช่น
    คำเชื่อม Conjunction (12)

Mark and she will get married next week.
มาร์คกับเธอจะแต่งงานกันในสัปดาห์หน้า

  • ใช้เชื่อมสรรพนามกับสรรพนามตัวอย่างเช่น
    คำเชื่อม Conjunction (13)

He and she are very smart.
เขาและเธอฉลาดมาก

  • ใช้เชื่อมคุณศัพท์กับคุณศัพท์ตัวอย่างเช่น
    คำเชื่อม Conjunction (14)

I am cute and beautiful.
ฉันน่ารักและสวย

He is smart and witty.
เขาเป็นคนฉลาดและมีไหวพริบ

 

  • ใช้เชื่อมกริยาวิเศษณ์กับกริยาวิเศษณ์ตัวอย่างเช่น
    คำเชื่อม Conjunction (15)

They are walking slowly and quietly.
พวกเขากำลังเดินช้าๆและเงียบๆ

He sings peacefully, and beautifully.
เขาร้องเพลงอย่างสงบและไพเราะ

 

  • ใช้เชื่อมประโยคกับประโยคตัวอย่างเช่น
    คำเชื่อม Conjunction (16)

They want to book a ticket, and I want to book a flight.
พวกเขาต้องการจองตั๋ว และฉันต้องการจองเที่ยวบิน

He likes going out, but I like staying at home.
เขาชอบออกไปข้างนอก แต่ฉันชอบอยู่บ้าน

 

เป็นยังไงกันบ้างคะนักเรียน พอจะเข้าใจการใช้คำเชื่อมในรูปแบบต่างๆกันมากขึ้นหรือยังเอ่ย
ขอให้นักเรียนสู้ๆนะคะ ครูเป็นกำลังใจให้น๊า นักเรียนสามารถทบทวนบทเรียนได้ที่วีดีโอด้านล่างนะคะ

กดปุ่มเพลย์แล้วไปเรียนให้สนุกกันจ้า
Have fun! ขอให้สนุกน๊า

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การวัดปริมาตรและน้ำหนัก

การวัดปริมาตรและน้ำหนัก

ในบทความนี้เราจะได้เรียนรู้หน่วยที่ใช้ในการวัดปริมาตร และน้ำหนักที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังมีมาตรฐาน ซึ่งแต่ละหน่วยล้วนแต่มีความสัมพันธ์กัน

การเปลี่ยนแปลงของประโยค

การเปลี่ยนแปลงของประโยค ศึกษาธรรมชาติของภาษาที่ยังไม่ตาย

ภาษาเป็นกลไกสำคัญที่จะต้องเปลี่ยนแปลงควบคู่ไปกับสังคมมนุษย์ คำและประโยคในทุกภาษาอาจเปลี่ยนแปลงหรือหายไปพร้อมกับความเจริญและเสื่อมของสังคมตามยุคสมัย ภาษาที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะถูกนับเป็นภาษาที่ตายแล้ว ภาษาไทยเป็นอีกภาษาหนึ่งที่ยังคงมีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บทเรียนในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่อง การเปลี่ยนแปลงของประโยค หนึ่งในเรื่องราวที่น่าสนใจของเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางภาษา จะมีอะไรบ้างนั้น เราไปเรียนรู้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   การเปลี่ยนแปลงทางภาษา     ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางภาษา   1. เกิดจากปัจจัยทางสังคม   2. ลักษณะการออกเสียงของผู้พูด ในบางครั้งผู้พูดจะไม่สามารถออกเสียงคำได้อย่างถูกต้องทุกคำ

Profile where + preposition P6

การใช้ประโยค Where’s the + (Building) + ? It’s + (Preposition Of Place)

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับ ประโยค การถามทิศทาง แต่เอ้ะ Where is the building? แปลว่า ตึกอยู่ที่ไหน ประโยคนี้เป็นการถามทางแบบห้วนๆ ที่ใช้กับคนที่เราคุ้นชินหรือคนที่เรารู้จัก แต่หากนักเรียนต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องถามกับคนแปลกหน้าโดยเฉพาะฝรั่ง คงต้องมาฝึกถามให้สุภาพมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการเกริ่นขึ้นก่อนที่เราจะถามนั่นเองค่ะ ซึ่งนักเรียนที่รักทุกคนได้เรียนรู้ในบทเรียนนี้นะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย รูปแบบการถามทิศทาง   โครงสร้างประโยคถามแบบตรงๆ (Direct Question) “

โดเมนของความสัมพันธ์

โดเมนของความสัมพันธ์ โดเมนของความสัมพันธ์ r คือ สมาชิกตัวหน้าของคู่อันดับในความสัมพันธ์ r เขียนแทนด้วย กรณีที่ r เขียนแบบแจกแจงสมาชิก เราสามารถหาโดเมนได้เลยโดย คือสมาชิกตัวหน้า เช่น = {(2, 2), (3, 4), (8, 9)} จะได้ว่า  = {2, 3, 8}

NokAcademy_ม2 การใช้ Future Simple กับการตั้งคำถามด้วย Wh-Questions

การใช้ Future Simple กับการตั้งคำถามด้วย Wh-Questions

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไปตะลุย “การใช้  Future Simple กับการตั้งคำถามด้วย Wh-Questions” หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า Future Simple Tense     Future Simple Tense หรือ ประโยคอนาคตกาล เอาไว้พูดถึงเรื่องราวในอนาคต เช่น สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น สิ่งที่จะเกิดขึ้น สิ่งที่จะทำ เป็นต้น

การอ่านจับใจความ

การอ่านจับใจความ เทคนิคที่จะช่วยให้เข้าใจเนื้อหามากขึ้น

ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นได้บ่อยเวลาที่เราอ่านหนังสือเรียนจบแต่เมื่อถึงเวลาไปสอนกลับจำเนื้อหาที่อ่านมาไม่ได้เลย เพราะแท้จริงการอ่านเฉย ๆ ไม่ได้ช่วยให้เราจำเนื้อหาได้ แต่สิ่งที่จะช่วยให้เราได้เข้าใจแก่นของเรื่องที่อ่านจริง ๆ ก็คือการจับใจความสำคัญของเรื่องให้ได้นั่นเองค่ะ บทเรียนในวันนี้จะพาน้องไปเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่อง การอ่านจับใจความ เพื่อช่วยให้สามารถจับประเด็นของเนื้อหาได้ โดยที่ไม่ต้องท่องจำให้เสียเวลาเลยค่ะ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ   การอ่านจับใจความ   เป็นการอ่านเพื่อจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสำคัญหลักของข้อความ หรือเรื่องที่อ่าน เป็นข้อความที่คลุมข้อความอื่น ๆ ในย่อหน้าหนึ่ง ๆ ไว้ทั้งหมด  

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1